โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผย นายกฯ ฝากคนไทยรักษาสมดุลธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่าไม้ และ สัตว์ป่า ฝากหน่วยงานดูแลต้นไม้ใหญ่เขตเมือง ยึดหลักการรุกขกรรมถูกต้อง จัดให้มีนักวิชาชีพคอยจัดการ ย้ำ อีก 3 เดือนต้องไม่มีโค่นไม้ผิดวิธี ฝากประชาชนพบเห็นทำลายต้นไม้ผิดวิธีแจ้งศูนย์ดำรงธรรม
วันนี้ (5 มิ.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิ.ย. 59 ที่ทุกประเทศตื่นตัวกับการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากให้คนไทยร่วมกันรักษาความสมดุลของธรรมชาติ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า หรือทำลายชีวิตสัตว์ เพื่อผลประโยชน์ แต่ควรหันมาใส่ใจกับการฟื้นฟูสิ่งที่เสียไป และอนุรักษ์สิ่งที่มีอยู่อย่างถูกต้อง ทั้งดิน น้ำ ป่าไม้ และ สัตว์ป่า
“นายกฯ เน้นเป็นพิเศษเรื่องการจัดการและดูแลรักษาต้นไม้ใหญ่ในเขตเมือง โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ส่วนใหญ่จะเติบโตแตกกิ่งก้านสาขา จนเกิดปัญหาการระสายไฟฟ้า รากต้นไม้ดันพื้น หรือทางเท้า ทำให้ท่ออุดตัน หรืออาจโค่นล้มสร้างความเสียหายให้แก่บริเวณใกล้เคียง โดยยึดหลักการของรุกขกรรม คือ การดูแลต้นไม้อย่างถูกต้อง ทั้งการปลูก การตัดแต่ง โค่น หยุดการกุดใบ บั่นยอด ตัดแต่งต้นไม้แบบผิดวิธี เนื่องจากที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มักละเลยการใช้หลักวิชาการ ส่งผลให้ต้นไม้อ่อนแอและถูกทำลายอย่างไม่รู้ตัว” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับว่า ต้นไม้ใหญ่ทั้งในเขตเมือง ริมทางหลวง หรือในที่สาธารณะ มีความสำคัญ สามารถช่วยลดอุณหภูมิลงได้ 2 - 3 องศา การดูแลรักษาให้ต้นไม้แข็งแรง และสวยงามอยู่เสมอ จึงเป็นการคืนความสุขให้ประชาชนได้อย่างง่าย ๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีรุกขกร หรือ นักวิชาชีพที่คอยจัดการดูแลต้นไม้ ทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีหน้าที่สร้างถนน ทางเท้า หรือติดตั้งเสาไฟฟ้า เพื่อจัดการกับต้นไม้อย่างถูกวิธี ให้สามารถอยู่ร่วมกับสายไฟฟ้า และชุมชนเมือง ได้อย่างสมานฉันท์ ไม่อ่อนแอจนโค่นหักง่าย เป็นอันตรายแก่ประชาชนและบ้านเรือน เป็นประโยชน์ทั้งในด้านนิเวศวิทยา และเศรษฐกิจ ไม่ใช้การตัดทำลายแต่เพียงอย่างเดียว
“นายกฯ สั่งการให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) การไฟฟ้าฯ และกรมทางหลวง จัดให้มีรุกขกร ร่วมปฏิบัติงานเมื่อต้องจัดการกับต้นไม้ และย้ำว่า นับจากนี้ไปอีก 3 เดือน จะต้องไม่มีการตัดแต่ง หรือโค่นต้นไม้ที่ผิดวิธี โดยยกเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือ เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดูแลธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม หากจำเป็น จะต้องมีการปรับแก้กฎหมาย ก็พร้อมให้การสนับสนุน พร้อมทั้งขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแล ด้วยการเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นการทำลายต้นไม้อย่างไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว