“บุญส่ง” เปิดสัมมนาติวเข้มกกต.เหนือ เตรียมความพร้อมปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวน สอดรับ รธน.ที่บัญญัติ “การไต่สวน” ในคดีเลือกตั้ง ชงตรา กม.ลูกให้ พนง.สืบสวน กกต.มีอำนาจออกหมายเรียก-ตรวจค้นในคดีเลือกตั้งได้ จ่อตั้งสำนักป้องกันโกงเลือกตั้ง
วันนี้ (17 ส.ค.) นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวน เปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้ปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวนให้เป็นมืออาชีพที่ จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นผู้บริหารของสำนักงาน กกต.ในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 120 คน เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวน และรวมรวบความเห็นจากผู้ปฏิบัติไปพิจารณาเสนอแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งทุกระดับ เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญที่ผ่านการออกเสียงประชามติ
นายบุญส่งกล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านการออกเสียงประชามติ ถือเป็นฉบับแรกที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง เพราะบัญญัติให้มี “การไต่สวน” ในคดีเลือกตั้งด้วย จากเดิมที่มีเพียง “การสอบสวน” เท่านั้น ซึ่งจะทำให้ครบองค์ประกอบในการแสวงหาข้อเท็จจริง จากนี้ไปการพิจารณาคดีของศาลจะต้องใช้สำนวนของ กกต.เป็นหลักในการพิจารณา ดังนั้นกระบวนการสืบสวนสอบสวนของ กกต.จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาคดีด้วย
นายบุญส่งยังกล่าวถึงการเสนอความเห็นในการยกร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในหลายประเด็น อาทิ ให้ กกต. หรือบุคคลที่ กกต.แต่งตั้ง โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนของสำนักงาน กกต.เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีอำนาจออกหมายเรียก ตรวจค้น ยึด หรืออายัดเอกสาร หรือ พยานหลักฐานที่ใช้ในการกระทำความผิดกฎหมาย การคุ้มครองพยานในคดีเลือกตั้งและการกันบุคคลเป็นพยาน การจ่ายรางวัลนำจับกับผู้ชี้เบาะแส การเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดให้สูงขึ้น และให้อำนาจศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา มีคำพิพากษาหรือ คำสั่งให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ และกำหนดให้ผู้ที่ไม่ชำระค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งให้เป็นผู้ต้องห้ามไม่ให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมกันนี้ กกต.อยู่ระหว่างการจัดตั้งสำนักป้องกันและปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้งขึ้นใหม่ด้วย