xs
xsm
sm
md
lg

ไม่อายัดห้องทำงาน “ชายหมู” แล้ว “สตง.-ปลัด กทม.” คาดทำผิดขั้นตอนราชการ ปรับปรุงก่อนตั้งทีโออาร์ จ่อเรียกอดีตเลขาฯ ต้นเรื่องปี 57 แจง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โครงการปรับปรุงห้องทำงานผู้บริหารกรุงเทพมหานคร
โล่ง! สตง.ไม่อายัด “ห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม.” มูลค่า 16.5 ล้านแล้ว เหตุ กทม.ให้ความร่วมมือตรวจสอบทุกห้อง จ่อเชิญ ขรก.สำนักการโยธา-สำนักการระบายน้ำ-อดีต หน.สำนักงานเลขานุการผู้ว่าฯ สอบถามข้อมูลแจงการใช้งบประมาณ ปี 2557 ประเด็น “ปรับปรุงก่อนตั้งทีโออาร์” ด้าน “ปลัด กทม.” รับมีการดำเนินการผิดขั้นตอน เผยไม่เกี่ยวข้องกับ “ชายหมู” เพราะมีการอนุมัติช่วงปี 2557 ช่วงผู้ว่าฯ กทม.พักราชการ ย้ำห้องทำงานผู้ว่าฯ ไม่ได้ปรับปรุงใหม่มากว่า 40 ปีแล้ว

วันนี้ (13 มิ.ย.) มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า นายชัยวัฒน์ อนันตศานต์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและตรวจสอบที่ 3 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะ ได้เดินทางมายังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเข้าสังเกตการณ์และถ่ายภาพวิดีโอบันทึกไว้เป็นหลักฐาน กรณีการใช้งบประมาณ 16.5 ล้านบาทของ กทม.เพื่อปรับปรุงห้องทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ในโครงการปรับปรุงห้องทำงานผู้บริหารกรุงเทพมหานคร โดยการเดินทางมาครั้งนี้ นายชัยวัฒน์พร้อมคณะได้เข้าหารือกับ นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัด กทม. ที่ห้องเอราวัณ และสำรวจบริเวณห้องผู้ว่าฯ กทม. โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าตรวจสอบด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้าตรวจสอบโครงการปรับปรุงห้องผู้บริหาร กทม.วงเงินงบประมาณ 16.5 ล้านบาทแล้วครั้งหนึ่ง โดยใช้พิมพ์เขียวแบบแปลนห้องในการตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ สตง.ไม่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ภายในห้องผู้ว่าฯ กทม.ได้ เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ กทม. และสามารถตรวจสอบได้แค่หน้าห้องผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้น

ขณะเดียวกัน ระหว่างที่คณะ สตง.เข้าตรวจสอบห้องทำงานอีกห้องหนึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้เชิญนายอมร กิจเชวงกุล นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.ต.ภานุรัตน์ มีเพียร ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เข้าหารือกับผู้ว่าฯ กทม.ด้วยเช่นกัน

ภายหลังการหารือกว่า 1 ชั่วโมง นายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า ได้เข้าขอเอกสารเพิ่มเติม และ กทม.ให้ความร่วมมือในการเข้าตรวจสอบทุกห้องที่มีการปรับปรุง โดยจะมีการเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธาเข้าไปให้ข้อมูลต่อ สตง.ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งในการหารือนายประสาร พิทักษ์วรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ระบุว่ายังไม่มีการเบิกจ่ายเงิน 16.5 ล้านบาท ตามประกาศที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง โดยประเด็นคือหากมีการดำเนินการปรับปรุงไปแล้ว แต่มีการทำตามขั้นตอนของราชการหรือไม่ โดยเฉพาะในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนราคา 16.5 ล้านบาทตามที่มีการประกาศออกไปมีความเหมาะสมแค่ไหนต้องมีการตรวจสอบในวันนี้ภายในห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนจะได้ข้อสรุป

“จะไปดูว่ามีซ่อมแซมอะไรไปแล้วบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงิน แต่วันนี้ไม่สามารถให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมในห้องผู้ว่าฯ กทม.ได้ แต่ สตง.จะทำงานอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นเงินของแผ่นดิน” นายชัยวัฒน์กล่าว และว่าจากการตรวจสอบภายในห้องพบว่ามีการปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยทั้งหมดแล้วซึ่งก็เป็นไปตามแบบแปลนตรงกับรายละเอียดของราคากลางตามที่สำนักการโยธาชี้แจง แต่ สตง.คงต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น สตง.ก็มีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบ เพื่อยับยั้งโครงการ ซึ่งแท้จริงแล้วตามหลักการต้องมีการขออนุมัติโครงการตามระเบียบราชการ ก่อนที่จะมีการจ่ายเงินในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งระหว่างนั้นต้องมีผู้ควบคุมโครงการ แต่เรื่องนี้มีความผิดปกติในขั้นตอนดำเนินการ ส่วนจะผิดปกติอย่างไรต้องดูพฤติการณ์ว่าเข้าข่ายปฏิบัติ หรือละเว้นละเลยอะไรหรือไม่

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้คงไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจทางกฎหมายในการอายัดห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม. เพราะ กทม.ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบแล้ว

ขณะที่ นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวผิดขั้นตอนและระเบียบของ กทม. เนื่องจากมีการดำเนินการก่อนเบิกงบประมาณ ซึ่งมีบุคคลในระดับผู้อำนวยการสำนักการโยธาเป็นผู้เซ็นอนุมัติ โดยจะต้องรอผลสรุปจาก สตง.อีกครั้ง ทั้งนี้ ความผิดแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ เจ้าหน้าที่รัฐอาจเข้าข่ายทุจริต และการกระทำดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐผิดวินัย ตามระเบียบของ กทม.

ทั้งนี้ กทม.ได้รับการติดต่อจาก สตง.ตั้งแต่วันศุกร์ (10 มิ.ย.) ที่ผ่านมาว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบการปรับปรุงห้องผู้ว่าฯ กทม. ที่ผ่านมา กทม.ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับ สตง.มาโดยตลอด โดยในวันนี้ กทม.ได้มอบเอกสารบางส่วนให้แก่ สตง.ไปแล้ว ส่วนเรื่องงบประมาณ หรือสัญญาทางสำนักการโยธากำลังรวบรวม เพื่อมอบเอกสารให้แก่ สตง.เพิ่มเติมภายหลัง อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงมีการดำเนินโครงการไปแล้วซึ่งมีบางส่วนเคยปรับปรุงในช่วง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนรายละเอียดต้องให้สำนักการโยธาเป็นผู้ชี้แจง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ผู้ว่าฯ กทม.ก็ยินดีให้ความร่วมมือเหมือนทุกครั้ง

มีรายางานด้วยว่า ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล สมาชิกสภา กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการโยธาและผังเมือง สภา กทม. จะเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธา และสำนักการระบายน้ำ รวมทั้งอดีตหัวหน้าสำนักงานเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.มาสอบถามข้อมูล และชี้แจงการใช้งบประมาณ ภายหลังพบว่าเคยเสนอเรื่องปรับปรุงห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม.บางส่วนไปแล้วเมื่อปี 2557 ซึ่งสภา กทม.จะเร่งตรวจสอบคู่ขนานกับ สตง.ด้วย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะมีการอนุมัติช่วงปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์พักราชการ และสาเหตุที่ต้องปรับปรุงซ่อมแซมเพราะฝ้าห้องน้ำพัง และห้องนี้ไม่ได้ปรับปรุงใหม่มา 40 ปีแล้ว

โดยการปรับปรุงครั้งนี้จะประกอบด้วย ส่วนที่ 1 งานปรับปรุงห้องโถง, ห้องอัมรินทร์, หน้าห้องผู้ว่าฯ กทม., ห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม., ห้องทำงานเจ้าหน้าที่ สผว., ห้องประชุมผู้ว่าฯ กทม., ห้องเลขานุการผู้ว่าฯ กทม., ห้องเตรียมอาหาร, ห้องน้ำ, โถงลิฟต์และโถงบันได, ห้องทำงานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ค่าก่อสร้าง 13,275,826.86 บาท ส่วนที่ 2 ครุภัณฑ์จัดซื้อหรือสั่งซึ้อ (โต๊ะ, เก้าอี้, ทีวี, เครื่องเสียง, เครื่องรับสัญญาณ, ดาวเทียม, ตู้เย็น) ค่าก่อสร้าง 2,207,955.70 บาท และส่วนที่ 3 ค่าใช้จ่ายพิเศษตามข้อกำหนดฯ ค่าก่อสร้าง 1,030,158 บาท รวมเป็นเงิน 16,513,940.56 บาท


นายชัยวัฒน์ อนันตศานต์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและตรวจสอบที่ 3 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะ ได้เดินทางมายังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อเข้าสังเกตการณ์และถ่ายภาพวีดิโอบันทึกไว้เป็นหลักฐาน กรณี การใช้งบประมาณ 16.5 ล้านบาท ของ กทม. เพื่อปรับปรุงห้องทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ในโครงการปรับปรุงห้องทำงานผู้บริหารกรุงเทพมหานคร
กำลังโหลดความคิดเห็น