xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต๊อก” ชี้ทนายสมเด็จช่วงแจงมั่วอาจถูกฟ้อง ยกเจตนา รธน.ให้นึกถึงก่อนปฏิวัติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (แฟ้มภาพ)
รมว.ยธ.ยินดีทนายสมเด็จช่วงจะฟ้องตามกระบวนการยุติธรรม ชี้ต่างจาก พงส.ที่ไม่มีโอกาสแจง ย้อนแจงมั่วอาจถูกเอาผิดได้ แนะอย่าดูแต่ข้อมูลตามสื่อ ย้ำไม่ก้าวก่ายสืบสวน ปล่อย ขรก.ประชามติปกติ ดักอย่าเอาผลมาผูกความนิยม ไม่วิตกผล ชี้เจตนา รธน.ให้นึกถึงเหตุก่อนรัฐประหาร สวน รธน.เก่าไม่มีความขัดแย้งหรือ ย้ำมุ่งไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ เย้ยไม่นับถือคนที่พูดเก่ง ท้ากล้าขวางประชามติก็ออกมา

วันนี้ (3 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าคดีรถยนต์ยี่ห้อ Mercedes benz หมายเลขทะเบียน ขม 99 กทม. ในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ที่ฐานะทนายความออกมาระบุว่าจากแถลงความคืบหน้าของดีเอสไอยังไม่พบว่าสมเด็จช่วงมีความผิดตามกฎหมายที่ได้กล่าวมาว่า คนที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมต้องหาความเป็นธรรมก็ชอบแล้ว และไม่ว่าจะเป็นทนายความคนใดก็ต้องแสวงหาความเป็นธรรมให้ลูกความตนเอง เราก็ยินดีที่เขาเดินตามกระบวนการยุติธรรม อะไรที่เห็นว่าพนักงานสอบสวนทำไม่ถูกในกระบวนการยุติธรรมก็ฟ้องได้ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

“แต่สิ่งที่ทนายชี้แจงออกมาถือเป็นเรื่องที่ทนายทำหน้าที่ของตัวเองไป แต่ก็จะสร้างความสับสนให้ประชาชนได้บ้างเช่นกัน ขณะที่พนักงานสอบสวนไม่มีโอกาสได้ชี้แจง เพราะบางเรื่องอยู่ในสำนวนแล้วจึงแถลงไม่ได้ ถ้าแถลงก็ผิด ต่างจากทนายความที่ชี้แจงได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าผิดก็ได้เหมือนกัน” รมว.ยุติธรรมกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ทนายความออกมาระบุว่ายังไม่มีการแจ้งข้อหาสมเด็จช่วง แต่กลับออกมาระบุว่าสมเด็จช่วงครอบครองผิดกฎหมาย พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนใช้กฎเกณฑ์อะไรในการดำเนินการ และไม่รู้ว่าทนายนำข้อมูลมาจากไหน พนักงานสอบสวนได้ชี้แจงผ่านเอกสารหน้าเดียว ซึ่งทนายความต้องไปอ่านเอกสารหน้านี้แล้วตีความตามนั้น อย่าไปดูข่าวตามสื่อแล้วออกมาพูด เพราะบางเรื่องอาจจะเป็นความคิดเห็นของสื่อตามข้อมูลองค์ประกอบก็ได้ ถ้าทนายความอ่านตามนั้นก็ไม่ใช่ข้อคิดเห็นของพนักงานสอบสวน ซึ่งตนได้สอบถามอธิบดีแล้ว ทราบว่าบางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่พนักงานสอบสวนชี้แจงไปตามที่แจก

เมื่อถามว่าได้รับรายงานที่กรมสรรพสามมิตได้ประเมินภาษีการครอบครองรถสมเด็จช่วง 6.8 ล้านบาทแล้วหรือยัง รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน และตนเคยบอกแล้วว่าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือไปลงรายละเอียดงานสอบสวน แต่ก็อยู่ในองค์ประกอบขอข้อมูลที่พนักงานสอบสวนใช้อยู่ที่ใช้ในการทำงาน

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวต่อถึงกรณีโค้งสุดท้ายก่อนทำประชามติว่า ตนไม่เคยสั่งการอะไรกับข้าราชการในกระทรวง ปล่อยให้การทำประชามติเป็นไปตามปกติ อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ที่ออกมาครั้งแรกไม่มีเรื่องประชามติ แต่รัฐบาลและ คสช.แก้ไขให้มีการทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะจะให้ทุกคนร่วมเขียนไม่ได้ต้องผ่านองค์กรหนึ่ง และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรไม่วิตก เพราะเป็นกระบวนการที่กำหนดไว้ อย่านำมาผูกเกี่ยวกับความนิยม รู้อยู่แล้วว่าจะมีการโยงแต่ก็ต้องทำเพราะเราแก้ให้มันมี การเขียนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายทุกฉบับ มันมีทั้งผู้ได้และเสียประโยชน์ แต่เจตนาของการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้คืออะไร อยากให้นึกถึงเหตุการณ์ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“เราเคยใช้รัฐธรรมนูญ 40 หรือ 50 โดยรัฐบาลเลือกตั้ง แล้วทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งหรือไม่ มีบางคนออกมาพูดทั้งๆ ที่เคยบริหารด้วยรัฐธรรมนูญปี 50 มาแล้ว ขอถามหน่อยว่าคุณใช้มาแล้วไม่เห็นว่ามันทำให้เกิดปัญหาหรือ คุณเป็นรัฐบาลบนพื้นฐานความขัดแย้งด้วยซ้ำไปตอนปี 53 ใช่หรือไม่ ดังนั้นผมว่ามันอยู่ที่ผู้ปกครองที่ใช้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ การบอกว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้ แก้ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาการทุจริตไม่ได้ ทั้งหมดก็บริหารด้วยรัฐธรรมนูญ 40, 50 ทั้งนั้น แล้วไม่มีความขัดแย้งหรือ องค์ประกอบอันหนึ่งมันอยู่ที่ตัวผู้ปกครองไม่ใช่หรือ ไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญเสมอไป การเขียนรัฐธรรมนูญแต่ละประเทศอยู่ที่บริบทและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น คสช. บอกแล้วว่า พยายามไม่ให้เกิดปัญหาอีก ต้องนึกถึงเหตุการณ์ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 ด้วย ว่าเกิดอะไรถึงเขียนแบบนี้ หากเอาไปพูกเรื่องประชาธิปไตยหรืออะไรก็พูดได้ทั้งนั้นไม่จบหรอก ผมอยากหาคนที่ปฏิบัติเก่งๆ อย่ามาพูดเก่งกับผม ผมไม่นับถือหรอก” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

เมื่อถามว่าประเมินสถานการณ์วันที่ 7 ส.ค. เกรงว่าจะมีคนออกมาขัดขวางการลงประชามติเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ตอบว่า “กล้าหรือ ก็ออกมาสิ จะออกมาทำไม จะออกมาคัดค้านเพื่ออะไร แล้วคนคัดค้านทำอะไรบ้าง ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 คุณทำอะไรกันบ้าง ไม่เห็นใครแก้ปัญหา พอมีคนเข้ามาแก้ปัญหาก็มีคนออกมาพูดเรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมพูดอย่างเดียวว่าหลังประชามติไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน ผมก็ทำหน้าที่ของผมให้หนักขึ้น เวลาที่เหลืออีกปีกว่าหากผมยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ผมก็ทำงานให้มากขึ้นส่วนหลังจากนี้ใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ว่ากันเอง หน้าที่ผมตอนนี้คือทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จึงไม่วิตกเกี่ยวกับผลประชามติ”


กำลังโหลดความคิดเห็น