เด็ก พท. ดัก ขยายอำนาจ ส.ว. เสนอชื่อนายกฯคนนอก ตีความคำถามพ่วงเกินเจตนารมณ์ ม.159 ยังชี้ชัดแยกคนละขั้นตอน เตือน สนช. อย่าตีความบิดเบือน ย้อนไม่ระบุถามให้ชัดเจนแต่แรก ซัด คำถามพ่วงปลอมหลอก ปชช. โหวตรับสืบทอดอำนาจ
วันนี้ (21 ส.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต ทีมสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงความเห็นว่า การจะขยายอำนาจให้ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สามารถเสนอชื่อนายกฯคนนอกได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เขียนไว้ในคำถามพ่วงนั้น ถือเป็นการตีความคำถามพ่วงเกินเลยจากเจตนารมณ์ของผู้ลงประชามติ เพราะในคำถามพ่วง ถามประชาชนแค่เพียงว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีสิทธิให้ความเห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่ได้ถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ ที่ ส.ว. สรรหา จะมีสิทธิ์เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเรื่องนี้คำถามพ่วงเขียนไว้ชัดเจน จะแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากนี้ ในมาตรา 159 ของร่างรัฐธรรมนูญที่เพิ่งผ่านประชามติ ก็ได้แยกกระบวนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ออกจากกระบวนการให้ความเห็นชอบผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไว้เป็นคนละขั้นตอนกัน โดยกระบวนการเห็นชอบนายกฯ เขียนอยู่ในวรรคแรก ส่วนวิธีการเสนอชื่อนายกฯ เขียนไว้ในวรรคที่สอง
ดังนั้น การดึงดันของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะตีความเป็นอย่างอื่น ถือเป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน และขยายอำนาจของตัวเองอย่างน่าเกลียด อันที่จริง หากพวกท่านต้องการให้ ส.ว. สรรหา มีสิทธิเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ ทำไมไม่ระบุไว้ในคำถามพ่วงให้ชัดเจนตั้งแต่แรก มาเปลี่ยนทีหลังอย่างนี้จะเรียกว่าหลอกต้มประชาชนได้หรือไม่
ทึ่ผ่านมา ผู้ที่ออกมาเปิดโปง หรือตั้งคำถามเรื่องเหล่านี้ ถูกดำเนินคดีราวกับเป็นกบฏ และถูกตั้งข้อหาเผยแพร่รัฐธรรมนูญปลอม ทั้ง ๆ ที่ พวกเขาเพียงเป็นห่วงว่าจะมีการสืบทอดอำนาจเผด็จการ อันที่จริง คำถามพ่วงที่ถูกบิดเบือนต่างหากที่สมควรถูกเรียกว่าเป็นคำถามพ่วงปลอม แล้วเอามาหลอกให้คนไปโหวตรับ