สนช.ซักถาม ป.ป.ช. และ “ประชา” กรณีถอดถอนพ้น รมช.มหาดไทย หลังถูกกล่าวหาแทรกแซงคณะกรรมการองค์การตลาด ตัวแทน ป.ป.ช.ยันพฤติกรรมชัด โทร.สั่งรอง ปธ.บอร์ด อต.ชะลอประชุม ลงโทษอดีต ผอ.โกงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับการมอบหมายงาน เจ้าต้วอ้างโทร.จริงแต่ไม่รู้ว่ามีวาระนี้ แต่รับไร้อำนาจเลื่อนประชุม ด้าน สนช.นัดแถลงปิดสำนวนด้วยวาจา 18 ส.ค.
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ดำเนินการกระบวนการถอดถอนนายประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย ออกจากตำแหน่ง กรณีแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการองค์การตลาด (อต.) กระทรวงมหาดไทย ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ประกอบมาตรา 64 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นขั้นตอนซักถามคู่กรณี คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้กล่าวหา มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร ป.ป.ช.เป็นตัวแทน และนายประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ กรรมาธิการซักถามได้ถามต่อตัวแทน ป.ป.ช.ว่าความผิดของนายประชาที่ใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซง ก้าวก่ายสั่งชะลอการประชุมคณะกรรมการ อต. มีข้อกล่าวหาอะไร เหตุใดไม่นำคำพิพากษาของศาลปกครองที่ระบุว่าคำสั่งในการแต่งตั้งโยก ย้ายบอร์ด อต.เป็นการดำเนินการถูกต้องแล้ว ซึ่งตัวแทนของ ป.ป.ช.ชี้แจงว่าพฤติกรรมของนายประชาเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงการสั่งงานของฝ่ายประจำ โดยได้โทรศัพท์สั่งการไปยังรองประธานบอร์ด อต.ในขณะนั้นให้ชะลอการประชุมบอร์ด อต.ในวันที่ 12 พ.ย. 2555 ที่มีวาระการพิจารณาลงโทษกรณีการทุจริตของนายธีธัช สุขสะอาด อดีต ผอ.อต.ออกไปก่อน แม้นายประชาจะเป็น รมช.มหาดไทยในเวลานั้น แต่ยังไม่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล อต. พฤติการณ์ของนายประชาจึงเป็นการเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานรัฐ ตามความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 เพราะรัฐมนตรีที่มีอำนาจเพียงดูแลเฉพาะเรื่องนโยบายเท่านั้น แต่ไม่มีอำนาจสั่งการให้ชะลอหรือเลื่อนการประชุม อต. ที่เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของบอร์ด อต.
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้สอบถามต่อนายประชาว่าได้โทรศัพท์สั่งให้ชะลอการประชุมคณะกรรมการ อต.ซึ่งจะพิจารณาลงโทษนายธีธัช และมีอำนาจ รมช.มหาดไทย มีอำนาจมากน้อยแค่ไหนในการกำกับ อต. โดย นายประชายืนยันว่า ยอมรับว่าได้โทรศัพท์ให้ชะลอการประชุมบอร์ด อต.วันที่ 12 พ.ย. 2555 โดยไม่ทราบว่าในวันดังกล่าวมีวาระการพิจารณาเรื่องการลงโทษนายธีธัช เจตนาของตนเพียงแค่ให้บอร์ด อต.รอมอบนโยบายจาก รมต.ก่อน เพราะตนได้รับคำสั่งให้กำกับดูแลบอร์ด อต.ในวันที่ 12 พ.ย. 2555 ตนไม่ได้มีความโกรธแค้นบอร์ด อต. หรือรู้จักกับนายธีธัชมาก่อน
“อำนาจในการกำกับดูแล อต.ตาม พ.ร.ฎ.กำกับดูแล อต.ให้อำนาจรัฐมนตรีที่ดูแล หน่วยงานดังกล่าวแตกต่างจากหน่วยงานอื่น โดยให้รัฐมนตรีมีอำนาจเรียกประธานและรองประธาน รวมทั้งพนักงาน อต.มาชี้แจงให้ข้อเท็จจริงหรือทำรายงานได้ และให้อำนาจแต่งตั้งถอดถอน ผอ.อต.ได้ ดังนั้น อำนาจของรัฐมนตรีในการกำกับดูแล อต.จึงครอบคลุมทั้งหน่วยงานและตัวบุคคล จึงมีสิทธิเรียกประธาน อต.มาให้การหรือชี้แจงใดๆ ได้ หากเห็นว่าทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่มีเฉพาะอำนาจกับดูแลเฉพาะเรื่องนโยบายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารัฐมนตรีไม่มีอำนาจไปถึงขั้นสั่งการห้ามประชุมหรือเลื่อนบอร์ด อต.ได้” นายประชากล่าว
อย่างไรก็ตาม ประธานได้นัดให้มีการแถลงปิดสำนวนด้วยวาจา ในวันที่ 18 ส.ค.เวลา 10.00 น.