นายกฯ ยันแก้ปัญหาน้ำเป็นระบบ มีผลเก็บน้ำสร้างเขื่อนไม่ได้ ยันดูแลเหยื่อราชประสงค์

“ประยุทธ์” รับเป็นธรรมดา กทม.ถูกจัดอันดับสตรีทฟูดดีที่สุด แต่ต้องมีระเบียบ ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ย้ำ รบ.แก้ปัญหาน้ำ เป็นระบบไม่สั่งการชุ่ยๆ ชี้ปัญหาคือสร้างเขื่อนไม่ได้ ปชช.ขัดแย้งไม่ยอมรับส่งผลการกักเก็บน้ำไม่สมบูรณ์ ย้ำภาคกลางยังจัดการได้ ส่วนเหยื่อบึ้มราชประสงค์ดูแลเต็มที่ หลังผู้รับผลกระทบโร่ร้อง สตช.ทวงถามเงินเยียวยา

วันนี้ (17 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าว CNN จัดอันดับให้ กทม.เป็นเมืองที่มีอาหารริมทาง หรือสตรีทฟูดดีที่สุดในโลกว่า เป็นธรรมดาเพราะต่างชาติเขาไม่มีกินตลอดเวลาแบบเรา เรามีกินได้ทุกที่ อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ตนก็ดีใจ แต่บอกจัดระเบียบ ควบคุมความสะอาด มันเป็นความสะดวกที่เป็นเสน่ห์ของเรา แต่ความเป็นระเบียบระบบของกฎหมายก็ต้องมี อร่อยแต่สะอาด ถูกหลักอนามัยหรือไม่ ไม่ใช่สักแต่ว่าขายดี เป็นระเบียบเกะกะการจราจรหรือไม่ ต้องแก้ปัญหาให้หมดถึงจะตอบได้ว่ามันดี ฟังอย่างเดียวแล้วดีไม่ได้ ต้องไปแก้ไส้ใน การท่องเที่ยวดี คนมากขึ้น ความปลอดภัยดูแลแค่ไหน

“ผมไล่ดูแบบนี้ไม่ใช่ยอดตัวเลข จำนวนนักท่องเที่ยวที่มา หยุดราชการแล้วมันดีไม่สนใจ แต่เราจะมีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว วันนี้ก็หางบประมาณโอนอัตราตำรวจท่องเที่ยว ไปอยู่กับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีใครเคยทำบ้างหรือไม่ นี่คือสิ่งยากง่ายสิ่งแตกต่างของรัฐบาลนี้ อย่าไปเอากะพี้หรือเปลือกนอกมาถามกัน ต้องไปถามว่าไส้ในแก้กันอย่างไร ผมไม่ได้โทษท่านเพราะรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยอธิบายแบบผมว่ามีผลกระทบ ผมไม่กระทบกับใครทั้งสิ้น แต่เอาประเทศเป็นหลัก” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสถานการณ์น้ำจากภาคเหนือที่จะไหลลงสู่ภาคกลางในสัปดาห์หน้า ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด ตนได้เอาประสบการณ์จากเหตุที่เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา มาสู่กระบวนการการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดย 1. คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ 2. การบริหารจัดการน้ำจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานที่มีหน้าที่ในการกักเก็บส่งน้ำ ระบายน้ำ และ 3. กระทรวงมหาดไทยจะดูในเรื่องแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และตนสั่งการเน้นย้ำต้องมีมาตรการเพื่อรองรับทุกมาตรการ

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้รับการรายงานว่าสถานการณ์เรายังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมการปล่อยน้ำ การระบายน้ำ และการป้องน้ำได้อยู่ โดยเฉพาะในแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักกำลังเป็นปัญหาเนื่องจากมีฝนตกหนัก แต่ยังไม่มีผลกระทบต่อใครทั้งสิ้น เพียงแต่บางพื้นที่อาจมีน้ำท่วมระยะสั้น มีน้ำขัง ตนจึงให้เฝ้าระวัง บางพื้นที่ที่พื้นดินมีการอิ่มน้ำอาจจะเกิดน้ำเอ่อน้ำท่วมจึงสั่งการให้แก้ทั้งระบบ และเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่จะนำเสนอ พร้อมกับให้เวลา 1-2 วันนี้ให้สร้างการรับรู้ให้ได้ว่าในแต่ละดูแลอย่างไร

“ขณะนี้ปัญหาของเราระบบการกักเก็บน้ำไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเราทำอะไรไม่ได้ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเรื่องเอนหรือเรื่องอื่นๆที่ประชาชนไม่ตอบรับ ซึ่งประชาชนต้องยอมรับในสิ่งที่ทำไม่ได้ และเจอปัญหานี้” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสริมว่า ไม่มีวิธีการอื่น นอกจากการกักเก็บน้ำให้มากขึ้น ทำประตูระบายน้ำ ขุดลอกคลองรัฐบาลนี้ทำทุกวัน สถานการณ์น้ำวันนี้ที่ดีคือ น้ำไหลเข้าเขื่อนเขื่อนสิริกิติ์ โดยจะเป็นผลดีต่อฤดูแล้งหน้า แต่ในส่วนของเขื่อนภูมิพล ยังไหลเข้าน้อยอยู่ ดังนั้นต้องรอปรากฏการณ์ลานีญาเหนือเขื่อนหรือไม่ ทั้งนี้ ตนให้กระทรวงเกษตรฯ กรมชลประทาน กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดมาหารือร่วมกันให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อให้ประชนรับรู้และเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำอย่างไร

นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกส่วน ขณะนี้ประชาชนลุ่มน้ำยมกับลุ่มน้ำน่านปรับตัวอยู่ตลอดเวลา โดยรัฐบาลจะช่วยเยียวยาในกรณีที่จำเป็น วันนี้ต้องทำงานในเชิงรุกในการแก้ไข แต่บางส่วนประชาชนต้องยอมรับว่าจะต้องเป็นพื้นที่ที่เก็บน้ำเพิ่ม อย่างเช่นพื้นที่แก้มลิง ตนคิดว่าเราว่าตอนนี้เราวางใจได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญเราห้ามธรรมชาติไม่ได้ ฉะนั้นขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ เช่นพื้นที่ปลูกข้าวไม่สามารถไปตัดพื้นที่เขได้ มันเกี่ยวพันกันไปหมด

“รัฐบาลนี้ให้ความสนใจในภาพแบบนี้ ไม่สั่งการชุ่ยๆ ไม่ได้ เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน”

เมื่อถามว่า การขุดลอกคูคลองขณะนี้แก้สถานการณ์ได้ทันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะไปทันได้อย่างไร คลองมีขนาดยาว บางที่ขุดไม่ได้เป็นเรื่องของหลักวิชาการ เพราะทำให้ระบบนิเวศเสียหาย มีอย่างเดียวคือการไปทำฝายบนร่องเขาต้นทางเล็กๆ เพื่อชะลอน้ำให้ลงมา และให้พื้นที่ดินชุ่มชื้น หน้าแล้งสามารถปลูกพืชปลูกป่า ปลูกต้นไม้ได้

เมื่อถามว่าภาคกลางยังน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ห่วง สามารถบริหารอยู่ได้ แม้จะมีความเสียหายบ้างในบางพื้นที่ แต่อย่างที่บอกบางพื้นที่สามารถปรับตัวได้ ก็ต้องทำให้เขาเดือดร้อนน้อยที่สุด ตนห่วงทุกอันไม่ว่าภาคไหน เพราะเราคือคนไทยด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 เข้าร้องทุกข์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อทวงถามความช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานรัฐ ว่าตนได้สั่งการไปแล้ว โดยมอบหมายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการให้บูรณาการกันทั้งระบบ ก็ได้ผลเนื่องจากมีการทำความเข้าใจกันแล้ว อย่างไรก็ตาม แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีงบประมาณอยู่ แต่ถ้าต่างคนต่างให้มันอาจจะไม่ได้สร้างผลที่จะเกิดขึ้นโดยตรง หรือไม่เพียงพอก็ต้องเสริมมาตรการต่างๆ ทุกอย่างเดินตามกฎกติกาทั้งหมด

“ที่มีปัญหาอยู่ก็เอามารวมกันทั้งหมด จริงๆ มีการพิจารณาตั้งแต่คราวที่แล้ว ปรากฎว่าก็ยังมีปัญหาอยู่ บางคนตอบรับบ้างไม่ตอบรับบ้าง มันก็จะเป็นกันอยู่แบบนี้ ซึ่งเงินเยียวยามันต้องมีเหตุผลควรจะเท่าไหร่อย่างไรมากหรือน้อยเกินไปหรือเปล่า ผมเข้าใจความเดือดร้อน เห็นใจอยากจะให้เยอะๆ แต่ปัญหาคือกฎระเบียบเขียนไว้ยังไง มันก็ต้องให้เท่านั้นก่อน ทีนี้จะทำยังไงกันต่อ ก็ถามมติ ครม.หรืออะไรซักอย่าง แต่รับรองจะดูแลให้เต็มที่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว