xs
xsm
sm
md
lg

พท.ซัด 2 ปีรัฐประหารชาติเสื่อมถอย จี้คืนประชาธิปไตย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
อดีต รมว.พลังงาน ซัด 2 ปีรัฐประหารชาติเสื่อมถอยทุกด้าน เศรษฐกิจเติบโตต่ำสุดในอาเซียน ส่งออกติดลบ ลงทุนต่ำ ไตรมาสต่อไปก็คงไม่ดี ชาวบ้านรายได้ลด ความเชื่อมั่นต่างชาติลดเหตุถูกตำหนิปมสิทธิมนุษยชน ไม่ปฏิบัติตามกติกาสากล ความแตกแยกเพิ่ม ก่อนตบมุกเดิม คืนประเทศสู่ประชาธิปไตย

วันนี้ (22 พ.ค.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวถึงวาระครบรอบ 2 ปีการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 ว่า ผ่านมา 2 ปีประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศรู้สึกได้ว่าประเทศเสื่อมถอยในทุกด้านอย่างชัดเจน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจที่ประเทศไทยเติบโตต่ำสุดในอาเซียนติดต่อกันทั้ง 2 ปีหลังการรัฐประหารปี 2557 ที่เติบโตเพียง 0.7% และ 2.8% ในปี 2558 แม้การขยายตัวในไตรมาสแรกของปี 2559 จะโต 3.2% ก็ถือว่ายังต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แถมยังมองได้ว่าเป็นการเติบโตแบบไม่ยั่งยืน ได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยว การใช้จ่ายภาครัฐกว่าแสนล้าน และการส่งออกทองคำ การส่งคืนยุทโธปกรณ์มาช่วยเท่านั้น ส่วนการส่งออกที่แท้จริงยังติดลบ และการลงทุนยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เชื่อว่าในไตรมาสต่อๆ ไปก็ยังคงดูไม่ดีนัก และทั้งปีจะโตได้ไม่ถึง 3.7% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน

“ปัญหาหลักอยู่ที่ความเชื่อมั่นของต่างประเทศ ส่งผลทำให้การลงทุนจากต่างประเทศหายไปถึง 90% ในปี 2558-2559 อาจจะโตขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่มากนักเมื่อเทียบกับภาวะปกติ และการส่งออกทั้งปีนี้จะยังคงติดลบต่อเนื่อง ประชาชนยังลำบากกันอย่างมากเพราะมีรายได้ลดลงกันถ้วนหน้า” นายพิชัยกล่าว

นายพิชัยกล่าวต่อว่า ความเชื่อมั่นของต่างประเทศยิ่งน่าเป็นห่วงเมื่อไทยถูกตำหนิในเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนอย่างหนักในช่วงหนักทั้งจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สหภาพยุโรป (อียู) รวมทั้งสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สับสน เพราะไม่เข้าใจว่าในขณะที่รัฐบาลและ คสช.เรียกร้องให้ประชาชนเคารพกฏหมายที่รัฐบาลและ คสช.ร่างและกำหนดขึ้นมาเอง แต่รัฐบาลและ คสช.กลับไม่ปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติ และกติกาสากลที่ทั่วโลกยอมรับ ซึ่งทำให้ประเทศไทยมีปัญหาทางภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในสายตาของชาวโลกมากขึ้น นอกจากนี้ปัญหาความแตกแยกของประชาชนที่เป็นโจทย์ใหญ่กลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาปัญหาและความล้มเหลวยังมากมายขนาดนี้ หากยังคงดำเนินต่อไปความเดือดร้อนของประชาชนจะยิ่งเพิ่มขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้นำประเทศกลับสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงโดยเร็ว


กำลังโหลดความคิดเห็น