บีโอไอเชื่อมูลค่าคำขอส่งเสริมลงทุนทั้งปีตามเป้า ผุดเว้นภาษีผู้มีผลงานระดับโลก

เลขาฯ บีโอไอ มั่นใจมูลค่าคำขอส่งเสริมลงทุนทั้งปี เป็นตามเป้า 4.5 แสนล้านบาท หลัง 5 เดือนแรก มีมูลค่า 2.29 แสนล้านบาท เผย แนวคิดยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ผู้มีผลงานระดับโลก พร้อมเปิด สนง. ส่งเสริมลงทุน ตปท. เริ่ม เมียนมา และ เวียดนาม

วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า บีโอไอ ยังเชื่อมั่นว่า ปี 2559 จะมีมูลค่าคำขอโครงการทั้งปี 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรก มีมูลค่าคำขอทั้งสิ้น 2.29 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว คิดเป็นตัวโครงการ 504 โครงการ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีคำขอที่ตรงกับอุตสาหกรรมเป้าหมายใน 10 กลุ่ม มีมูลค่า 91,870 ล้านบาท และตั้งเป้าที่วางไว้ครึ่งปีแรก 1 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ด้านผลทางเศรษฐกิจจะมีเม็ดเงินการลงทุนจริงในช่วง 3 เดือนแรก มีมูลค่า 1.07 แสนล้านบาท ซึ่งประเมินแล้วน่าจะต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 6 แสนล้านบาท และแหล่งเงินลงทุนที่สำคัญยังมาจากญี่ปุ่นและจีน เป็นหลัก ด้านความคืบหน้าการแก้ไข พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุน ซึ่งในอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น จากการที่รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญกับเรื่องไทยแลนด์ 4.0 ที่เน้นการใช้นวัตกรรม และเรื่องทุนมนุษย์ ซึ่งนอกเหนือจากการกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนยังได้เห็นชอบในหลักการ แนวคิดที่มีการยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับบุคคลธรรมดา แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ที่ได้รับการยกเว้นต้องเป็นนักวิจัย หรือผู้เชี่ยวชาญระดับโลก

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบในหลักการให้มีการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยเน้นในกลุ่ม CLMV และกำหนดในงบประมาณปี 2560 จะมีการเปิดสำนักงานที่ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา และที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดเลือกตั้งสำนักงานที่เมืองโฮจิมินห์ หรือ ฮานอย ส่วนปีงบประมาณ 2561 จะมีการเปิดสำนักงานที่เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย