อดีต ส.ส.นครนายก ย้อน 3 ค่ายมือถือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเข้าประมูล จัดให้มีบริการที่เป็นธรรม ยกเงื่อนไขทีโออาร์แฉเก็บค่าบริการ ปชช.เกินจริง ผิดเงื่อนไขสัญญาและ กม. จี้ กสทช.เร่งบี้คืนเงินให้ผู้บริโภค พร้อมแก้อำนาจในการกำกับดูแล เหตุมีช่องโกงได้ง่าย ลุยแฉกลโกงต่อ
วันนี้ (7 ก.ค.) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ในฐานะอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนฯ กล่าวถึงกรณีสามบริษัทค่ายมือถือแถลงข่าวคัดค้าน กสทช.ในการกำกับดูแลกำหนดเพดานอัตราค่าโทรศัพท์มือถือ โดยยืนยันว่าได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม คือ เอไอเอส และบริษัทในเครือดีแทค และบริษัทในเครือทรูและบริษัทในเครือว่า เมื่อได้เริ่มเข้าประมูล บริษัทเหล่านี้รับทราบอยู่แล้วว่าจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขของการเข้าประมูลใบอนุญาต หมวด 6 (เงื่อนไขในการอนุญาต) เช่น ข้อ 14 เงื่อนไขในการอนุญาต แบบที่ 3 ตลอดจนระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ข้อกำหนด หรือหลักเกณฑ์ใดที่คณะกรรมการฯกำหนดอย่างเคร่งครัด หรือข้อ 20 (5) ที่ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีบริการที่เป็นธรรมซึ่งรวมถึงการกำหนดอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค มีความชัดเจนและให้บริการที่มีคุณภาพตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
ทั้งนี้ ผู้รับอนุญาตจะต้องกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับบริการเสียง และบริการข้อมูล โดยเฉลี่ยแล้วต้องต่ำกว่าอัตราค่าบริการเฉลี่ยของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้คลื่นย่านความถี่ 2.1GHz ณ วันที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้ หมายถึง บริการคลื่นความถี่ 1800 MHz และคลื่น 900 MHz ต้องคิดอัตราค่าบริการต่ำกว่าอัตราคลื่นความถี่ 2.1GHz ในวันที่ประกาศมีผลบังคับใช้ โดยคิดราคาค่าบริการตามการใช้โทรศัพท์จริง (โดยคิดเป็นวินาที ไม่ใช่เหมาคิดเป็นนาที)
นายชาญชัยกล่าวต่อว่า คณะกรรมการมีมติที่ประชุมครั้งที่ 17/2556 เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2556 เห็นชอบแนวทางการกำกับดูแลค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 27 GHz คือ บริการเสียง 0.82 บาท/นาที บริการข้อความสั้น (SMS) 1.33 บาท/ข้อความ บริการข้อความมัลติมีเดียและบริการอินเทอร์เน็ต 0.28 บาท/MB และประกาศคณะกรรมการฉบับที่ 2 ย่านความถี่ 1800 MHz และย่าน 900 MHz กำหนดอัตราต้องต่ำกว่าย่านความถี่ 2.1 GHz ดังนี้ บริการเสียง 0.69 บาท/นาที บริการข้อความสั้น (SMS) 1.15 บาท/ข้อความ บริการข้อความมัลติมีเดีย 3.11 บาท/ข้อความ บริการอินเทอร์เน็ต 0.26 บาท/MB ทั้งหมดนี้คือ ข้อตกลงเงื่อนไขการเข้าประมูลเพื่อให้ได้ใบอนุญาต และทั้งสามบริษัทรับทราบเป็นอย่างดี และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขประกาศ กฎเกณฑ์โดยเคร่งครัด และจะต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริง มิใช่กระทำการฉ้อฉลโดยโฆษณาหลอกลวง หรือเอาเปรียบประชาชนผู้ใช้บริการ หรือต่อรอง หรือคิดราคาค่าโทรเกินจริงจากเงื่อนไขโปรโมชันเป็นนาทีละ1.50 บาท/ นาที รวมถึงการคิดอัตราค่าบริการส่งข้อความสั้นที่นาทีละ 3-5 บาท รวมถึงข้อความมัลติมีเดียที่แพงเกินจริงจากเงื่อนไขกำหนด ผิดทั้งกฎหมาย ผิดทั้งข้อตกลงเงื่อนไขการเข้าประกวดราคา (ทีโออาร์) และที่ทั้งสามบริษัทกินเงินเกินจากประชาชนไปแล้วจะต้องคืนเงินให้ประชาชนผู้ใช้บริการทุกหมายเลข แม้เจ้าของหมายเลขจะไม่ได้ร้องเรียนต่อ กสทช. แต่เหตุใดจึงปล่อยปละเลยมาตลอด 2 ปี จึงควรแก้ไขอำนาจ กสทช.ในการกำกับดูแลในกฎหมายใหม่เพราะให้อำนาจเบ็ดเสร็จและก่อให้เกิดการทุจริตได้ง่าย ทั้งนี้ รายละเอียดที่เอาเปรียบผู้บริโภคและโฆษณาที่เกินจริงยังมีอีกมากจะได้แจ้งให้ประชาชนรับทราบต่อไป