“ประวิตร” ระบุ “ประยุทธ์” เยือนรัสเซีย มีแผนซื้อเฮลิคอปเตอร์ ส่วนรถถังกองทัพบกซื้อจากจีนแล้ว ส่วนการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงผลิตยุทธภัณฑ์ฯ ปากีสถาน เป็นการหารือถึงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปเยือนประเทศรัสเซียมีแผนจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งรถถังว่า คงจะไปซื้อเฮลิคอปเตอร์ทั้งด้านการขนส่ง และดับไฟป่า เพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ไม่ได้ไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะรถถังของประเทศรัสเซีย ย้ำว่าไม่เกี่ยวกัน อีกทั้งตนก็ไม่ได้เดินทางร่วมคณะไปด้วย
ส่วนกรณีที่กองทัพบกจัดซื้อรถถังจากประเทศจีนนั้น ตนคิดว่าได้ซื้อจากประเทศจีนไปก่อนแล้ว หากจะซื้อจากประเทศรัสเซียคงต้องเป็นหน้าที่ของกองทัพบกเป็นผู้พิจารณา และดำเนินการตามแผนงาน และรายงานให้รัฐบาลทราบตามกรอบยุทธศาสตร์พัฒนากองทัพให้ทันสมัย
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การจัดซื้อรถถังจากประเทศจีนนั้นต้องไปถาม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ถึงราคา ขีดความสามารถเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้ทุกอย่างต้องผ่านคณะกรรมการกําหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก (กมย.ทบ.) ผ่านการทดสอบ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาว่าเป็นอย่างไร เพื่อมารายงาน ผบ.ทบ.ให้รับทราบ อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวมีมาก่อนแล้ว ไม่ใช่จู่ๆ ก็จะไปซื้อ ขณะเดียวกัน เรื่องของการส่งกำลัง รวมทั้งการซ่อมบำรุงเราต้องพิจารณาด้วย เพราะรถถังพวกนี้ต้องใช้ระยะเวลานาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงผลิตยุทธภัณฑ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์แห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานมาเข้าพบจะพูดคุยเรื่องความร่วมมือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่มี แต่ว่าเป็นการมาพูดคุยด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศว่าจะร่วมมือกันได้อย่างไร ทั้งนี้ ตนอยากดูก่อนว่ายุทโธปกรณ์จะใช้การร่วมกันได้หรือไม่ พร้อมทั้งผลิตร่วมกันได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามตนยังไม่ทราบรายละเอียดเพราะเป็นการพูดคุยกันในครั้งแรก ทั้งนี้ขอย้ำว่าการพูดคุยครั้งนี้ไม่มีความร่วมมือทางด้านทหารเป็นพิเศษไม่ว่าประเทศใดก็ตาม เพราะเราอยู่ในกรอบของอาเซียน แต่ว่าความร่วมมือด้านนี้คงเป็นเพียงการศึกษา การฝึก เป็นต้น
“ขอย้ำว่าในการร่วมมือกันดุลอำนาจต่างๆ นั้น โดยที่ไม่ได้ผูกขาดประเทศใด ผมคิดว่าเป็นเรื่องดี แต่เราต้องดูเรื่องการซ่อม และส่งกำลังบำรุงว่าสามารถดำเนินการได้กี่วัน อยากให้ใช้ร่วมกันได้ อาทิ กระสุน หรือลำกล้องต่างๆ ถ้าเราจะซื้อต้องสามารถใช้ร่วมกันได้ อีกทั้งขอย้ำว่าไม่ใช่เป็นเพราะยุครัฐบาลทหารเท่านั้นที่จะจัดซื้ออาวุธได้ เพราะสมัยก่อนตอนผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็จัดซื้อเหมือนกัน ซึ่งเหมือนกันทุกรัฐบาลที่ดำเนินการตามนโนบายกองทัพ” พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่าสำหรับการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศโดยเฉพาะประเทศรัสเซียกับจีนนั้น เรายึดนโยบายอิสระ ประกอบกับการเป็นประเทศเล็กก็ต้องร่วมมือทุกประเทศ เพื่อให้ดูแลช่วยเหลือเราได้ทุกๆ เรื่องทั้งยุทโธปกรณ์ การค้าขาย การท่องเที่ยว ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตจะมีการฝึกซ้อมรบกระสุนจริงกับประเทศรัสเซียหรือไม่ รองนายกฯ ประวิตรกล่าวว่า ต้องดูก่อน อาจเริ่มต้นในระดับต่ำ และการพูดคุยกันก่อนว่าจะฝึกอะไรกันได้บ้าง ในที่นี้รวมทั้งจีนด้วยเช่นกัน