ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาสองคดี “ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์-ชินภัทร ภูมิรัตน” อดีตบิ๊ก ขรก.กระทรวงศึกษาธิการ ปมขอให้ “คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม” รับเรื่องมาพิจารณาใหม่ หลังถูกอดีตรัฐมนตรี ศธ.ตั้งกรรมการสอบสวนกล่าวหาทุจริต “จัดซื้อครุภัณฑ์-ทุจริตการสอบครูผู้ช่วย” ตามลำดับ
วันนี้ (27 มิ.ย.) มีรายงานว่า สำนักงานศาลปกครองได้แจ้งกำหนดนัดพิจารณาคดี ในวันที่ 29 มิถุนายน 2559 เวลา 13.30 น. ณ ห้องพิจารณาคดี 7 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ บ.98/2558 ระหว่าง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ (ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีรับคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดี)
ทั้งนี้ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ฟ้องคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ว่าผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำร้องทุกข์ ลว.18 พ.ย. 2557 ต่อผู้ถูกฟ้องคดี เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งที่ สป.472/2556 ลว.18 พ.ย. 2556 และคำสั่งแก้ไขเพิ่มเติม แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง กรณีกล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีในขณะดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษาได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาโดยก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งต่อมาได้รับแจ้งคำวินิจฉัย เรื่องดำที่ 5720179 เรื่องแดงที่ 0012258 ลว.30 ม.ค.2558 ไม่รับเรื่องร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณา โดยอ้างว่าผู้ฟ้องคดีไม่มีสภาพเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญอยู่ในขณะร้องทุกข์ เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
นอกจากนั้น ในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 เวลา 10.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี 5 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ บ.120/2557 ระหว่างนายชินภัทร ภูมิรัตน (ผู้ฟ้องคดี) กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (เพิกถอนคำวินิจฉัยร้องทุกข์ของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม)
ทั้งนี้ นายชินภัทร ภูมิรัตน ฟ้องว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน มีคำสั่งที่ สร 235/2556 ลว. 3 เม.ย. 2556 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง คำสั่งที่ สป.356/2556 ลว. 29 ส.ค. 2556 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคำสั่งที่ 198/2557 ลว. 25 มี.ค. 2557 เปลี่ยนแปลงกรรมการสอบสวนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีผู้ฟ้องคดีในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายเเรงในเรื่องการทุจริตการสอบครูผู้ช่วย ผู้ฟ้องคดีจึงได้มีหนังสือ ลว. 27 ก.ย. 2557 ร้องทุกข์กรณีดังกล่าวต่อ ก.พ.ค. และได้รับแจ้งผลการพิจารณาในเรื่องแดงที่ 0025257 ลว. 30 เม.ย. 2557 มีมติยกคำร้องทุกข์ เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย)
มีรายงานว่า สำหรับคดี น.ส.ศศิธารา อดีตเลขาธิการสภาการศึกษาในปี 2556 ที่ฟ้องขอให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมรับคำร้องทุกข์ เกิดขึ้นภายหลังนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งการให้มีการสอบสวนกรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง น.ส.ศศิธาราในขณะดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา ในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (เอสพี 2) ที่เอกสารสำคัญสูญหาย แต่กลับมีการอนุมัติเบิกจ่ายเงินซึ่งส่อว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้ราชการได้รับความเสียหาย และต่อมาคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนสามัญ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (อ.ก.พ.สกศ.) ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวงศึกษาธิการ มีมติให้ปลด น.ส.ศศิธารา ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ออกจากราชการ
ต่อมา น.ส.ศศิธาราอ้างว่า เรื่องนี้ผิดตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ที่ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงก่อนและการตั้งประเด็นในการสอบสวนก็ไม่สามารถระบุการกระทำผิดระเบียบ ที่นำไปสู่ความเสียหายแก่ทางการราชการอย่างร้ายแรงได้ แต่ก็มีความพยายามนำเรื่องไปโยงกับเรื่องอื่น ที่อยู่นอกเหนือคำสั่งในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย โดยพยายามหาเหตุให้ได้ว่ามีการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงและในการประชุม อ.ก.พ.กระทรวง ที่จะต้องมีคณะกรรมการ 3 ส่วนคืออนุกรรมการโดยตำแหน่งอนุกรรมการที่มาจากการแต่งตั้ง และอนุกรรมการที่มาจากการเลือกตั้งแต่ในการประชุมทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา องค์ประกอบของ อ.ก.พ.กระทรวงไม่ครบ 3 ส่วนทั้ง 2 ครั้ง แต่ก็มีมติออกมาได้ อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ระบุว่า รัฐมนตรีรักษาการไม่สามารถใช้อำนาจแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่งเงินเดือนประจำหรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นจากตำแหน่งหรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน จึงขอให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม รับเรื่องมาพิจารณา
ส่วนคดีที่นายชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฟ้องนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.ศึกษาธิการในขณะนั้น หลังถูกสอบสวนคดีพบทุจริตจัดสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ เมื่อต้นปี 2556 ในประเด็น “เฉลยคำตอบรั่วก่อนการจัดพิมพ์ข้อสอบ” โดยนายชินภัทรขอเพิกถอนคำวินิจฉัยร้องทุกข์ของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมที่ไม่รับเรื่องร้องทุกข์กรณีดังกล่าว