“มหาดไทย” แจงภาพรวมประชามติทั้งประเทศเรียบร้อย ฉีกบัตรมีพวกป่วนแค่สอง นอกนั้นผู้สูงอายุ

ปลัดมหาดไทย เผย สถานการณ์การลงประชามติทั้งประเทศเรียบร้อย แม้มีเหตุความไม่สงบในพื้นที่นราธิวาส รวมทั้งอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่หน่วยลงคะแนน แต่แก้ไขสถานการณ์ได้ ส่วนการฉีกบัตร 32 จังหวัด 43 หน่วย ส่วนใหญ่พบเป็นผู้สูงอายุ มีจงใจฉีก 2 ราย คือ บางนา และ ปทุมธานี พร้อมขอบคุณประชาชนให้ความร่วมมือ

วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ศูนย์ประสานงานติดตามการออกเสียงประชามติ ชั้น 5 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เมื่อเวลา 16.30 น. นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อสนับสนุนการออกเสียงประชามติได้เปิดศูนย์ประสานงานติดตามการออกเสียงประชามติ เพื่อติดตามสถานการณ์การออกเสียงประชามติในวันนี้ตั้งแต่ระหว่างเวลา 08.00 - 16.00 น. กระทรวงมหาดไทยขอเรียนให้ทราบว่า ภาพรวมของสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในช่วงเช้าที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 1 จุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และเมื่อคืนวันที่ 6 สิงหาคม เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 16 จุด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ได้เป็นที่เรียบร้อย

ในส่วนของเหตุการณ์ในพื้นที่อื่น ๆ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถชนเสาเป็นเหตุกระทบถึงหน่วยลงคะแนนในเขตเทศบาลนครตรัง แต่เมื่อถึงเวลาเปิดลงคะแนน ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้เช่นกัน ด้านเหตุการณ์อื่น ๆ หลังเวลา 08.00 น. ที่มีการเปิดลงคะแนนเป็นต้นมา พบเหตุฉีกบัตรลงคะแนน ซึ่งจากการตรวจสอบส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้สูงอายุ เนื่องจากเกิดความเข้าใจผิดในรูปแบบของบัตรลงคะแนนที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ไม่ได้มีเจตนาในการฉีกบัตร ซึ่งในเวลา 11.00 น. กรมการปกครองได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมการปกครองประสานไปยัง กกต. เพื่อขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งสามารถประชาสัมพันธ์ให้ผู้มาลงคะแนนทราบอย่างถูกต้อง ซึ่งสามารถลดจำนวนผู้ฉีกบัตรลงได้

สรุปภาพรวมมีเหตุการณ์เกิดขึ้นใน 32 จังหวัด 43 หน่วย มีร่องรอยการฉีกบัตรโดยเจตนา 2 จุด ในพื้นที่ เขตบางนา กทม. เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยได้ฉีกบัตรโชว์ในหน่วยลงคะแนนขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน และในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และอีกเหตุการณ์ที่หน่วยลงคะแนนในเขตมหาวิทยาลัยขอนแก่น เวลา 16.00 น. หลังปิดหีบลงคะแนน พบว่า ยังมีผู้ไปลงคะแนนเหลืออยู่ 246 คน ซึ่งได้มาแสดงตนก่อนเวลา 16.00 น. ตามกฎหมายแม้จะเลยเวลาก็สามารถลงคะแนนได้ขณะนี้อยู่ระหว่างลงคะแนน สำหรับในพื้นที่ห่างไกล กกต. ประจำจังหวัดจะประสานหน่วยทหารในการลำเลียงหีบบัตรมานับคะแนนยังหน่วยนับคะแนน และขณะนี้อยู่ระหว่างการนับคะแนนที่หน่วยลงคะแนนทั้งหมดกว่า 95,000 หน่วยทั่วประเทศ

“สรุปภาพรวมสถานการณ์ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียนร้อย โดยกระทรวงมหาดไทยต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทั้งประเทศในการให้ความร่วมมือมาลงคะแนนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และขอขอบคุณทุกหน่วยงาน บุคลากรในสังกัดทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ช่วยกันทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถทำให้การดำเนินการลงประชามติในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงด้วยดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการนับคะแนนของหน่วยต่าง ๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะมีการรายงานผล ในภาพรวมต่อไป สำหรับศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยและศูนย์ประสานงานฯ ของกระทรวงมหาดไทยจะทำหน้าที่ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นการนับคะแนน” นายกฤษฎา กล่าว