“สุเทพ” เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงคิวปฏิรูปตำรวจ มองร่าง รธน.เขียนถูกใจเรื่องนี้มาก มีกำหนดการดำเนินการชัดเจน ลั่นต้องขึ้นเงินเดือนให้เหมาะสมเพราะคือต้นน้ำกระบวนการยุติธรรม โยกย้ายต้องเป็นธรรม เชื่อ ตำรวจได้อ่าน รธน.จะชื่นใจ ไม่ต้องมีวิ่งเต้น ชี้ประชาติผ่านไม่เกิน 1 ปี กฎหมาย ตร.แก้ไขเสร็จ เผยแค่เรื่องปฏิรูปตำรวจก็ปลื้มรับร่างแล้ว ขอแสดงความยินดีตำรวจล่วงหน้า
วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อ 14.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) และแกนนำ กปปส. แพร่ภาพสดผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นการปฏิรูปตำรวจ (ตร.) ว่า เป็นเรื่องที่มวลมหาประชาชนเรียกร้องว่าต้องการเห็นการปฏิรูปโดยทันที เพราะตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย รักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน และเป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นตำรวจในบ้านเมืองเป็นตำรวจของประชาชน ไม่ใช่ตำรวจของผู้มีอิทธิพล ของผู้มีอำนาจ และไม่ใช่ตำรวจที่ถูกใช้ให้เป็นศัตรูของประชาชน แต่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าการปฏิรูปตำรวจเกิดขึ้นยาก นักวิชาการบางคนบอกว่าเกิดได้ชาติหน้า ไม่มีทางเกิดได้ในชาตินี้ ตนขอบอกว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนเรื่องการปฏิรูปตำรวจถูกใจพวกเราเป็นอย่างยิ่ง ในมาตรา 258 กำหนดว่าจะต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับหน้าที่ อำนาจ และภารกิจของตำรวจให้เหมาะสม โดยจะต้องให้กฎหมายที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของตำรวจได้รับการแก้ไขปรับปรุงเป็นเรื่องแรก และได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม
“เรื่องนี้พูดกันมาก สมัยก่อนผมเป็นนักการเมืองไม่กล้าพูดว่าขึ้นเงินเดือนให้ตำรวจ แต่วันนี้ผมเป็นประชาชนพูดได้ว่าต้องขึ้นเงินเดือนให้ตำรวจ ให้เขาได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม เพราะนี่คือต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม”
นายสุเทพกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของตำรวจจะต้องมีหลักประกันว่าตำรวจจะต้องได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้ายแต่งตั้ง เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง โดยในรัฐธรรมนูญกำหนดว่าต้องใช้ระบบคุณธรรม และต้องมีความชัดเจน คำนึงถึงอาวุโส ความรู้ความสามารถประกอบกัน ตนคิดว่าตรงนี้ตำรวจเองคงจะไม่เข้าใจว่าทำไมประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจ แต่ถ้าได้อ่านรัฐธรรมนูญแล้วต้องชื่นใจเพราะไม่ต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องเสียเงินเสียทองในการแต่งตั้งโยกย้ายอีกแล้ว ต่อไปนี้เป็นระบบคุณธรรมล้วนๆ และชัดเจนอธิบายได้ เพราะรัฐธรรมนูญบอกเลยว่าต้องปรับปรุงกฎหมายให้ตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่โดยอิสระและภาคภูมิใจ ไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติของใคร ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพให้แก่ประชาชน
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ในรัฐธรรมนูญได้กำหนดวิธีการปฏิบัติในการปฏิรูปตำรวจเอาไว้ด้วย โดยในมาตรา 260 บัญญัติว่าต้องมีคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดที่ ครม.เป็นผู้แต่งตั้ง ทำหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเรื่องตำรวจทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยคน 4 กลุ่ม คือ 1. บุคคลที่เป็นประธานกรรมการสรรหาต้องไม่ใช่คนที่เป็นตำรวจอยู่ หรือเคยเป็นตำรวจมาก่อน แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรม เป็นที่ประจักษ์ของคนทั้งประเทศ 2. คนที่เป็นตำรวจอยู่หรือเคยเป็นตำรวจมาก่อน รวมทั้งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) 3. บุคคลที่ไม่เคยเป็นตำรวจมาก่อน แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรมเป็นผู้ประจักษ์ โดยมีจำนวนเท่ากับกลุ่มที่ 2 ตามที่ ครม.กำหนด และ 4. ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ โดยคนทั้ง 4 กลุ่มนี้ร่วมกันพิจารณากฎหมายให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บังคับใช้
“สมมติวันที่ 7 ส.ค.นี้ประชาชนทั้งประเทศพร้อมใจกันลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญจนประกาศใช้ จากนั้นไม่เกิน 1 ปี กฎหมายตำรวจต้องแก้ไขเสร็จ ผมถึงเรียนว่าผมเต็มใจไปลงมติรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เฉพาะเรื่องปฏิรูปตำรวจเรื่องเดียวผมก็ปลื้มใจแล้ว เพราะเราจะได้มีตำรวจของประชาชนที่ทำงานรับใช้ประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจ ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องตำรวจทั่วประเทศไว้เป็นการล่วงหน้า” นายสุเทพกล่าว