ประธานาธิบดีพม่าเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีไทย เห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะแรงงาน โครงการเศรษฐกิจพิเศษทวาย ยืนยันพร้อมให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพและพัฒนาประเทศ
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายติน จ่อ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย สมัยพิเศษ ณ เมืองโซชิ สหพันธรัฐรัสเซีย ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีพม่า เนื่องในโอกาสได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และยินดีที่ไทยและพม่าจะได้ทำงานร่วมกันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศในอนาคต นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณ เมียนมาที่ได้ให้การต้อนรับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้เดินทางเยือนเมียนมาอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 8-9 พฤษภาคมที่ผ่านมา และยินดีที่ทราบว่าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะแรงงาน โครงการเศรษฐกิจพิเศษทวาย การเชื่อมโยง เพื่อประโยชน์ยิ่งขึ้นของประชาชนของทั้งสองประเทศต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีและนางอองซานซูจี ที่บริหารงานเพื่อประชาชน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะทำให้พม่าแข็งแกร่งไปด้วยกัน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ประธานาธิบดีพม่าแสดงความยินดีที่ได้มาประชุมอาเซียน-รัสเซียครั้งนี้ และพบกับนายกรัฐมนตรี และยินดีที่ได้หารือในประเด็นความร่วมมือต่างๆ เพื่อผลักดันความร่วมมือให้ก้าวหน้าต่อไป ทั้งนี้ไทยและพม่ามีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน และเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดกับพม่า พร้อมกันนี้ประธานาธิบดีพม่าได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้ดูแลแรงงานชาวพม่าในไทยเป็นอย่างดี และขอให้นายจ้างชาวไทยดูแลคนงานชาวเมียนมาด้วย
นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีพม่าต่างเห็นว่า ไทยและพม่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและมีความสำคัญต่อกันและกัน ผลประโยชน์และความมั่นคงของทั้งสองประเทศผูกโยงกันอย่างแยกไม่ออก ทั้งสองประเทศต้องพึ่งพาอาศัยกันและต้องร่วมมือกันในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองประเทศ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดนที่เผชิญอยู่ร่วมกัน สำหรับไทยนั้นนายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในพม่าให้มีความคืบหน้าต่อไป รวมทั้งความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเมียนมาในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาตามแนวชายแดนในทุกมิติ
สำหรับเรื่องกลไกหารือทวิภาคีนายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมของไทยที่จะผลักดันให้กลไกที่มีอยู่ อาทิ คณะกรรมการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee - JBC) รวมทั้งคณะกรรมการร่วมระดับสูงเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (Joint High-level Committee - JHC) ให้กลับมาดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat - JCR) ระหว่างไทย-พม่า เพื่อเป็นกลไกความร่วมมือระดับสูงในการผลักดันความร่วมมือทวิภาคีให้มีความคืบหน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยยินดีสนับสนุนความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การเกษตร ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับพม่าซึ่งทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันได้ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีพม่าหวังเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวจากไทยเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวของพม่า รวมถึงเชิญชวนนักลงทุนชาวไทยให้ไปลงทุนในพม่าเพิ่มขึ้น
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้ประธานาธิบดีพม่าและรัฐบาลพม่าชุดใหม่ทำงานด้วยความราบรื่น ประสบผลสำเร็จทุกประการ เพื่อประโยชน์สุขและความเจริญและพัฒนาของประชาชนชาวพม่า