xs
xsm
sm
md
lg

คสช.เชื่อแก๊งบึ้มหวังทำลายความเชื่อมั่นต่อ คสช.และทหาร เป็นไปได้กลุ่มเสียประโยชน์จับมือการเมืองระดับชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธ์
คสช.ชี้มือระเบิดทำงานเป็นทีม เลือกลงมือวันแม่ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว หวังทำลายความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติต่อ คสช.และทหาร ชี้เป็นไปได้กลุ่มผู้เสียประโยชน์จับมือนักการเมืองระดับประเทศ รอดูหลักฐานเชื่อมโยงในที่เกิดเหตุ

วันนี้ (12 ส.ค.) พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการลอบวางระเบิดในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ว่า มีข้อสังเกตว่าการก่อเหตุเกิดในจังหวัดภาคใต้น่าจะทำเป็นขบวนการ ทีมงาน เกิดในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน หวังผลในพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อให้กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่ระเบิดขนาดใหญ่และมีอำนาจทำลายล้างน้อย ต้องการให้เกิดความตื่นตระหนกของประชาชนและสร้างภาพสู่สายตาของต่างประเทศเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะการเลือกก่อเหตุในวันสำคัญคือวันแม่แห่งชาติ และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นพื้นที่สำคัญและเป็นหัวใจของประชาชน รวมถึงทหาร ล้วนแล้วมีความเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น ขอยืนยันว่า คสช.จะรักษาเสถียรภาพความสงบของบ้านเมืองให้ได้

พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า สำหรับสาเหตที่เลือกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้นั้นน่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบเป็นผู้ดำเนินการ แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นกลุ่มไหนอย่างไร หรือเกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องรอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ ทั้งพยาน หลักฐาน กล้องวงจรปิด ขณะนี้ คสช.ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับผู้เสียผลประโยชน์จากนโยบาย คสช.จับมือกับการเมืองระดับประเทศหรือไม่นั้น ทุกอย่างเป็นไปได้หมด แต่ต้องดูความเชื่อมโยง หลักฐานต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ

ส่วนที่เลือกก่อเหตุใน จ.ตรัง บ้านเกิดนายชวน หลักภัย และ จ.สุราษฎร์ธานี บ้านเกิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.นั้น คงต้องรอพยานหลักฐานและความเชื่อมโยงเช่นเดียวกัน ขณะนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ ต้องรอความชัดเจนเจ้าหน้าที่

“หลังเกิดเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อวานจนลากยาวมาถึงช่วงเช้าของวันนี้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) สั่งให้มีการจัดสารวัตรทหาร และสุนัขทหารตรวจตราพื้นที่แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวใน กทม.เพื่อดูแลความเรียบร้อยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งถนนข้าวสาร แยกราชประสงค์ เซ็นทรัลเวิลด์ หรือแหล่งประชาชนรวมตัวกันหนาแน่น รถไฟฟ้า รถใต้ดิน พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุดให้สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีกำลังภาคประชาชน ทั้งอาสาสมัครเขต อำเภอ จังหวัด รวมถึงประชาชน ร่วมสอดส่องดูแล และมีความตื่นตัวมากขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์”


กำลังโหลดความคิดเห็น