“นายกรัฐมนตรี” แนะสร้างฝายขนาดเล็กทั่วประเทศเก็บกักน้ำ พร้อมปลูกป่าสร้างความชุ่มชื่น หลัง “หม่อมปนัดดา” นำทีมประชาสัมพันธ์โครงการ “84 ฝาย ถวายราชินี” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขณะเดียวกันยังร่วมรณรงค์ให้เยาวชนประหยัดน้ำ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (26 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุม ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี เข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ 84 ฝาย ถวายราชินี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ กิจกรรมเพื่อดูแลป่าโดยการสร้างฝายชะลอน้ำ เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้มีส่วนร่วมช่วยกันสร้างจิตสำนึกในการรักษาผืนป่า โดยจะดำเนินการสร้างฝายจำนวน 84 ฝายในพื้นที่ป่าเขาแด่น อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวทางที่จะได้ทำฝายขนาดเล็กทั่วประเทศ รวมถึงเขาหัวโล้น เพื่อที่จะให้ฝายทำหน้าที่กักเก็บชะลอน้ำเพื่อให้เกิดความชุ่มชื่น ขณะที่ป่าถูกทำลายเป็นเขาหัวโล้นเราต้องร่วมกันปลูกป่า ให้เกิดความร่มเงาในผืนป่าคราวเดียวกัน
จากนั้น นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการประปานครหลวง นำตัวแทนสถาบันการศึกษาเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม “water rager ปฏิบัติการพิทักษ์น้ำ ปีที่ 5” ซึ่งเป็นกิจกรรมรณรงค์ให้เยาวชนเกิดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการอนุรักษ์ ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน พร้อมปลูกจิตสำนึกในการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ซึ่งมีโรงเรียนเข้าร่วมกว่า 15 โรงเรียน โดยการประปานครหลวงจะสนับสนุนโรงเรียนละ 10.000 บาท เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำอย่างประหยัด และหากโรงเรียนใดมีแผนการรณรงค์ที่น่าสนใจสามารถทำได้จริงจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล
โดยนายกรัฐมนตรีได้ทดสอบดื่มน้ำเพื่อยืนยันว่าน้ำประปาสามารถดื่มได้จริง เพราะที่บ้านก็ดื่มน้ำประปา อยากให้คนไทยหันมาดื่มน้ำประปาแทนน้ำบรรจุขวดที่มีราคาแพง เพราะได้รับการพิสูจน์และยอมรับจากทั่วโลกแล้วว่าเป็นน้ำที่สะอาด ขณะเดียวกัน นายกฯ กล่าวกับนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมว่าต้องช่วยกันสร้างกระบวนการการเรียนรู้ รวมถึงกระบวนการการปลุกจิตสำนึกถึงความสำคัญของน้ำ ตั้งแต่ต้นเหตุยันปลายเหตุ โดยจะต้องทราบว่าน้ำเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปจะต้องรู้จักในการรักษาและประหยัด
นอกจากนี้ยังได้พูดถึงเรื่องของการศึกษาว่าจะต้องหาตัวเองให้เจอในการเรียนรู้ ประกอบกับต้องรู้ว่าประเทศ และโลกมีความต้องการอะไร ซึ่งเราควรเลือกเรียนให้ตรงกับความต้องการ และขณะนี้ประเทศไทยเองกำลังเดินหน้าไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เราต้องเรียนรู้และปรับตัวไปด้วยกัน ขณะเดียวกัน ขอให้นักเรียนอย่าฟังคำบิดเบือน และต้องคิดเองว่าสิ่งที่ฟังมาถูกต้องหรือไม่ เพราะเยาวชนถือเป็นอนาคตของชาติ ขออย่าทำให้เป็นเหมือนเดิมอีก