xs
xsm
sm
md
lg

แค่ปิดปากไม่พอต้องเคลียร์ให้ชัด-ระวังคนใกล้ชิดทำ “ประยุทธ์” เสื่อม !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



นาทีนี้คงเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่วชาติ ว่า ต้อง “หงุดหงิด” รำคาญใจกับข่าวคราวการวิพากษ์วิจารณ์คนใกล้ชิดโดยเฉพาะกระแสการวิพากษ์วิจารณ์กับคนในครอบครัวของ “น้องชาย” คือ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เพิ่งโหมเข้ามาซ้ำเติมซ้อน ๆ กัน

แน่นอนว่า หากชั่งน้ำหนักจากเรื่องที่ถูกวิจารณ์อยู่ในเวลานี้โดยรวม ๆ แล้ว น่าจะค่อย ๆ เลือนหายไปกับสายลม เว้นแต่มีข้อมูลใหม่ หรือมีเรื่องอื้อฉาวเพิ่มเติมเข้ามาอีก นั่นแหละจะถึงจะเรียกว่า “น่าเป็นห่วง” กว่าที่เป็นอยู่ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ทำลายกัดกร่อนศรัทธาที่สังคมส่วนใหญ่ทุ่มเทให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็น “พี่ชาย” ลงได้ไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งมันก็เหมือนกับ “แต้มสะสม” รอวันปะทุขึ้นมาได้ในอนาคต

กรณีการสร้าง “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการเปิดเผยออกมา มีการเผยแพร่ส่งต่อรูปภาพที่ออกไปในทาง “เวอร์” จนทำให้เกิดความรู้สึกของของชาวบ้านและนำไปสู่การยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้มีการตรวจสอบ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม และพวก กรณีเอื้ออำนวยความสะดวกให้ นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา พล.อ.ปรีชา โดยหนังสือให้ตรวจสอบดังกล่าวให้สอบสวนกองทัพอากาศด้วยที่มีการอนุญาตให้ใช้เครื่องบินของกองทัพสำหรับการเดินทางไปสร้างฝ่ายดังกล่าว โดยอ้างว่า นางผ่องพรรณ ไม่มีสิทธิ์ใช้ แต่ต่อมาทางกองทัพอากาศ ชี้แจงว่า เป็นการประสานขอมาจาก พล.อ.ปรีชา ในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งทาง ป.ป.ช. ก็ได้รับเรื่องไว้พิจารณาตรวจสอบ

ดังนั้น เรื่อง “ฝ่ายแม่ผ่องพรรณ” ก็ต้องรอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งจะใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ และอีกไม่กี่วัน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งตามขั้นตอนแบบนี้แหละเรื่องราวก็จะค่อย ๆ เงียบหายไปก่อน

อย่างไรก็ดี สำหรับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ยังมีเรื่องอื่นให้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง เพราะก่อนหน้านี้หากยังจำกันได้กับกรณีการรับ “ลูกชาย” เข้ารับราชการทหารในกองทัพภาคที่ 3 ติดยศร้อยตรี ตอนนั้นก็มีการวิจารณ์กันถึงเรื่องการใช้ “เส้นสาย” และความเหมาะสม แม้ว่าจะมีการชี้แจงว่าตามระเบียบสามารถทำได้ โดยเฉพาะการชี้แจงทำนองว่า “ที่อื่นก็ทำกัน” จากนั้นเรื่องก็ค่อย ๆ เงียบหายไป

จนกระทั่งมีกรณี “ฝายแม่ผ่องพรรณ” นี่แหละที่ปะทุขึ้นมาอีก และตามมีติด ๆ เมื่อ “สำนักข่าวอิศรา” ไปสืบเสาะมาพบว่ามีบุตรชายอีกรายหนึ่งของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 มีหุ้นส่วนในบริษัทที่เป็นคู่สัญญารับเหมาก่อสร้างหน่วยงานทหารในกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าอย่างน้อย 2 โครงการ รวมวงเงินกว่า 26 ล้านบาท

แน่นอนว่า พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อธิบายว่า เป็นเรื่องการพิจารณาของกองทัพภาคที่ 3 ในการอนุมัติ ตัวเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งบริษัทของลูกชายเขาก็ทำตามขั้นตอนถูกต้องทุกอย่าง จึงไม่มีปัญหาอะไร

นั่นเป็นคำอธิบายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา แต่ไม่แน่ใจว่าสังคมจะเข้าใจและคล้อยความเหตุผลดังกล่าวด้วยหรือไม่ เพราะหากพิจารณาจากสิ่งที่เห็นมันคาบเกี่ยวกับ “เรื่องจริยธรรม” การขัดกันแห่งผลประโยชน์ และที่สำคัญ ก็คือ นี่คือ “ยุคของการปฏิรูป” เรื่องแบบนี้ไม่สมควรเกิดขึ้นมา

อย่าได้แปลกใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา ถึงกับร้อนรนต่อสายมาหา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย ให้ “ระวังตัว และอยู่เงียบ ๆ” และแน่นอนว่า ในคำสนทนาระหว่างคนสองคนนั้นคนนอกคงไม่อาจรับรู้ได้ แต่ก็เชื่อว่า คงต้องมีรายการตำหนิออกมาบ้าง ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องบอกว่าให้ระวังตัว ซึ่งคำว่าระวังนั้นน่าจะมีความหมายในทางที่บอกว่า “อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก” อะไรประมาณนั้น เพราะภาพที่ออกมามัน “เป็นลบ” โดยเฉพาะมันส่งผลสะเทือนต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์ กระทบต่อรัฐบาล และต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกด้วย

อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า กรณีของครอบครัว พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา มันก็เหมือนกับ “แต้มสะสม” ในทางลบ ครั้งแรกอาจไม่มีผลนัก แต่เมื่อเกิดเรื่องให้วิจารณ์ในทางลบในครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ซึ่งต่อไปก็ยังไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นตามมาอีกหรือไม่ แต่หากเกิดซ้ำในทำนองเดียวกัน เชื่อว่า น่าจะเกิดแรงสั่นสะเทือนมากกว่าเดิมแน่นอน

อย่างไรก็ดี ในกรณีของ “ฝายแม่ผ่องพรรณ” เมื่อมีการร้องเรียนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบก็ต้องใช้เวลา ต้องทำให้เกิดความชัดเจน สามารถอธิบายกับสังคมได้ชัดเจน ขณะเดียวกัน สำหรับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา และครอบครัว คงถึงเวลาต้องตระหนักแล้วทำอะไรต้องระวังกว่าคนอื่นสองสามเท่า ที่สำคัญ ในยุคที่การสื่อสารฉับไวการตรวจสอบยิ่งเข้มข้น มันก็อาจเกิดเหตุไม่คาดหมายได้ตลอดเวลา อย่าประมาทเป็นอันขาด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น