“นายกรัฐมนตรี” แจงหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าว ยืนยันทำเรื่องความเสียหายโครงการจำนำข้าวเป็นธรรม ในวันแถลงเปิดคดีศุกร์นี้ แจงตัวเลขความเสียหาย 2.8 แสนล้านสำรวจเฉพาะปี 57 แต่เรียกค่าเสียหายมากกว่านี้ เตรียมพิจารณาระบายข้าวเก่า โอดขายไม่ได้ ถูกกดราคา แทรกแซงก็ไม่ได้ ยืนยันต้องมีคนรับผิดชอบ ไปสู้กันในศาล
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 4/2559 ว่าที่ประชุมวันนี้รับทราบถึงสถานการณ์ข้าวในปีนี้และปีหน้า รับทราบสถานการณ์ข้าวในคลัง มีการรายงานเรื่องการจำหน่ายการระบายข้าว และหารือถึงสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเพื่อแสวงหาทางออกตามกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายให้ได้
ทั้งนี้ ขอยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลนี้พยายามอย่างเต็มที่ในการทำให้โครงการรับจำนำข้าวเป็นธรรมมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและกำลังเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งในวันศุกร์นี้จะมีกระบวนการพิจารณา ตนจึงไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะจะมีผลในทางคดี
ส่วนเรื่องตัวเลขที่มีการพูดมาแล้วนั้นเป็นการพูดสั้นไปนิด นั่นเป็นการสำรวจเมื่อปี 2557 ที่มีการรับบัญชี สำรวจประเมินความเสียหายเท่านั้นอยู่ ซึ่งข้าวที่อยู่ในคลังจะมีความเสียหายมากยิ่งขึ้น จึงคาดการณ์ว่าอาจจะมีความเสียหายมากขึ้นไปกว่านั้นอีก ก็ขอให้เป็นเรื่องกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล ขอให้ทุกคนสบายใจ วางใจว่าทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าเมื่อเราให้โอกาสในทางสู้คดีแล้วก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันกันให้ได้เท่านั้นเอง ก็อยากให้สังคมให้ความมั่นใจ เราล้มคดีกันไม่ได้อยู่แล้ว คดีก็คือคดี หน้าที่ตนคือนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทุกคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวเลข 2.8 แสนล้านบาทจะดำเนินการเรียกค่าเสียหายได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ทั้งหมดไม่ใช่ 2 แสนกว่าล้าน ซึ่งในวันที่ 5 ส.ค.จะมีการเริ่มแถลงเปิดคดีเรื่องเหล่านี้ อันนั้นเป็นเรื่องความรับผิดชอบความเสียหายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มีสองอย่างทั้งของรัฐบาล และอดีตรัฐมนตรี ตัวเลขเดิมคือ 2.8 แสนล้าน และ 2 หมื่นล้าน เดี๋ยวจะเข้าสู่กระบวนการ โดยรัฐบาลมีหน้าที่นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่าไปมองตัวเลขมากนัก เพราะอาจจะมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากข้าวขายไม่ได้จะเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ และจะขายมากๆ ก็ไม่ได้ เพราะต้องดูราคาตลาดด้วย
ส่วนตัวเลขข้าวที่ยังค้างอยู่ในโกดังนั้น เวลานี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้คำนวณไว้แล้ว เบื้องต้นคิดไว้ว่าความเสียหายอยู่ที่ 2.8 แสนล้าน หากเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็ต้องสรุปตัวเลขอีกที ซึ่งต้องมีทั้งค่าใช้จ่ายและเรื่องราคาข้าว ตรงนั้นจะบวกขึ้นไปอีก ขณะที่การระบายข้าวก็มีแผน การระบายอย่างรัดกุม จากการประเมินไว้ในปีหน้าการบริโภคลดลง แต่การผลิตมีสต๊อกค้างอยู่มากในหลายประเทศ ดังนั้นต้องพิจารณาเรื่องการระบายข้าว ปัญหาคือเราอยากระบายข้าวให้เร็ว ไม่อยากให้มันเสื่อมสภาพ เพียงแต่มันขายไม่ได้เอง และบางทีราคาก็ต่ำเกินไป อีกทั้งเราจะเข้าไปแทรกแซงการตลาดก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายในราคาข้าว นี่คือปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในเรื่องการระบายข้าว นอกเหนือจากปัญหาทางคดี แต่เรื่องทุจริตหรืออะไรก็ไปว่ากันในศาล
เมื่อถามว่าในเรื่องของคดีส่วนหนึ่งมีการกังวลว่าสุดท้ายตัวบุคคลที่ต้องรับผิดชอบ อาจจะหนีคดีไปต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ ต้องรอให้เขาตัดสินมา เราส่งขึ้นไปแล้วเขาก็จะพิจารณา ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาก็มีสิทธิในการต่อสูคดี ตรงนี้เป็นกลไกของศาล ซึ่งรัฐบาลส่งดำเนินการ และหากจะมีคดีอาญา มันก็จะพันกันอยู่ในนี้ทั้งหมดแต่เขาก็มีสิทธิ์จะอุทธรณ์
เมื่อถามว่า ยืนยันได้ว่าจะต้องมีผู้รับผิดเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันต้องมีสิ ไม่มีได้ยังไง ต้องมีคนรับผิดชอบว่าใครเป็นคนทำให้เสียจริงหรือไม่ ทุจริตจริงหรือไม่ก็ไปสู้กันในศาล ตนมีหน้าที่สรุปขึ้นไปให้ได้ และศาลก็ต้องไปสืบต่ออีกเยอะแยะหลายอย่าง