ที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก สั่งจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ในหน่วยทหารทั่วประเทศ เดินหน้าฝึกกรมผสมเฉพาะกิจ ระบุสถานการณ์ภาคใต้ดีขึ้น ด้านที่ประชุม สนง.เลขาธิการ คสช.สั่งรับมืออุทกภัย-วาตภัย เตรียมซ้อมแผนบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการในเขตเมือง-อาคารสูง 17-26 มิ.ย.นี้ พร้อมสนับสนุนโครงการประชารัฐ หมู่บ้านละ 2 แสนกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.มญชุ์พิชา นราแย้ม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า พล.อ.ธีรชัยได้กำชับให้หน่วยทหารจัดงานเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ อย่างสมพระเกียรติ และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงพลังความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทั้งนี้ กองทัพบกจะจัดพิธีถวายราชสักการะ และพิธีถวายพระพรชัยมงคลในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ที่บก.ทบ. พร้อมกับการบริการทางการแพทย์และการบริจาคโลหิต
พ.ต.มญชุ์พิชากล่าวว่า พล.อ.ธีรชัย ระบุว่าที่ผ่านมากลไกการทำงานของกองทัพบกดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและมีระบบ ถือว่ากำลังพลทุกคนเป็นทีมงานกองทัพบกอย่างแท้จริง ทั้งนี้ กองทัพบกจะยังคงเป็นหน่วยงานหลักที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและดูแลประชาชนในทุกพื้นที่อย่างเต็มที่ การทำงานของทหารให้ยืนอยู่ข้างประชาชน ช่วยให้ประชาชนประกอบอาชีพได้อย่างสุจริต จะเห็นได้ว่าในทุกความเดือดร้อน ทุกภัยพิบัติ ทหารได้เข้าไปดูแลช่วยเหลืออย่างจริงจัง พยายามทำให้ปัญหาทุกเรื่องสามารถแก้ไขได้ในระดับพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากส่วนราชการต่าง จึงขอให้ดำรงการทำงานในลักษณะนี้ควบคู่ไปกับงานในภาระหน้าที่ของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายหรือจัดระเบียบสังคม กำชับให้เพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายกับที่ผู้บุกรุกป่า การทวงคืนพื้นที่ป่าให้กลับมาเป็นสมบัติของส่วนรวม รวมทั้งการดูแลแหล่งท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานและไม่มีผู้ใดมาแสวงประโยชน์ส่วนตน หรือการนำทรัพยากรของส่วนรวมกลับคืนมา
พ.ต.มญชุ์พิชายังกล่าวถึงภารกิจด้านการทหารในปีที่ผ่านมา กองทัพบกจัดให้มีการฝึกกรมทหารราบเฉพาะกิจ และกรมทหารม้าเฉพาะกิจ ซึ่งการฝึกดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ การบังคับบัญชา และศักยภาพในภารกิจทางทหาร โดยกองทัพบกจะดำรงการฝึกในลักษณะนี้ต่อไป รวมถึงการฝึกเฉพาะกลุ่ม เช่น หน่วยทหารขนาดเล็ก เพื่อให้ครอบคลุมในทุกมิติของการปฏิบัติการทางทหาร และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังได้กล่าวขอบคุณกำลังพล และผู้บังคับหน่วยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สามารถดูแลสถานการณ์ ปฏิบัติการเชิงรุก และบริหารจัดการสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ภาพรวมของสถานการณ์ดีขึ้นมา ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ขอให้ดำรงการปฏิบัติต่อไป ควบคู่ไปกับการพูดคุยทำความเข้าใจ การพัฒนาในพื้นที่ และให้เข้มงวดในการดำเนินการต่อผู้กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น บ่อนการพนัน ยาเสพติด สินค้าหนีภาษี และสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนให้สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมสำนักงานเลขาธิการ คสช. โดยมี พล.อ.ธีรชัย ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุม ว่า พล.อ.ธีรชัยได้แสดงความมั่นใจเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งชื่นชมว่าที่ผ่านมาได้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องสาธารณภัยที่เกิดขึ้นทำได้อย่างรวดเร็ว สามารถเข้าถึงพื้นที่และช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีตามรูปแบบการทำงานแบบอัตโนมัติได้อย่างเต็มที่ อีกทั้ง พล.อ.ธีรชัยยังได้กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาป้องกันสาธารณภัย (ปภ.) และส่วนราชการในพื้นที่เตรียมรับสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ รวมถึงการดูแลพื้นที่น้ำท่วมที่น้ำมาเร็วและไปเร็ว แต่ความเดือดร้อนยังคงอยู่ให้เข้าไปช่วยเหลือด้วย
นอกจากนี้ ยังให้เตรียมความพร้อมบรรเทาสาธารณภัยในเขตเมืองและอาคารสูงที่ คสช. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำแผนบรรเทาและฝึก ระหว่างวันที่ 17-26 มิ.ย.นี้จะมีการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการตามนโยบายของรัฐบาลและ คสช. ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กทม. โดยเป็นการฝึกร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร มูลนิธิ เครือข่ายภาคประชาสังคม และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เพื่อซักซ้อมการบัญชาการเหตุการณ์บูรณาการเครื่องมือและกำลังพลให้มีมาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจในความพร้อมของภาครัฐหากเกิดสถานการณ์จริง
ส่วนเรื่องการสนับสนุนการบริหารงานราชการแผ่นดินตามนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนั้น คสช.กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ พล.อ.ธีรชัยได้มอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เข้าให้คำแนะนำและสนับสนุนการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ หรือโครงการหมู่บ้านละ 2 แสน เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของประชาคมหมู่บ้านและสอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล ส่วนการติดตามและเร่งรัดโครงการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลตำบลละ 5 ล้านบาท ขณะนี้มีความคืบหน้าร้อยละ 72