นายกฯ เดี่ยวไมโครโฟนบ้านฉาง ระยอง ชาวบ้านสองพันแห่ต้อนรับ จ้อเห็นใจคนลำบาก พูดแล้วต้องทำ ไม่หวังอะไรมีแต่วางอนาคต แก้ปัญหาให้ วอนอย่าเชื่อพวกบิดเบือน ย้ำบัตรทอง-เรียนฟรี 15 ปี ทำให้พิเศษขึ้น วอนชาวประมงเข้าใจ ถ้าไม่แก้วันนี้จะขายของไม่ได้ แจงตั้งบริษัทประชารัฐไม่ได้เอื้อทุนใหญ่ พอเข้มแข็งแล้วก็ไป พบหญิงร้องไห้บอกถูกไล่ที่แถวๆ แสมสาร ก่อนที่เจ้าตัวกอดแล้วมอบหมายผู้ว่าฯ รับฟังปัญหา
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เมื่อเวลา 15.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เดินทางต่อมายังอาคารอเนกประสงค์เทศบาลตำบลบ้านฉาง เยี่ยมชมนิทรรศการและพบปะประชาชนที่มารอต้อนรับกว่า 2,000 คน โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึงเต็นท์จุดพบประชาชน ได้โบกมือทักทายประชาชนที่ปรบมือและนักศึกษาได้ร้องเพลง “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” ต้อนรับ
จากนั้นนายกฯ ขึ้นเวทีกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเอาหัวใจคนทั้งประเทศมาฝาก รวมเป็นหนึ่งเดียว ช่วยประคับประคองประเทศไทยไปวันข้างหน้า ตนขึ้นมาเป็นนายกฯ ไม่สามารถมองเห็นคนลำบากมากๆ ได้ เพราะเห็นใจเขา ต้องแก้ปัญหาให้ได้ ทำให้คนรักมันง่าย แต่ทำให้คนรักตลอดไปยาก ดังนั้น เมื่อพูดอะไรแล้วต้องทำให้ได้ นี้คือสิ่งที่รัฐบาลฝันไว้ อย่าเชื่อสิ่งที่บิดเบือน อย่างสาธารณสุข โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่เคยคิดแก้ แต่ทำให้พิเศษขึ้น สถานพยาบาลอยู่ได้ด้วย การศึกษาขั้นพื้นฐานเรียนฟรี 15 ปีไม่ได้ยกเลิก พูดไว้ก่อนเดี๋ยวมีคนบิดเบือน ขอให้เข้าใจการแก้ไขปัญหารัฐบาล อย่างปัญหาสังคม อย่างเด็กแว้นตีกัน ไล่ฟันกันกลางถนน มันไม่ได้แล้ว การพัฒนาแก้ไขประเทศต้องไปพร้อมๆ กัน
นายกฯ กล่าวต่อว่า ปีหน้าจะมีสนามบินรองรับคนได้ปีละ 3 ล้านคนต่อปี จากเดิมได้ปีละ 8 แสน ฉะนั้น ในพื้นที่จะต้องสร้างการเชื่อมต่อเรื่องการท่องเที่ยว การขายผลไม้ธุรกิจการค้าการลงทุน ตลาดประชารัฐ วันนี้เรื่องการจัดเก็บภาษี ไม่ได้ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลต้องทำให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น พอเพียง เพื่อเข้าสู่ระบบ รัฐบาลไม่เคยดูถูกคนจน ขณะเดียวกันเป็นการยกระดับขึ้นมาให้มีเครดิต เพื่อที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้ ซึ่งทั่วโลกก็ทำ ไม่ใช่ใช้วิธีแจกจ่ายไปเรื่อยเปื่อย กลายเป็นภาระรัฐบาลมากในช่วงที่ผ่านมา
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลต้องพัฒนาเชิงเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพของประชาชน การลงพื้นที่ครั้งนี้มีรัฐมนตรีหลักๆ มาด้วย ขอให้เชื่อมันว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้มุ่งหวังอะไรจากประชาชนขอให้เชื่อมั่น มีแต่จะวางอนาคตแก้ปัญหาให้ การปฏิรูปประเทศต้องเริ่มจากการปฏิรูปตัวเองก่อนที่ต้องมีคุณธรรมรู้ดีรู้ชั่ว สิ่งไหนไม่ดีก็อย่าทำ โดยเฉพาะข้าราชการ ประเทศจะเข้มแข็ง มีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่นับถือและทำจริงๆ อย่าให้เป็นเพียงพิธีกรรม
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยอมรับทุกอย่างแบกรับภาระที่ต้องโดนตำหนิจากประชาชนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาไอยูยู ไอเคโอ การบุกรุกพื้นที่ โดยเฉพาะทรัพยากรฟื้นคืนอย่างรวดเร็วไม่ได้ ต้องรักษาที่มีอยู่ไว้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นแผ่นดินที่ไม่เหลืออะไรให้ลูกหลาน และต้องขอโทษชาวประมงที่ต้องเดือดร้อนกับการแก้ปัญหาของรัฐบาลเพราะถ้าไม่แก้วันนี้ วันหน้าจะเดือดร้อน ขายสินค้าใครไม่ได้เลย ยืนยันว่าไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อนทั้งสิ้น วันนี้จะมีการตั้งบริษัทประชารัฐทุกจังหวัด เพื่อรวบรวมสินค้าชุมชนขึ้นทะเบียน หาตลาดเชื่อมโยงนอกพื้นที่ โดยชุมชนบริหารเอง อย่าให้ใครมาบิดเบือนว่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทใหญ่นั้นไม่ใช่ ชุมชนแต่ละจังหวัดเป็นเจ้าของเอง ชุมชนอาจรู้การผลิต แต่ไม่รู้การแปรรูป การตลาดมันจะไปไม่ได้ ดังนั้นจะต้องตั้งบริษัทประชารัฐขึ้นมา มีภาคเอกชนช่วย 24 กิจการ ช่วยออกเงิน พอเข้มแข็งแล้วเอกชนก็จะถอยออกไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงท้ายนายกฯ เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มาได้ซักถามและร้องเรียนปัญหาต่างๆ โดยมีประชาชนชาว จ.ระยอง ร้องเรียนเรื่องต่างๆ เช่น ปัญหาที่อยู่อาศัย ปัญหาด้านผลผลิตทางการเกษตร โดยตอนหนึ่งนายหวัด ศรศรี อดีตข้าราชการทหารปืนใหญ่ อายุ 93 ปี ได้ร้องเรียนนายกฯ เรื่องเกี่ยวกับกระบวนการการรับเงินเบี้ยยังชีพที่เป็นอุปสรรค เพราะต้องเดินทางไปรับที่จังหวัดอื่น โดยนายกฯ ได้รับปากว่าจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายจ่ายเงินผู้สูงอายุด้วยระบบเอนี ไอดี ไม่ต้องเดินทางไปรับให้ยากลำบาก
ทั้งนี้ ระหว่างนายกฯ รับฟังเรื่องร้องเรียนจากประชาชน มีหญิงชาวระยองวัยกลางคนกล่าวกับนายกฯ พร้อมน้ำตาคลอว่า ในชีวิตนี้อยากเจอนายกฯ มานานแล้ว และมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกไล่ที่ในหมู่บ้านแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์เชิญขึ้นไปบนเวทีเพื่อพูดคุย และเข้าสวมกอด รับฟังปัญหา พร้อมมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับปัญหาต่างๆ ไปดำเนินการ ขณะที่ก่อนจะเดินลงเวที หญิงสาวดังกล่าวได้ก้มลงกราบนายกฯ ทำให้ประชาชนที่มารับฟังต่างพากันปรบมือ
นายกฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัญหาต่างๆ ของชาวระยองถ้าอยากให้ผู้ว่าฯ อยู่นานๆ จะต้องให้ผู้ว่าฯ แก้ ถ้าแก้ไม่ได้ก็เหนื่อย แต่เข้าใจว่าปัญหาต่างๆ นั้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมมือกัน เพราะผู้ว่าฯ ทำคนเดียวไม่ไหว ก่อนหน้านี้ตนได้รับใช้ประชาชนในฐานะข้าราชการทหารมาเป็นเวลานาน แต่วันนี้ถือเป็นบทบาทใหม่ในฐานะนายกฯ จึงขอให้ประชาชนใช้งานตนไปในทิศทางที่ถูกต้อง ขอให้เข้าใจ ไว้ใจตน ปัญหาต่างๆ เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขได้ หากคนเรามีจิตใจที่จะแก้ไข ขอขอบคุณชาวระยองที่มาให้กำลังใจและขอร้องอย่างเดียวคือ เรื่องของความขัดแย้ง ให้ตนได้หรือไม่ ตนเหนื่อยใจกับคนที่ทำให้ทุกอย่างติดขัด แต่ยืนยันที่จะเดินหน้าประเทศด้วยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน