“อลงกรณ์” เผยวิป 3 ฝ่ายนัดหารือรายงานแผนปฏิรูปสาธารณสุข ปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ และปฏิรูปด้านสังคม เผยที่ผ่านมาวิป 3 ฝ่ายผ่านแนวทางปฏิรูปไปแล้ว 40 แผน ส่วนการปฏิรูปตำรวจเตรียมรายงานผลการลงพื้นที่โรงพักตัวอย่าง สภ.อ.นครสวรรค์ สน.บางขุนนนท์ บริหารจัดการได้ดีเหมาะเป็นแบบอย่าง แต่เกิดข้อผิดพลาด ตำรวจถูกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม หวัง ผบ.ตร.ปรับแก้ให้เกิดความเป็นธรรม
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คนที่ 1 เปิดเผยว่า คณะกรรมการประสานงานรวม 3 ฝ่าย (ครม.-สนช.-สปท.) หรือแม่น้ำ 3 สาย จะประชุมพิจารณารายงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศอีก 3 แผนปฏิรูป ได้แก่ 1. การปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เรื่องการป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพด้านอาหารและโภชนาการ ในประเด็นการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพ
2. การปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ เรื่องธนาคารที่ดินและร่าง พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน พ.ศ. ... และ 3. การปฏิรูปประเทศด้านสังคม เรื่องการจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติ ณ จุดผ่านแดนถาวร เพื่อจัดระเบียบแรงงานข้ามชาติเข้าสู่ระบบ
ทั้งนี้ ในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว วิป 3 ฝ่ายมีมติเห็นชอบรายงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ 3 แผนปฏิรูป ได้แก่ 1. การปฏิรูปกีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม การศาสนา คุณธรรม และจริยธรรม เรื่องการจัดการพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อเพิ่มคุณค่าและมูลค่าทางวัฒนธรรมพร้อมด้วยร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... 2. การปฏิรูปเศรษฐกิจ เรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจดิจิตอล 3. การปฏิรูปการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เรื่องการปฏิรูปกฎหมายและระบบการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศ
นายอลงกรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า นับถึงวันนี้มีเรื่องที่ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบโดยคณะกรรมการประสานงานรวม 3 ฝ่ายแล้ว 40 แผนปฏิรูป จะเห็นได้ว่าการทำงานคืบหน้าตามกำกรอบการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเร่งให้เกิดการปฏิรูปประเทศเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
สำหรับความคืบหน้าของแผนปฏิรูปกิจการตำรวจเรื่องการปฏิรูปการแจ้งความและการสอบสวนหรือการปฏิรูปโรงพักนั้น ตนจะรายงานผลการตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ซึ่งเป็นโรงพักตัวอย่าง หรือ “นครสวรรค์โมเดล” ที่คณะกรรมการประสานงานการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศของ สปท. และ ผช.ผบ.ตร.กับคณะได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ สปท.เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีการพัฒนาสถานที่และการบริการประชาชนดีมาก รวมทั้งการรับแจ้งความ และการบริหารการสอบสวนก็ปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างน่าชื่นชม ตลอดจนการจัดการคดีเก่าที่คั่งค้างมา 6 ปี พันกว่าคดี เหลือ 200 คดีก็ทำได้รวดเร็วเป็นตัวอย่าง แต่ยังพบปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่และงบประมาณที่จำกัด
สำหรับประเด็นการโยกย้ายระดับรอง ผกก. และสารวัตรที่มีผลงานไปยังโรงพักที่เกรดต่ำกว่านั้น ผบ.ตร.ได้แถลงข่าวยอมรับว่ามีความผิดพลาดในการแต่งตั้งโยกย้ายประมาณ 6% จากจำนวน 8 พันกว่าตำแหน่งเนื่องจากข้อจำกัดของเวลา ตนหวังว่าจะมีการแก้ไขการแต่งตั้งโยกย้ายในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะโรงพักตัวอย่างของการปฏิรูป เช่น นครสวรรค์ และบางขุนนนท์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจที่ดีมีผลงาน และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่การปฏิรูปกิจการตำรวจที่ยึดหลักคุณธรรมและธรรมาภิบาลอีกด้วย เรื่องความผิดพลาดในการทำงานเป็นเรื่องปกติของคนทำงาน แต่เมื่อผิดพลาดก็แก้ไขปรับปรุง อย่าปล่อยทิ้งไว้
