xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯย้ำต้องมียุทธศาสตร์ยึด กม.พ้อหาว่าไร้ผลงาน ชี้ มีแผนวางทุกอันขึ้นอยู่กับ รบ.ใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” สรุปแถลงผลงานยาว 5 ชม. ย้ำ ต้องมียุทธศาสตร์ ย้อนสุนัขจะกัดผู้ใหญ่ซะแยะ ชี้ ต้องมีธรรมาภิบาล ยึดกติกา สวนของแพงตามกลไกตลาด จัดการน้ำต้องสร้างระบบบริหารร่วมกัน ปัดผูกขาดงบเว้นบางเรื่องที่จำเป็น ลั่นอย่าให้ใครมาแย่งแผ่นดิน กร้าว รบ. ไม่ได้ทุจริตเหมือน รบ. อื่น ตัดพ้อหาว่าไม่มีผลงาน เปรียบทุกคนคือฟันเฟือง เผย มีแผนวางไว้ทุกอันอยู่ที่ รบ. ใหม่ จะสานต่อหรือไม่ ก่อนร่วมทานข้าวสื่อโชว์ลูกคอมีแอบร้องเหน็บ

วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี การแถลงผลงานรัฐบาล ในโอกาสครบรอบ 2 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวสรุปว่า ทุกอย่างที่ทำต้องมียุทธศาสตร์ เราต้องเดินไปแบบนั้น เดินสะเปะสะปะไม่ได้ อย่างที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บอกไว้ว่า ต้องเดินตามผู้ใหญ่ที่เขาบอกว่าเดินตามผู้ใหญ่สุนัขไม่กัด แต่วันนี้สุนัขจะกัดผู้ใหญ่ซะเยอะ มะรุมมะตุ้มผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ไม่รู้เป็นอะไรกัน เขาก็ทำงานกันแทบเป็นแบบตาย ปั่นป่วนไปเรื่อย ข้างหลังก็เสียหายไปหมดไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ก็แล้วแต่ท่าน

“วันนี้เรามองว่าประเทศเป็นบ้าน ทหาร และตำรวจ เป็นรั้ว ประชาชนเป็นผู้อยู่อาศัยเราต้องการบ้านที่แสนสุข บ้านที่ทุกคนมีความสุข มีความรักความสามัคคี มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รัฐบาล ข้าราชการเปรียบเสมือนพ่อบ้าน ต้องทำให้ทุกคนในบ้านมีความสุขในบ้านหลังนี้ ทุกคนต้องทำตัวให้ดี ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่สร้างความขัดแย้ง ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ต้องเคารพกฎหมาย เหล่านี้คือ ธรรมาภิบาล มีคุณธรรมจริยธรรม ต้องทำให้ได้ มันไม่ยาก มันเกิดจากตัวจากใจของทุกคน ถ้าเราต้องการให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าจะช่วยกันอย่างไร” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ถ้ามีบ้านหลังเดียวเราไม่ต้องทำอะไรมาก กติกาไม่ต้องมีมาก แต่เรามีบ้านหลายหลัง จึงต้องมีกติกา เราถึงจะอยู่ร่วมกันได้ มันจะไปขัดแย้งกันที่การบริหารจัดการตัวเอง เพราะเราไม่ได้อยู่กันแค่นั้น เราอยู่กันตั้งหลายหมื่นหมู่บ้าน คน 77 ล้านคน ถ้าแบบนั้นก็สับสนอลม่านไปหมด เราจึงต้องมีกฎหมาย รัฐธรรมนูญถึงต้องเขียนออกมา แต่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น การแสดงความคิดเห็นต้องไม่ขัดแย้ง ไม่ต่อต้าน ไม่คัดค้าน จนไม่มีเหตุไม่มีผล ตนขอแค่นี้

“เมื่อกี้นั่งอยู่มีคนส่งข้อความมาว่า ไม่ต้องแถลงมากหรอก อย่างไรก็ไม่มีเงินใช้ มันยังจะคิดแบบนี้อยู่ ข้าวของแพง ผมขอถามว่าแพงเท่าไหร่ มันก็แพงตามกลไกตลาด ไม่ผิดปกติอะไร ผมรู้แล้วว่ามันแพง ถามว่ามันแพงเพราะอะไร กว่าจะขายได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ที่ผ่านมาทำไมไม่ทำ มีกติกามีทางเลือกให้เกษตรกร มีประชารัฐ มีตลาด มีชุมชนกันหรือยัง อย่ามองอย่างเดียว มองอยู่ข้างนั้น มองว่า เมื่อไหร่จะมีเงินใส่กระเป๋าตัวเอง แล้วคนอื่นล่ะ คนตรงกลาง คนข้างล่างก็ต้องการ ถ้าไม่ร่วมมือกันจะเอาเงินมาจากไหน เงินมันลอยมาได้ในอากาศหรือ เศรษฐกิจที่สะสมมาเป็นเวลาสิบปี จะสำเร็จได้ต้องใช้เวลาและความร่วมมือ แต่เราต้องแก้ไขและฟื้นฟู ผู้บาดเจ็บก็ต้องให้น้ำเกลือ ให้ยาฆ่าเชื้อ อย่ากลัวเข็ม อย่ากลัวฉีดยา และเข็มให้น้ำเกลือ ถ้ากลัวก็ไม่ต้องหาย ก็ติดเชื้อกันไปเรื่อย ๆ ถ้าเราทำได้แบบนี้ เล็งเห็นความสำคัญมันจะเกิดห่วงโซ่ประเทศไทย” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การบริหารจัดการน้ำ น้ำท่วม น้ำแล้ง เพราะทุกคนจะเอาน้ำหมด มันต้องสร้างระบบขึ้นมาให้ได้คิดร่วมกัน บริหารร่วมกัน การเกษตรและการบริหารจัดการน้ำต้องใช้เวลาเป็นสิบปี รัฐบาลต้องปรับแผนไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่ผูกพันงบประมาณเป็นสิบปีทุกอันที่เขียนเป็นยุทธศาสตร์ มีงบประมาณในวันนี้ที่เขียนให้ดูเท่านั้น แต่จะทำเมื่อไหร่ก็ไปทำกันใหม่ ทำไม่ทำก็เรื่องของท่าน ผมไม่ได้ผูกมัดงบประมาณทั้งหมด เว้นบางเรื่องที่จำเป็น โดยไม่พะวงเรื่องหนี้สาธารณะ ไม่ใช่ว่าใครขอมาก็ให้ และอะไรที่จะสร้างความเข้มแข็ง อะไรที่จับต้องได้บ้าง หมดไปเท่าไหร่จ่ายเงินด้วยวิธีการที่ผ่านมา วันนี้กลับมาไม่ไว้ใจรัฐบาล ลดนี่ลดโน่นให้เขา มันไม่ใช่หน้าที่ของผม คนที่ตัดสินใครผิดถูกไม่ใช่ผม กระบวนการยุติธรรมไปว่ากันมา

“เรื่องการศึกษา ใคร ๆ ก็ว่าไม่ดีขึ้น ก็นี่ขึ้นตั้งเยอะเห็นไหม เขาทำมาร้อยกว่าเรื่องเห็นไหม มันไม่เคยมีระบบแบบนี้มาเลย มันจึงต้องใช้มาตรา 44 เข้ามาให้สั่งการได้ ไม่ใช่เอาไปรังแกใคร คำว่า รังแก ใช้อำนาจ มันจะใช้เพื่อใคร เพื่อผมหรือ เพื่อรัฐมนตรีหรือ เพื่อคนทุกคน ต้องคิดแบบนี้ บางทีก็เสียใจนะ ฟังการวิพากษ์วิจารณ์ผมก็เสียใจว่าจะผมไปทำไม ผมทำให้ใคร ในเมื่อทุกคนไม่ต้องการนี่ ทุกคนต้องการความวุ่นวายสับสนอลหม่านเหมือนเดิม ผมจะทำไปทำไม ทำไปก็เหมือนเดิม แต่ผมทำไม่ได้เพราะแผ่นดินนี้เป็นของคนทุกคน จำเอาไว้นะ อย่าให้ใครมาแย่งแผ่นดินของท่าน และตัวท่านอย่าไปหลงตามเขาไปด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า “ประชาชนบอกว่าคอร์รัปชันยังมีอยู่เลย ยังจะต้องจ่ายเงินพัน สองพันบาท ไปให้เขาทำไม ให้ทำไมล่ะ ทำผิดหรือเปล่า ไปให้เขาก็โง่เอง มาฟ้องผมนี่ และอย่ามาบอกว่ารัฐบาลนี้ทุจริตเหมือนเดิม อะไรคือเหมือนเดิม คดีกี่คดีในศาล ค่าเสียหายเท่าไหร่ ไม่ดูตรงนี้ล่ะ ไปดูเรื่องเล็ก ๆ แล้วมาบอกว่ายังมีทุจริตเหมือนเดิม รัฐบาลนี้ดีแต่พูดมันน่าเสียใจไหมล่ะครับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า เศรษฐกิจใหม่ ตลาดใหม่เปิดไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่บางคนบอกไม่เห็นรัฐบาลนี้ทำอะไร เห็นใจเขาบ้าง รัฐมนตรีเดินทางขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศกี่ครั้ง ตนก็ไป เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขนาดไหน เครื่องบินจะตกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังจะมาทวงว่าต้องอย่างนั้น อย่างนี้ รู้ดีเหลือเกิน ตนไม่ได้โมโห แต่มีอารมณ์นิดหน่อย ตนเป็นคนมีอารมณ์เร็ว

“ทุกคนคือฟันเฟือง รัฐบาลก็เป็นเหมือนพ่อบ้าน มีลูกหลายคน หรือเหมือนเป็นรถยนต์สักคัน ที่กำลังเปลี่ยนเครื่องอยู่จากรถเต่าช้า ๆ จะเป็นรถสปอร์ตเร็วได้หรือไม่ ก็ต้องเปลี่ยนเครื่อง ให้กินน้ำมันน้อยลง มันต้องเปลี่ยนทั้งนั้น ทุกคนคือฟันเฟืองที่มีส่วนสำคัญในการบริหาร ขับเคลื่อนประเทศ ทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง เสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ให้กำลังใจกันบ้าง เป็นกำลังเสริม ถ้าไม่คุย ไม่ฟัง ไม่ยอมรับความเห็นต่าง ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ มันก็ขบกันอยู่อย่างนี้ เวลาพูดก็จะเอาข้างดี ประชาธิปไตย ประชาชน ก็ประชามติเขาผ่านประชาชน มันบอกไม่ถูกต้อง มันพูดเอาดีเข้าข้างตัวเองหมด อันไหนเสียมันไม่เอา แล้วจะไปขยายความให้เขาทำไม อันไหนไม่ดีก็บอกมา อย่าไปเขียนโดยที่ไม่มีข้อมูล สำหรับสื่อมวลชน มีความสำคัญในฐานะที่เป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างรัฐบาล เป็นผู้ส่งสาร ให้ประชาชน เป็นผู้รับสาร ฉะนั้น สื่อมวลชนต้องรักษาความเป็นกลางในการเสนอข้อมูลข่าวสาร ตรงไปตรงมา มีจรรยาบรรณ รัฐบาลกำลังทำให้มีธรรมาภิบาลอยู่” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า เหลือเวลาอีกปีเศษ ก็ต้องไปตามโรดแมป ไม่ต้องตีกันไปตีกันมา สปท. เขาก็ทำงานส่งมา 42 เรื่อง ตนก็ทำไป 37 เรื่องแล้ว ที่เหลือก็ใส่แผนปฏิรูป แผนสภาพัฒน์ แผนยุทธศาสตร์ชาติ มีแผนแม่บทวางไว้ทุกอัน สุดแล้วแต่รัฐบาลที่มาใหม่จะทำหรือไม่ทำ เป็นเรื่องของท่าน เพราะไปเลือกเขาเข้ามา อยากให้ทุกคนได้เคารพซึ่งกันและกัน มีส่วนในการนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน กลับมาเป็นบ้านที่แสนสุข สร้างบ้านหลังใหม่ เสริมฐานรากให้เข้มแข็ง ด้วยการดูแลประชาชนที่รายได้ เกษตรกร และทุกอาชีพ ตนเห็นใจ เข้าใจ พยายามทำทุกอย่างเพื่อประชาชน เพราะทุกคนคือคนไทยบนผืนแผ่นดินไทยทั้งสิ้น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นั่นคือ หัวใจของความเป็นไทยของเราทั้งประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงผลงานดังกล่าว ใช้เวลาไปทั้งสิ้นประมาณ 5 ชั่วโมง จากกำหนดการเดิมที่จะเสร็จสิ้นในเวลา 12.00 น. ปรากฏว่า เลยกำหนดการไปจบในเวลา 14.00 น. โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวซักถามแต่อย่างใด จากนั้นนายกฯ และ ครม. ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับผู้สื่อข่าว ที่บริเวณห้องโถงกลาง ตึกสันติไมตรี กระทั่งเวลา 14.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกไปร้องเพลงร่วมกับผู้สื่อข่าว และวงดนตรี 3 เพลง ประกอบด้วย เพลง “หัวใจแลกเบอร์โทร” และ “เล่าสู่กันฟัง” แต่พอถึงเพลงสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอร้องคนเดียวโดยไม่มีผู้สื่อข่าว คือ เพลง “อยากสวย” ของ เสาวลักษณ์ ลีลาบุตร ซึ่งเมื่อร้องถึงท่อนที่ว่า “ไม่สวยแล้วยังปากเสีย” พล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้นให้เสียงดังมากขึ้น เป็นนัยให้กับผู้สื่อข่าว แต่เมื่อท่อนเดิมวนกลับที่รอบสอง พล.อ.ประยุทธิ์ ได้ทำท่าเอามือตบปากตัวเอง สร้างความครื้นเครงให้กับผู้ที่มาร่วมรับประทานอาหารครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวถามถึงเพลง คสช. เพลงที่ 3 ที่มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีได้แต่งไว้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธ “บอกยังไม่มี ยังไม่ถึงเวลา”














กำลังโหลดความคิดเห็น