เลขาฯ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบ “หมอเปรมศักดิ์” ละเมิดจริยธรรมข้าราชการการเมือง หมั่นเด็ก ม.5 กักขังนักข่าว เลขาฯ ผู้ตรวจฯ เผยเป็นอำนาจที่จะสามารถตรวจสอบได้
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายธาวิน อินทรจำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กรณีกระทำการเข้าข่ายฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309, 310 ประกอบมาตรา 84 และฝ่าฝืนหรือขัดต่อจริยธรรมข้าราชการการเมืองท้องถิ่นฝ่ายบริหารอย่างร้ายแรง
โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า การที่ นพ.เปรมศักดิ์ กระทำการกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้สื่อข่าว ถือว่าเข้าข่ายละเมิดประมวลกฎหมายอาญา เข้าข่ายฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมืองท้องถิ่นฝ่ายบริหาร ทั้งที่ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นถึงอดีต ส.ส.หลายสมัย อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ จบการศึกษาระดับปริญญาเอก จบการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ และจบปริญญาโทด้านพุทธศาสนา ดังนั้นควรจะมีวุฒิภาวะที่เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม เยาวชน และประชาชนทั่วไป แต่กลับไปทำการหมั้นหรือแต่งงานกับเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะซึ่งยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ชั้น ม.5 ทั้งๆ ที่ตนเป็นผู้บริหารเทศบาลเมืองดังกล่าว ถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชาของโรงเรียนดังกล่าวอยู่ด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจาก นพ.เปรมศักดิ์ เป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมเป็นที่สนใจของสาธารณชน เมื่อสื่อสารมวลชนได้รายงานข่าวดังกล่าวก็ย่อมชอบที่จะกระทำได้ แต่ก็ไม่สำนึกถึงผลแห่งการกระทำ นพ.เปรมศักดิ์ กลับไปแจ้งความเอาผิดต่อผู้สื่อข่าว ทั้งที่เป็นผู้มีตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ย่อมเป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องถูกตรวจสอบได้ ดังนั้นจึงขอให้ผู้ตรวจการฯ ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่และไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวโดยเร็ว
ด้านนายธาวินกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการฯ ที่จะสามารถตรวจสอบได้ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณี คือ การหมั้นกับเยาวชน แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ นพ.เปรมศักดิ์เป็นผู้บริหารท้องถิ่นก็อาจจะมีปัญหาความเหมาะสม และการกระทำต่อผู้สื่อข่าว เพราะ นพ.เปรมศักดิ์ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาจจะต้องมีหนังสือแจ้งให้ชี้แจงรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยส่วนที่ทางจังหวัดได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นคนละส่วน ซึ่งทางผู้ตรวจการฯ ก็สามารถดำเนินการไปได้เลย โดยไม่ต้องรอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการที่ทางจังหวัดตั้งขึ้น
