“กรมการปกครอง” จี้ 40 จังหวัดเคลียร์โครงการตำบลละ 5 ล้านเพิ่มเติม หลังพบจำนวนโครงการไม่ตรงตามที่สำนักงบประมาณอนุมัติ 2.8 หมื่นล้านบาท กว่า 6,187 โครงการ หลังสั่งให้สรุปตั้งแต่สิ้นเดือน มิ.ย.ที่ยังค้างบันทึกกว่า 1.3 หมื่นโครงการ ด้าน อปท.ทั่วประเทศจ่อขาดสภาพคล่องในการบริหารงาน ร้องนายกฯ ใช้ ม.44 ตรวจโครงการตำบลละ 5 ล้าน เผย “บิ๊กตู่” สั่งมหาดไทยหารือแปรญัตติงบ อปท.เพิ่มเติม เล็ง “ปรับภาษีโรงเรือน” ที่ไม่เคยปรับมานานแล้ว
วันนี้(7 ก.ค.) มีรายงานว่า อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งโทรสารด่วนที่สุดที่ มท 0319/ ว15666 ถึงปลัดจังหวัด 40 จังหวัด ให้ตรวจสอบข้อมูลในระบบ ณ วันที่ 5 ก.ค.59 ของโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) ผ่านเว็บไซต์ http://tambon.dopa.go.th มีจังหวัดที่บันทึกข้อมูลไม่ครบถ้วน และจำนวนโครงการไม่ตรงตามที่สำนักงบประมาณอนุมัติ จำนวน 40 จังหวัด จำนวน 6,187 โครงการ จึงขอให้ทางปลัดจังหวัดชี้แจงปัญหาหรือข้อขัดข้องที่ไม่สามารถดำเนินการตามข้อสั่งการได้ โดยให้ชี้แจงมาภายในวันที่ 8 ก.ค.นี้ ลงนามโดยนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองอธิบดีกรมการปกครอง
มีรายงานว่า 40 จังหวัดที่ไม่สามารถชี้แจง การลงบันทึกโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท ได้ประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี ชัยนาท สระบุรี ปราจีนบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยภูมิ อำนาจเจริญ บึงกาฬ หนองบัวลำภู หนองคาย มหาสารคาม นครพนม เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ พิจิตร เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี ระนอง ชุมพร สงขลา ตรัง และยะลา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด เพื่อให้รายงานสรุปการบันทึกข้อมูลโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) ผ่านเว็บไซต์ http://tambon.dopa.go.th หลังจากเบื้องต้น กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบการบันทึกข้อมูลโครงการผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว พบว่า มีจังหวัดที่บันทึกข้อมูลครบถ้วน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย นราธิวาส พัทลุง ภูเก็ต และ ราชบุรี จำนวน 6,522 โครงการ แต่ยังมีจังหวัดที่ยังบันทึกไม่ครบถ้วน 67 จังหวัด จำนวน 13,036 โครงการ และบันทึกข้อมูลเกิน 38 โครงการ โดยขอให้บันทึกข้อมูลให้ครบถ้วนให้แล้วเสร็จวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ตำบล ได้รับอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง จำนวน 121,324 โครงการ แต่อำเภอ บันทึกลงเว็บไซต์ดังกล่าว เพียง 108,326 โครงการ หลังจากกรมบัญชีกลางได้จัดตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายได้แล้ว 28,958 ล้านบาทของวงเงินรวม 36,462 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 79.42 และเริ่มทยอยเบิกจ่ายเงินอย่างต่อเนื่อง
มีรายงานด้วยว่า ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า รัฐบาลและ คสช.ทำงานไม่รอบคอบ ไม่เข้าใจพื้นที่และศักยภาพของแต่ละตำบล เงินจำนวนมหาศาลที่ส่งลงมา ให้เฉพาะกรมการปกครองดำเนินการไม่ส่งผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทั้งๆ ที่มีเครื่องมือพร้อม คนพร้อม โครงการใดที่เหมาะสมกับท้องถิ่น ต้องให้ฝ่ายบริหารกับฝ่ายสภาท้องถิ่นเขาพิจารณา พอเงินลงไปที่กำนันผู้ใหญ่บ้านการจัดซื้อจัดจ้างก็ไม่มีระเบียบรองรับเลยเกิดปัญหามีการทุจริต ส่งมอบวัสดุไม่ตรงต่อความต้องการของชาวบ้าน
“อีกทั้งขณะนี้หน่วยงาน อปท.ทั่วประเทศขาดสภาพคล่องในการบริหารงาน แทบไม่ต้องทำอะไร งบแต่ละเดือนที่ได้รับจากคลังใช้จ่ายเป็นเงินเดือนให้ข้าราชการและลูกจ้างก็เหลือไม่ถึงร้อยละ 10 เงินสำหรับบริหารดูแลสาธารณูปโภค ถนนหนทางแทบไม่มี งานซ่อมแซมบ่อบาดาล แหล่งน้ำ อยากให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ลงมาตรวจสอบ โดยใช้มาตรา 44 เช่น โครงการตำบลละ 5 ล้านบาท”
มีรายงานด้วยว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาสำนักงบประมาณตัดงบประมาณในส่วนเงินอุดหนุนเฉพาะกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในปีงบประมาณ 2560 เป็นวงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้สมาคมและผู้บริหาร อปท.ต่างๆ เรียกร้องให้จัดสรรเงินเพิ่มเติม เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการและการบริหารท้องถิ่นอย่างมาก
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ว่า ความจริงแล้วที่มีการพิจารณาในชั้นต้น ปกติต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่ อปท.ปีละ 35% ของวงเงินงบประมาณ แต่ไม่สามารถจัดสรรได้ครบเพราะรายได้ประเทศน้อยลง จึงมอง “เรื่องการปรับภาษีโรงเรือน” ที่ไม่เคยปรับมานานแล้ว คาดว่า อปท.จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 4 หมื่นล้านบาท จึงพิจารณาว่าในช่วงนี้ให้ปรับลดไปก่อนแต่เพื่อความสบายใจจะให้กระทรวงมหาดไทยไปหารือว่าจะแปรญัตติอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ แต่คงต้องสอดคล้องกับเม็ดเงินที่จะเพิ่มขึ้นมาในวันหน้าด้วย
“ขอให้ อปท.สบายใจ ต้องช่วยกันหารือ ถ้ามีปัญหาอะไรก็พูดกันในช่องทาง ผมก็ดูให้หมด”