เจเอเอส แอสเซ็ท ปั้นโปรเจกต์ชอปปิ้งมอลล์แห่งที่ 3 ของบริษัทฯ ประกาศทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาท เปิดตัวแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ ใจกลางย่านศรีนครินทร์ คาดเปิดให้บริการไตรมาสสุดท้ายปีนี้
นายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อต่อยอดความสำเร็จในธุรกิจชอปปิ้งมอลล์ บริษัทได้เดินหน้าพัฒนาโครงการ “แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์” หลังจากเปิดเดอะแจส วังหิน ในปี 2557 และเดอะ แจส รามอินทรา ในปี 2558 โดยปลายปีนี้ คาดว่า แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ จะเปิดให้บริการได้ โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการชอปปิ้งมอลล์แห่งที่ 3 ของบริษัทฯ ซึ่งได้ใช้งบลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการ ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบที่ทันสมัย และโดดเด่น
“โครงการ “แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์” ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ มีเนื้อที่กว่า 11 ไร่ เป็นอาคารรีเทล 3 ชั้น และชั้นจอดรถใต้ดิน 1 ชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสะดวกสบายด้วยที่จอดรถกว่า 450 คัน มีพื้นที่ขายกว่า 17,000 ตารางเมตร รวมร้านค้าอินเตอร์ และโลคอลแบรนด์ไว้กว่า 100 ร้าน เช่น ซูเปอร์มาร์เกต ร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่นต่างๆ และโรงภาพยนตร์ โดยใช้ชื่อโครงการนี้ว่า แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ เพื่อให้สอดคล้องต่อภาพลักษณ์ และความทันสมัยของโครงการ”
สำหรับลูกค้าเป้าหมายของโครงการ แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ มีทั้งกลุ่ม Gen X หรือกลุ่มครอบครัวที่สนใจสถานที่เดินเล่นพักผ่อน จับจ่ายใช้สอยสำหรับชีวิตในครอบครัว รวมถึงหากิจกรรมพิเศษให้ลูกๆ กลุ่ม Gen Y ซึ่งเป็นนักศึกษา เฟิร์สจ๊อบเปอร์ ไปจนถึงกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 18-35 ปี ที่นิยมสถานที่บรรยากาศดีๆ ร้านกาแฟ ร้านอาหารเก๋ๆ สำหรับนัดพบปะ หรือทำงานกับเพื่อนฝูง และซูเปอร์มาร์เกตที่มีสินค้าครบครัน และกลุ่ม Gen Z ที่เป็นเด็กนักเรียนนักศึกษา อายุน้อยกว่า 18 ปี ที่ชอบของกินร้านดังตามกระแส ร้านอาหารบริการด่วน (QSR) เพื่อนั่งเรียนพิเศษทำรายงานกับเพื่อนๆ รวมถึงมุมสวยสำหรับถ่ายภาพ ซึ่งแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ ได้รวบรวมร้านค้าไว้ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดอย่างครบครัน
ทั้งนี้ คอนเซ็ปต์ในการพัฒาโครงการ แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ จะเน้นการออกแบบที่ทันสมัย และโดดเด่น ประกอบกับการสร้างพื้นที่สีเขียวทั้งภายในอาคาร และรอบโครงการฯ เพื่อสร้างความร่มรื่นเพลิดเพลินให้แก่ผู้มาใช้บริการ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินชอปปิ้งอยู่ในบรรยากาศสบายๆ เหมือนในสวน ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มเวลาการจับจ่ายใช้สอยภายในโครงการฯ แต่ยังทำให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
“ปัจจุบัน โครงการฯ เปิดพรีเซลแล้ว และสามารถปิดการขายพื้นที่ไปได้แล้วกว่า 60% และคาดว่าจะปิดได้ครบ 100% ก่อนเปิดโครงการในช่วงปลายปี โดยมีร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต สตาร์บัคส์ คาซะ เจมาร์ท”