“สมชัย” ระบุประชาชนไม่จำเป็นต้องเข้าใจเนื้อหาร่าง รธน.ทั้งหมด แค่รับทราบเนื้อหาที่สำคัญๆ ก็พอ แต่ห่วงจะลงคะแนนตามการชี้นำเป็นเรื่องอันตราย ทำลายชาติ บอกหากมีผู้ใช้สิทธิน้อยกว่า 57% ถือว่า กกต.มีปัญหา เผยประกาศผลอย่างเป็นทางการใน 3 วัน ส่วนผลเบื้องต้นรู้ใน 4 ชั่วโมง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ยอมรับว่าประชาชนยังไม่มีความเข้าใจเนื้อหาสาระร่างรัฐธรรมนูญ แต่ในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็เชื่อว่าประชาชนไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่ผลการออกเสียงที่ออกมาเหมือนกับเอาสีไประบายตามพื้นที่ต่างๆ ดังนั้นจึงเห็นว่าไม่จำเป็นที่ประชาชนต้องเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด แต่ควรรับทราบเนื้อหาสำคัญและชั่งน้ำหนักเองว่าสิ่งที่ตัวเองสนใจกับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ออกมาดีหรือไม่ ถ้าดีก็รับ ไม่ดีก็ไม่ต้องรับ ดีกว่าจะบอกว่าไม่ต้องสนใจอะไรถ้าเชื่อผมก็กาซ้ายหมด หรือกาขวาหมด เพราะการพูดเช่นนี้เป็นการทำร้ายประเทศชาติ เนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่ไม่มีเหตุผลแต่ใช้พวกมากลากไปเป็นเรื่องที่อันตราย
นายสมชัยกล่าวว่า ก่อนจะถึงวันออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ยังมีเวลาที่จะให้ข้อมูลต่อประชาชนเกี่ยวกับเนื้อหาสาระร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น โดย กกต.ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 80 ซึ่งความสำเร็จของ กกต.ในการรณรงค์ออกเสียงประชามติต้องวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิมากกว่าในปี 2550 ที่อยู่ที่ร้อยละ 57% แต่ถ้าต่ำกว่า 57% ก็ถือว่าการทำงานของ กกต.มีปัญหา
สำหรับผลการออกเสียงประชามติจะใช้เวลา 3 วันก่อนที่จะประกาศได้อย่างเป็นทางการ แต่ผลไม่เป็นทางการจะรายงานได้หลังปิดหีบราว 4 ชั่วโมงโดยใช้การประเมินผลแบบเรียลไทม์ผ่านแอพพลิเคชั่นคือประมาณ 2 ทุ่มของวันที่ 7 ส.ค.น่าจะรายงานผลได้แล้วซึ่งจะเหลือส่วนที่อาจจะยังมาไม่ถึงประมาณล้านกว่าคะแนน ดังนั้น ถ้าคะแนนไม่เป็นทางการออกมาสูสี เช่น ชนะกันหลักหมื่น หรือหลักแสน รับรองว่ามีคนนอนไม่หลับไป 3 วัน เพราะต้องรอผลอย่างเป็นทางการจากทุกหน่วยที่เซ็นรับรองส่งให้เขตมายังส่วนกลาง แต่ถ้าแพ้ชนะเกินล้านขึ้นไปก็คงไม่มีใครสนใจคะแนนเป็นทางการ เพราะจะไม่มีพลิกแล้ว แต่ถ้าหลักหมื่นมีลุ้น
