รองนายกฯ แจงมาตรา 9 พ.ร.บ.ฮั้ว ไม่กระทบคำวินิจฉัยองค์กรอื่น ย้ำไม่มีคดีค้างใน ป.ป.ช.ที่ต้องใช้มาตรานี้ ปัดนายกฯ ฉุนขาดสร้างสภาใหม่ล่าช้า แต่ถามเหตุขอขยายเวลาหลายครั้งแล้ว เผยให้รอกฤษฎีกาตีความคุณสมบัติผู้ตรวจราชการ สธ.ชิงเก้าอี้เลขาธิการ สปสช.ได้หรือไม่
วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 9 ขัดมาตรา 4 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 ว่าเท่าที่ตรวจสอบคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญไม่ไปกระทบต่อคำวินิจฉัยคดีอื่นขององค์กรอิสระ จึงไม่มีคดีที่เข้าข่ายที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเมื่อปี 2555 ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัย พ.ร.บ.ฉบับหนึ่ง คือ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดขายตรงไปแล้ว ซึ่งเป็นมาตราอย่างเดียวกันกับ พ.ร.บ.ฮั้ว หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่ามาตราใดที่ขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่มีการไปแก้ ให้ทิ้งไว้ อย่าไปจับใครเขาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกิดการตื่นตัวและพบว่ามีกฎหมายทำนองนี้อยู่อีกเป็นร้อยฉบับ จึงให้เจ้าหน้าที่หยุดดำเนินคดีตามมาตรานั้นๆ ไม่ได้เหมารวมทั้งฉบับ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องได้ยับยั้งไว้ทั้งหมดตั้งแต่ตอนนั้น
รองนายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นกับมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.ฮั้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องเตรียมการแก้ไขไว้แล้ว ตนได้บอกกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วว่ามาตรการแก้ไขที่เตรียมไว้สามารถนำมาใช้ได้เลย ขอย้ำว่าไม่มีคดีใดๆ ที่ค้างการพิจารณาอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ต้องอาศัยมาตราดังกล่าวในการวินิจฉัย แต่อาจจะมีมาตราอื่นที่ใช้
นายวิษณุกล่าวถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีท่าทีไม่พอใจหลังรับรายงานว่าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้าว่า ไม่ถึงขนาดหัวเสียและไม่ได้สั่งการใดๆ ในเรื่องนี้ทั้งสิ้น ปัญหานี้มีเพียงเล็กน้อยคือผู้ที่เกี่ยวข้องขอขยายเวลาการดำเนินการก่อสร้าง นายกฯ จึงสอบถามว่าหากขยายครั้งนี้แล้วจะขอขยายอีกหรือไม่ หากคิดว่าจะขยายให้ขอขยายในคราวเดียวให้แล้วเสร็จ เนื่องจากมีการขอขยายเวลาหลายครั้งนับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาบริหารงาน
นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบอร์ด สปสช. มีมติเลื่อนการพิจารณาคัดเลือกเลขาธิการ สปสช.ออกไป โดยส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความเรื่องคุณสมบัติ นายวันชัย สัตยาวุฒิพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เนื่องจาก สธ.เป็นคู่สัญญาของ สปสช.ว่า ทางนายปิยสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เคยมาปรึกษาก่อนหน้านี้ว่าในกรณีที่มีผู้สมัครได้รับการเสนอชื่อตำแหน่งเลขาธิการ สปสช.2 คน แล้วหากหนึ่งคนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติจะทำอย่างไร ตนจึงให้คำแนะนำว่าถ้าไม่แน่ใจว่ามีปัญหาเรื่องคุณสมบัติจริงหรือไม่ ให้ไปปรึกษากับทางสำนักงานกฤษฎีกาในการตรวจสอบ เนื่องจากเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งเมื่อพิจารณาเสร็จกฤษฎีกาก็จะส่งให้คณะกรรมการเพื่อคัดเลือกและเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแต่งตั้งต่อไป
