กกต.บริหารงานเลือกตั้ง แจงแก้ พ.ร.บ.ประชามติอย่างเดียว ไม่สามารถเลื่อนวันออกเสียงได้ เหตุไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ไม่รู้ “พรเพชร” รับสัญญาณอะไรมา ชี้ถึงแก้แล้วไม่ผิดกฎหมายประชามติ แต่ก็ผิดกฎหมายอื่น
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 61 วรรคสอง ขัดรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 อาจทำให้ต้องเลื่อนวันออกเสียงประชามติ 7 ส.ค. ว่า การแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติฯ เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เลื่อนวันออกเสียงประชามติได้ เพราะการจะเลื่อนวันออกเสียงได้นั้น ทำได้อย่างเดียวคือต้องไปแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เพราะตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ได้กำหนดให้มีการทำประชามติภายใน 120 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ส่งสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญให้กกต. ซึ่งในวันออกเสียงที่ 7 ส.ค.นั้น จะอยู่ในช่วงวันที่ 116 วัน จะเลื่อนไปแม้สัปดาห์เดียวก็ไม่ได้
ส่วนข้อสงสัยว่านายพรเพชรได้รับสัญญาณอะไรมาหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ กกต.ยืนยันว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตราดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญชั่วคราวก็จะไม่กระทบต่อกระบวนการออกเสียงประชามติแต่อย่างใดเพียงแต่การเผยแพร่ข้อความผ่านสื่อต่างๆ ที่มีลักษณะก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย หรือปลุกระดม จะไม่เข้าลักษณะเป็นการก่อความวุ่นวาย มาตรา 61 (1) ดังนั้น การกระทำดังกล่าวก็จะไม่มีโทษตามมาตรา 61 วรรคสาม คือจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท รวมทั้งการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 5 ปี อย่างไรก็ตาม แม้การกระทำนี้จะไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ แต่ยังมีความผิดตามกฎหมายอื่น