“ประวิตร” ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือให้ไทยปรับค้ามนุษย์อยู่ที่เทียร์ 2 ย้ำต้องดีขึ้นอีก เผยผลดีต่อการค้าขายเป็นหลักสากล หวังทุกฝ่ายร่วมแก้ปัญหาในทุกเรื่อง ไม่ขวาง “สุดารัตน์” เชิญนักการเมืองคุยหาทางออก แต่อย่าคุยหลายคนผิด กม. อย่าทำขัดแย้ง ส่วน “วัฒนา” โพสต์รูปพบ “ทักษิณ” ให้ กกต.ตัดสิน แจงบินไปนอกอยู่ที่ศาลอนุญาต ติงสื่อมั่วบอกส่งผู้ลี้ภัยแสนคน ชี้มีไม่ถึง รอพม่าเคลียร์พื้นที่ถึงส่ง
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกาปรับอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยจากอันดับเทียร์ 3 มาเป็นเทียร์ 2 ว่า ตนบอกแล้วว่าเราน่าจะได้ ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทั้งภาคเอกชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน แต่เราจะหยุดเพียงแค่นี้ไม่ได้ เพราะขณะนี้เราอยู่เทียร์ 2 จึงต้องเฝ้าระวังกันต่อไป ไม่หยุดทำงาน ทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ให้เป็นสากล รัฐบาลทำไปโดยที่ไม่ได้หวังอะไร แต่ทำเพื่อประเทศชาติในภาพรวม ทำเพื่อคนไทยทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะส่งผลอะไรหรือไม่ในแง่ประโยชน์ของไทยที่จะตามมา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่งผลให้การค้าขายสินค้าต่างๆ ทำให้ความเป็นสากลดีขึ้น ถือว่าดีในภาพรวม ทุกคนทุกฝ่ายได้ช่วยกัน ต้องขอชมเชย เพราะถ้าไม่ได้ช่วยกันในภาพรวมทั้งหมดคงไม่ได้ออกมาอย่างนี้ ทั้งที่เราไม่ได้คาดคิด แต่ทุกคนช่วยกันเพื่อประเทศ จากนี้เราจะทำในทุกๆ เรื่องที่เขายังดูเราอยู่ต้องทำให้ดีขึ้น ทำให้เป็นไปตามหลักสากลให้ได้ในทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า หวังว่าไทยจะหลุดจากใบเหลืองของปัญหาประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ได้หวังอะไร ทำทุกอย่างให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ เป็นไปตามหลักสากลให้ได้เท่านั้น เราหวังอะไรไม่ได้เพราะเราไม่ใช่เป็นคนตรวจ เขาจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตามหลักสากล เราต้องทำให้ดี
รองนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ หวังมาก ไม่ได้หวังว่าจะให้ดีขึ้นอะไร แต่หวังให้เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ประชาชน ฝ่ายผู้ประกอบการทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจช่วยกันดำเนินการในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นพวกค้ามนุษย์ ไอยูยู ไอเคโอ เอฟเอเอ เอียร์ซา ทั้งหมดเราต้องดำเนินการช่วยกันในภาพรวมทั้งหมด
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เชิญอดีตนักการเมืองพูดคุยเพื่อหาทางออกประเทศว่า จะคุยก็คุยไป อย่ามาคุยกันหลายคนแล้วกัน เพราะมีกฎหมายอยู่ อย่างไรก็ตาม เรื่องคุยตนไม่ว่าอะไร เพราะทุกคนหวังดีต่อประเทศชาติทั้งนั้น แต่อย่าให้ผิดกฎหมาย ถ้าผิดกฎหมายต้องว่าไปตามกฎหมาย ไม่น่าห่วงอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ว่าจะคุยเรื่องรัฐธรรมนูญหรือเรื่องอะไรก็ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อย่าให้ขัดแย้งแล้วกัน ขัดแย้งไม่ได้ จะพูดเรื่องอะไรพูดไป อย่าเกินเลย อย่าไปชักพา แนะนำ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่เพราะหน้าที่นั้นมีคนทำอยู่
เมื่อถามว่า รู้สึกแปลกใจหรือไม่ที่จู่ๆ คุณหญิงสุดารัตน์ออกมาเคลื่อนไหวช่วงนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่รู้ ต้องไปถามคุณหญิงหน่อยเอง ถามผมไม่ได้เพราะผมไม่รู้ ผมไม่ได้เป็นคนคิด อย่าล่วงล้ำ อย่าทำให้เกิดความแตกแยก อย่าทำให้เกิดความไม่สงบแล้วกัน จะมาทำให้เกิดความขัดแย้งไม่ได้ มาทำผิดกฎหมายไม่ได้ เท่านั้นเอง จะไปแนะนำไปชักจูง จะโฆษณาชวนเชื่อไม่ได้”
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าก่อนถึงวันประชามติแล้วเหตุการณ์จะเรียบร้อยดี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถ้าตนทำแล้วไม่มั่นใจ ใครจะมั่นใจ พวกคุณมั่นใจหรือไม่ พวกคุณไม่รู้ แต่ตนเป็นคนทำตนต้องให้มั่นใจ เพราะปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ปรารถนาดีต่อประชาชนทุกคน ไม่ใช่ทำไปสักแต่ว่าทำ ต้องการที่จะให้ประเทศชาติเดินหน้าไปให้ได้ ช่วยกันแก้ไข นายกรัฐมนตรีเหนื่อยอย่างนี้ทุกวันเพราะต้องการทำให้บ้านเมือง ทำให้ประชาชนทั้งนั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางไปสิงคโปร์เพื่อพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วนำภาพลงเฟซบุ๊กจะส่งผลต่อการรณรงค์ประชามติหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องไปถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ กกต.เป็นคนตัดสิน ถ้าผิดหรือไม่ผิดอย่างไรว่าไปตามกฎหมาย ทำตามกฎหมายทั้งหมด กกต.เขารับผิดชอบอยู่แล้วในเรื่องนี้
ต่อข้อถามว่าจะมีผลต่อเรื่องจิตวิทยาและมวลชนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า จิตวิทยามวลชน แต่ตนไม่พูดถึงเรื่องนั้น ตนไม่ทราบ เพราะตนยึดกฎหมายอย่างเดียว อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าทำให้เกิดความขัดแย้ง
เมื่อถามอีกว่า คสช.ต้องทบทวนคำสั่งนักการเมืองเดินทางออกต่างประเทศหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ๆ ให้แล้วให้เลย ไม่ต้องทวน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของศาลที่จะพิจารณาให้ไป โดยพิจารณาพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ปล่อยให้เป็นเรื่องของศาล
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณมาเคลื่อนไหวใกล้ประเทศไทยจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ รองนายกฯ หัวเราะและกล่าวว่า ไปถามนายทักษิณเอาเอง จะมาถามตนได้อย่างไร แปลกนะสื่อตั้งคำถามอะไร ตั้งอย่างนี้ไม่ได้หรอก
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกระแสข่าวจะส่งผู้ลี้ภัยสงครามกลับเมียนมาจำนวนกว่าแสนคนว่า ฟังกันไปคนละเรื่อง ตนให้ข่าวไปแล้วว่าเมียนมาจะร่วมมือกับประเทศไทย แต่เขาต้องดูในพื้นที่ที่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ของเขา ถ้าทำได้เรียบร้อยดี สามารถรับผู้ลี้ภัยกลับไปประกอบสัมมาอาชีพได้เขาจะรับไป โดยเขาขอเวลาในการที่จะเคลียร์พื้นที่ของเขาก่อน อันไหนที่พอส่งได้จะส่ง โดยจะตั้งคณะกรรมการร่วมกันพิจารณา
“เห็นบางฉบับเขียนว่าจะส่งกลับเป็นแสนคน เลอะเทอะ คนเขียนรับผิดชอบนะ ไม่รู้เรื่องเลย อยู่ในประเทศไทยยังไม่ถึงเลย ตอนนี้ต้องให้มีคณะกรรมการดำเนินการก่อน เพิ่งหารือกัน และผมเพิ่งเดินทางกลับมา แล้วทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะได้ประสานงานต่อไป และให้พม่าสามารถเคลียร์พื้นที่ได้เรียบร้อยก่อน เขาก็รับกลับ” พล.อ.ประวิตรกล่าว