“ประจิน” ไร้ปัญหานั่ง รมว.ไอซีที โยนนายกฯ ตอบ “อุตตม” กลับมาเอาเก้าอี้หรือไม่

“บิ๊กจิน” เผยดูแล ก.ไอซีทีอยู่แล้ว มานั่งรักษาการ รมว.ไม่มีปัญหา แจงอยู่จนเปลี่ยนเป็น ก.ดิจิทัล ขอศึกษานโยบายก่อน พยายามทำให้เกิดความต่อเนื่อง รีบทำเรื่องเร่งด่วน ปราบเว็บหมิ่นถือเป็นงานปกติ ไม่หนักใจ โยนนายกฯ ตอบ “อุตตม” หวนนั่ง รมว.หรือไม่

วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ทำหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นการชั่วคราว ว่านายกรัฐมนตรีมอบหมายตนให้กำกับดูแลกระทรวงไอซีทีอยู่แล้วเพื่อความเข้าใจและความต่อเนื่องของงาน จึงไม่มีปัญหา และเมื่อตนต้องเข้ามานั่งรักษาการ งานเซ็นหนังสือซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีก็จะให้เจ้าหน้าที่นำมาให้ตนเซ็นที่ทำเนียบรัฐบาล และตนจะเข้าประชุมชี้แจงที่กระทรวงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

“ผมคงจะรับหน้าที่ดังกล่าวไปสักระยะหนึ่งจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ขณะนี้ถือว่าผมนั่งรักษาการ 2 ระยะ คือ ช่วงที่ยังเป็นกระทรวงไอซีที กับช่วงที่มีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หลังมีการประกาศตั้งกระทรวงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว” รองนายกฯ กล่าว

พล.อ.อ.ประจินกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้ให้ปลัดกระทรวงไอซีทีสรุปรายงานเป็นเอกสารว่าภารกิจของกระทรวงใหม่ รวมถึงโครงสร้างของกระทรวง อัตรากำลังและงานเร่งด่วนเป็นอย่างไร ขณะนี้ตนขอศึกษานโยบายต่างๆ ก่อนว่ามีอะไรบ้าง เพราะตามหลักต้องระมัดระวังทั้งเรื่องนโยบาย การโยกย้ายบุคลากร และการใช้งบประมาณ เพราะเป็นรัฐมนตรีรักษาการก็จะพยายามทำงานให้เกิดความต่อเนื่องโดยไม่ไปแทรกแซงใดๆ และไม่มีความหนักใจกับการเข้ามารักษาการ

ผู้สื่อข่าวถามว่านายอุตตม สาวนายน ที่เพิ่งลาออกจาก รมว.ไอซีทีไปจะได้กลับมาดำรงตำแหน่งในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือไม่ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ต้องถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ต้องพิจารณาถึงจังหวะเวลาว่าจะพิจารณาดำเนินการในช่วงใด “แต่เมื่อวานท่านนายกฯ ก็พูดแล้วนี่”

เมื่อถามว่า การรักษาการของท่านในขณะนี้จะเข้าไปดูในเรื่องของเว็บไซต์ต่างๆ โดยเฉพาะที่หมิ่นสถาบันหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ขอศึกษาก่อนว่างานเป็นอย่างไร และต้องควบคุมดูแลเว็บไซต์ต่างๆ อย่างไร โดยเฉพาะที่มีเนื้อหาหมิ่นเหม่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม งานส่วนนี้ถือเป็นงานปกติที่กระทรวงดำเนินการอยู่แล้ว ดังนั้นขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรายงานเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการมายังตนก่อนว่ามีอะไรบ้างเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และตอนนี้ใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้วจึงต้องรีบทำเรื่องเร่งด่วนก่อน