xs
xsm
sm
md
lg

ตัดสิทธิ 5%-เพิ่มโทษสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น-ขอนแก่น เซ่น “ขายเขมร-นมบูด” - “อำนวย” ยื่นลาออกรับผิดชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อำนวย ทงก๊ก” ประธานสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ยื่นหนังสือลาออก “ผู้ทรงวุฒิมิลค์บอร์ด” รับผิดชอบส่งนมโรงเรียนขายกัมพูชา ก่อนรับมติมิลค์บอร์ดตัดสิทธิร้อยละ 5 โควตาส่งนมโรงเรียน เหตุฝ่าฝืนแบรนด์ห้ามจำหน่ายเพื่อการพาณิชย์ ปลัด กษ.ชงเพิ่มโทษแบล็กลิสต์สหกรณ์ สะพัด! จ่อตัดสิทธิร้อยละ 5 “สหกรณ์โคนมขอนแก่น จำกัด” เซ่นปัญหานมบูด

วันนี้ (13 มิ.ย.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) กล่าวยอมรับว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะเสนอที่ประชุมมิลค์บอร์ดเพื่อตัดสิทธิร้อยละ 5 โควตาส่งนมโรงเรียนของสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ที่ขายนมโรงเรียนให้พ่อค้ากัมพูชา ฝ่าฝืนแบรนด์นมโรงเรียนที่ห้ามจำหน่ายเพื่อการพาณิชย์ ภายหลังมีมติให้มีผลลดโควตาผลิตนมของสหกรณ์ดังกล่าวจาก 92 ตันต่อวัน เหลือ 87 ตันต่อวันทันที รวมทั้งดำเนินการพิจารณาเบี้ยปรับในการส่งออกไม่จ่ายภาษี ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

มีรายงานว่า ข้อมูลที่คณะทำงานในมิลค์บอร์ดสอบสวนได้รับจากสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ได้ยอมรับว่า นำนมโรงเรียนของรัฐบาลไปจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อประเทศกัมพูชาจริง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 (ภาคเรียนที่ 2/2558) ซึ่งคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ได้พิจารณาตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาความผิดและกำหนดโทษและอัตราเบี้ยปรับ ให้ลดสิทธิส่วนที่เหลือทันที 5 %โดยในปัจจุบันสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นได้รับสิทธิ 6.05 แสนกล่อง/วัน

ขณะที่ประธานมิลค์บอร์ดยังมีแนวคิดที่จะพิจารณาเพิ่มบทลงโทษ หากพบว่าสหกรณ์มีการทำความผิดในลักษณะนี้ซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 2 โดยอาจมีการขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์สหกรณไว้ไม่ให้มารับโควตาผลิตนมโรงเรียนอีก เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำและไม่ให้สกรณ์อื่นทำเป็นเยี่ยงอย่าง

ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวยังจะพิจารณาเพื่อการขอทบทวนมติคณะอนุกรรมการพิจารณาจัดสรรโควตาอัตราภาษีนำเข้านมผงขาดมันเนย, การจัดสรรให้ โควตาใหม่ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นเข้าไปจำหน่ายแทน 2 สหกรณ์ที่ถูกลดสิทธิ, พิจารณาเรื่องบริษัททุ่งกุลาแดรี่ฟูดส์ จำกัด ขอให้พิจารณาช่วยเหลือน้ำนมดิบที่เหลือจากการจัดสรรสิทธินมโรงเรียน และจัดทำแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาโคนมและผลิตภัณฑ์นม ปี 2560-2569 เป็นต้น

วันเดียวกัน นายอำนวย ทงก๊ก ประธานสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ได้ยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงวุฒิในคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) แล้ว เพื่อรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งใบลาออกจะเข้าที่ประชุมมิลค์บอร์ดรับทราบด้วย

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ป่านมาคณะทำงานในมิลค์บอร์ดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสหกรณ์โคนมขอนแก่น จำกัด ที่ไดัรับโควตาเพื่อจัดส่งให้โรงเรียน สนามบิน และล่าสุดพบว่ามีปัญหานมบูดก็จะถูกลดสิทธิส่วนที่เหลือทันที 5% เนื่องจากสหกรณ์ดังกล่าวดำเนินการไม่ถูกต้องในเรื่องของอุณหภูมิในการเก็บรักษา และกล่องตู้แช่ยังมีคุณภาพไม่เพียงพอ ทั้งนี้ กรณีคุณภาพของผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนอยู่ระหว่างรอผลการตรวจวิเคราะห์จากกระทรวงสาธารณสุข คาดว่าจะได้รับทราบผลภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2559 นี้

มีรายงานว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่จะมีการรายงานมิลค์บอร์ดของคณะอนุกรรมพิจารณาความผิดกำหนดโทษและพิจารณาอัตราเบี้ยปรับ ที่มีนายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน ได้ข้อสรุปว่าสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ได้นำนมโรงเรียนส่งออกไปยังจำหน่ายยังประเทศกัมพูชาจริง จึงเข้าข่ายความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการโคนมฯ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ปีการศึกษา 2559 ข้อ 6.6.6 ที่ให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมและผู้รับจ้างขนส่งดำเนินการจำหน่ายเฉพาะภายในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน และภายในประเทศไทยเท่านั้น

ดังนั้น คณะอนุกรรมการฯจึงได้พิจารณาบทลงโทษตามประกาศ 26.1.2 ตัดโควตาของสหกรณ์วังน้ำเย็นทันที่ 5% จากเดิมที่มีโควตาในการผลิตนมโรงเรียน 92 ตัน/วัน หรือ 605,562 กล่อง/วัน คิดเป็นมูลค่า 4,238,934 บาท/วัน ทำให้เหลือโควต้าการผลิตเพียง 87.4 ตันต่อวัน หรือ 575,284 กล่อง/วัน เป็นเวลา 1 ปีการศึกษา หรือ 2 เทอม โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของมิลค์บอร์ดในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ เพื่อให้บทลงโทษมีผลบังคับใช้ต่อไป

จากการพิจารณาข้อเท็จจริงพบว่า การนำนมโรงเรียนไปจำหน่ายยังประเทศกัมพูชา น่าจะเป็นเรื่องของการนำตราสินค้า (แบรนด์) นมโรงเรียนไปใช้มากกว่าการลักลอบนำนมโรงเรียนในโควตาไปจำหน่าย เพราะจากการตรวจสอบนมโรงเรียนในโควตาของสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำนวน 605,562 กล่อง/วัน ยังอยู่ครบ ดังนั้นจึงเชื่อว่าอาจมีการกระทำผิดในเรื่องอื่น เช่น การนำเข้าส่งออก ซึ่งทางมิลค์บอร์ดจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป โดยกรอบระยะเวลาภายใน 30 วัน นอกจากนี้ มิลค์บอร์ดยังจะได้ทำหนังสือไปยังสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น เรียกคืนนมที่จำหน่ายอยู่ในประเทศกัมพูชาในขณะนี้กลับมาทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น