“ลี เซียนลุง” เลี้ยงน้ำชา “ประยุทธ์” - ผุดวิสัยทัศน์ “ลดเหลื่อมล้ำ” แก้ปัญหาก่อการร้าย

นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงน้ำชาแก่นายกรัฐมนตรีไทย โฆษกระบุนายกฯ ชื่นชมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น พร้อมลงนามเอ็มโอยูความร่วมมือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ระบุหัวข้อปาฐกถาในการประชุมความมั่นคงระหว่างประเทศ เปรียบเทียบความมั่นคงเสมือนเหรียญสองด้าน ชี้ไทยเห็นด้วยต้านก่อการร้าย-แนวคิดสุดโต่ง หนุนลดความเหลื่อมล้ำ

วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ ทำเนียบประธานาธิบดีสิงคโปร์ (อิสตานา) นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงน้ำชาเพื่อเป็นเกียรติแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนสิงคโปร์ เพื่อแสดงปาฐกถาในการประชุม IISS Shangri-La Dialogue 15th asia Security Summit ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และสถาบัน International Institute for Strategic Studies (IISS) โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ดร.วิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ นายมาลิกี ออสมาน รัฐมนตรีอาวุโสแห่งรัฐด้านการต่างประเทศและกลาโหม เข้าร่วมด้วย โดย พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและแน่นแฟ้นระหว่างไทยและสิงคโปร์ ทั้งการหารือกับนายเตียว ซีเฮียน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประสานงานด้านความั่นคงแห่งชาติสิงคโปร์ ในโอกาสเยือนไทยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม รวมทั้งการลงนามทำบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ระหว่างการะทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กับกระทรวงสื่อสารและสารสนเทศของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างไทยและสิงคโปร์ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องและรอบด้าน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณสำหรับการเชิญมาเป็นองค์ปาฐกในการประชุมความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งหัวข้อของการแสดงปาฐกถาในครั้งนี้จะเปรียบเทียบความมั่นคงเสมือนเหรียญสองด้าน ระหว่างความมั่นคงด้านการทหารและการพัฒนาที่ต้องสอดคล้องและเกื้อหนุนกันเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนในภูมิภาค รวมทั้งการแบ่งปันประสบการณ์ของไทยในการนำหลักปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศด้วย

สำหรับสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคนั้น ไทยเห็นพ้องกับประชาคมโลกในการต่อต้านการก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่ง โดยจะมีความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนด้านข่าวกรอง การแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดี รวมทั้งการส่งเสริมขีดความสามารถของประเทศ สนับสนุนการหารือระหว่างความเชื่อ และส่งเสริมบทบาทแนวคิดสายกลาง ซึ่งไทยพร้อมที่จะเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสิงคโปร์

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเห็นว่าสาเหตุสำคัญของปัญหาการก่อการร้ายมีรากเหง้าจากความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและทรัพยากร การแก้ปัญกาการก่อการร้ายอย่างครอบคลุมและยั่งยืน จึงจำเป็นต้องลดความเหลื่อมล้ำในด้านต่างๆ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์สนับสนุนให้ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลไกที่มีอยู่ในปัจจุบัน พร้อมยืนยันสิงคโปร์พร้อมสนับสนุนไทยในทุกมิติของความร่วมมือ