ประธาน สนช. แจงขั้นตอนบรรจุคำถามพ่วงในร่าง รธน.ใช้เวลาไม่เกิน 90 วัน เล็งเพิ่ม กรธ.อีก 10 คนเพื่อร่างกฎหมายลูกให้ทันตามโรดแม็ป ระบุตัวเลขลงประชามติใกล้เคียงปี 2550
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการลงประชามติว่า ต้องรอให้ กกต.ประกาศผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการก่อน และเนื่องจากคำถามพ่วงผ่านประชามติด้วย ดังนั้นเป็นหน้าที่ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่จะนำร่างรัฐธรรมนูญไปปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อนำคำถามพ่วงบรรจุเข้าในร่างรัฐธรรมนูญ โดย กรธ.มีเวลาในการพิจารณาภายใน 30 วัน จากนั้นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่ามีความถูกต้องเป็นไปตามบริบทและ เจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญหรือใม่ ภายในระยะเวลา 30 วันเช่นเดียวกัน ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นชอบโดยไม่มีการแก้ไข ก็จะส่งกลับมาให้นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯภายในกำหนดระยะเวลา 30 วัน แต่หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าต้องแก้ไขก็ต้องส่งกลับให้ กรธ.แก้ไขภายในเวลา 15 วันก่อนที่ส่งให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงผ่านประชามติเป็นผลดีต่อการเข้าใจในโรดแม็ป และการดำเนินการของ คสช.ที่นำไปสู่การเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น คนที่สงสัยอยู่จะมีความมั่นใจยิ่งขึ้น
นายพรเพชร กล่าวว่า สำหรับการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของกรธ.ในการจัดทำ เพื่อเสนอให้ที่ประชุม สนช.พิจารณาให้ความเห็นชอบ และประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งต้องรอให้รัฐธรรมนูญประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อน แต่ในความเห็นของตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องรอ โดย กรธ.สามารถเตรียมการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไปพลางๆ ก่อน เมื่อร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ก็สามารถย่นระยะเวลาในการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กรธ.ต้องร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจำนวน 8-10 ฉบับ ซึ่งการทำให้เสร็จทั้งหมด ระยะเวลาจะคาบเกี่ยวไปถึงวันประกาศให้มีการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ในช่วงประกาศเลือกตั้งรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้ต้องมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ เช่น กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ดังนั้น กรธ. จะต้องเร่งทำกฎหมายทั้ง 4 ฉบับนี้เพื่อให้สนช.ได้พิจารณาก่อน โดย สนช.มีเวลาในการพิจารณารวม 60 วันเท่านั้น
ส่วนการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์น้อยกว่าประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน โดยการทำประชามติครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์ 54-55 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปี 2550 มีผู้มาใช้สิทธิ์ 57 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจเป็นเพราะสภาพดินฟ้าอากาศ เป็นปัจจัยทำให้ผู้ออกมาใช้สิทธิ์ลดลงก็ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าคาดการเลือกตั้งจะมีเร็วขึ้น โดยเป็นปลายปี 2560 หรือต้นปี 2561 นายพรเพชร กล่าวว่า ตนคิดว่าให้เอาโรดแม็พเดิม บวกระยะเวลาในขั้นตอนการบรรจุคำถามพ่วงในรัฐธรรมนูญเป็นเวลา 60-75 วันด้วย ส่วนภาพของ ส.ว.ต้องรอให้มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการสรรหา ส.ว.ก่อน โดยกำหนดไว้กว้างๆ แต่ให้อำนาจ คสช.ไว้
“อย่างไรก็ตามขณะนี้กรธ.มีจำนวน 21 คน แต่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดให้มีภารกิจมากมาย ดังนั้นก็อาจจะมีการเพิ่มจำนวน กรธ.อีก 10 คน โดย คสช.จะเป็นผู้พิจารณาเห็นชอบ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง แต่ก็ขึ้นอยู่กับกรธ.เป็นหลักว่าต้องการเพิ่มหรือไม่ ซึ่งผู้ที่จะเข้ามานั้นไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่เชี่ยวชาญในเฉพาะด้าน เช่น การเลือกตั้ง พรรคการเมือง เป็นต้น” นายพรเพชร กล่าว