“ศาลปกครองสูงสุด” ไม่รับคำฟ้อง “เรืองไกร” ให้ออกประกาศกำหนดวันออกเสียงประชามติใหม่ -เพิกถอนร่างรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่ผู้มีสิทธิฟ้องคดี และการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่การกระทำทางปกครองที่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาล
ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งไม่รับฟ้องในคดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณี กกต.ได้มีประกาศกำหนดวันออกเสียงประชามติในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2559 ก่อนที่จะมีการประกาศใช้บังคับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ซึ่งมีผลใช้บังคับในวันที่ 23 เม.ย. 2559 และให้ กกต.ชดใช้เงินที่จ่ายไปเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่าการประกาศกำหนดวันออกเสียงประชามติในราชกิจจานุเบกษา โดยเจตนารมณ์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปทราบกำหนดวันออกเสียงและไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติตามวันเวลาที่กำหนด ซึ่งไม่ปรากฏว่ากรณีดังกล่าวก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่นายเรืองไกรอย่างไร อีกทั้งไม่ปรากฏว่า กกต.ละเลยไม่ดำเนินการตามหน้าที่ที่ต่อเนื่องจากการกำหนดวันออกเสียงประชามติซึ่งอาจส่งผลต่อประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงรวมทั้งนายเรืองไกร
ส่วนคำขอให้ชดใช้เงินที่จ่ายไปเกี่ยวกับการออกเสียงประชามตินั้น นายเรืองไกรไม่ได้แสดงถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี และไม่ได้มีคำขอให้ชดใช้เงินแก่ตัวเอง นายเรืองไกรจึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา
นอกจากนี้ ศาลปกครองสูงสุดยังมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้องของนายเรืองไกร ยื่นฟ้องประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (ปธ.กรธ.) กรณีขอให้สั่งเพิกถอนร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก กรธ.ไม่ออกหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากบุคคลทั้ง 4 กลุ่มก่อนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ตามที่รัฐธรรมนูญ 2557 มาตรา 39/1 วรรคสองกำหนด
โดยศาลให้เหตุผลว่า กรธ.เป็นคณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เพื่อทำหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญและหน้าที่อื่นตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญเท่านั้น มิใช่การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ อีกทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และกำหนดเวลาการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญโดยไม่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายอื่นอีก จึงมิใช่การกระทำทางปกครองหรือการใช้อำนาจทางปกครอง ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา