รองนายกรัฐมนตรีไม่รู้ “วัฒนา” อยากให้รื้อคดีคลองด่าน ชี้โดนพิพากษาคนละแบบ คิดไม่ออกจะทำได้ยังไง ยินดีรับข้อมูลใหม่ถ้าเป็นประโยชน์ แนะ สตง.-คลัง-พลังงาน-ปตท.นัดเคลียร์เรื่องท่อก๊าซให้รู้เรื่อง ห่วงเจอ ม.157 เล่น
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคนใกล้ชิดนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุกในคดีทุจริตก่อสร้างบ่อบัดน้ำเสียคลองด่าน ออกมาระบุว่านายวัฒนาอยากให้รื้อคดีใหม่ว่า ไม่ทราบ แต่กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้กระทรวงการคลังใช้สิทธิยื่นศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาคดีใหม่นั้น เป็นไปตามมาตรา 75 ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองที่เปิดโอกาสไว้ ส่วนคดีของนายวัฒนาเป็นคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งคนละแบบกับของรัฐบาล ส่วนจะรื้อได้อย่างไรหรือไม่ยังไม่รู้ยังคิดไม่ออก ส่วนที่นายวัฒนาอ้างว่ามีข้อมูลใหม่ที่จะขอรื้อก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นข้อมูลใหม่แล้วมาเกี่ยวข้องและจะเป็นประโยชน์แก่รัฐ รัฐยินดีที่จะรับข้อมูล
นอกจากนี้ นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีมติให้ ปตท.มอบท่อก๊าซที่ยังคืนไม่หมดให้แก่กระทรวงการคลังว่า ได้สอบถามไปที่กระทรวงการคลังแล้วและได้รับการชี้แจงว่ากรณีนี้มีคำพิพากษาของศาลแล้ว และได้ถามขั้นตอนการปฏิบัติตามคำแนะนำของศาล รวมทั้งปฏิบัติตามที่ศาลตัดสินเอาไว้แล้ว แต่ สตง.มีประเด็นของเขา ตนเห็นว่าเรื่องนี้ควรจะมีการพบกันและเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน ปตท. และ สตง. ควรจะคุยกันให้เข้าใจ เรื่องนี้ต้องยอมรับว่ากระเทือนต่อภาพลักษณ์องค์กร และจนถึงขณะนี้ทราบว่ากระทรวงการคลังรับทราบทุกอย่างจากสื่อมวลชน แต่ยังไม่ได้รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้น รอให้เขารับคำสั่งและคุยกันเสียก่อน
“ยอมรับเรื่องนี้มีความสำคัญ ไม่เช่นนั้น ครม.และนายกฯ อาจจะต้องรับผิด และอาจถูกฟ้องมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น เมื่อกระทรวงการคลังได้รับหนังสือ ถึงเวลาหนึ่งก็นัดที่จะเจอกัน ถึงอย่างไรเรื่องนี้ต้องยุติ แต่อาจจะไม่ยุติในทันที และถ้าเห็นไม่ตรงกันต้องไปศาล” นายวิษณุกล่าว