“ประยุทธ์” ยินดีเลสเตอร์คว้าแชมป์ลีกอังกฤษ มีคนไทยเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของ ชมความพยายาม แขวะดีกว่าซื้อทีมประสบความสำเร็จแล้วขายต่อ รับ “เจ้าคุณธงชัย” ให้ผ้ายันมาหลายผืนไว้เป็นที่พึ่งทางใจ ชี้ดวงดีถ้าทำไม่ดีก็ไม่สำเร็จ รับเคารพการตัดสินคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ มีหน้าที่ต้องทำความเข้าใจทางซาอุฯ อีกครั้ง
วันนี้ (3 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี ได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2015-2016 ว่า ขอแสดงความยินดีกับทีมเลสเตอร์ เพราะถือว่าวันนี้เป็นทีมจิ้งจอกสยาม กีฬาทุกประเภทที่เป็นของคนไทย หรือที่มีคนไทยไปร่วมเล่นด้วย ตนก็ยินดีด้วยทั้งสิ้น เพราะไปในนามของประเทศไทย คนไทยมีชื่อติดไปเป็นสยาม ซึ่งคนไทยเป็นเจ้าของทีมก็เห็นถึงความก้าวหน้า ถือเป็นความพยายาม ตั้งแต่เป็นทีมที่ค่อนข้างจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่วันนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จแล้ว ถือเป็นความพยายาม “ก็น่าจะดีกว่าไปซื้อทีมที่ประสบความสำเร็จแล้วไปขายต่อ ถือว่าดีกว่า”
เมื่อถามว่าถึงวันนี้นายกรัฐมนตรีอยากได้ผ้ายันของพระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยารามฯ บ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ท่านได้ให้ผมมาหลายอันแล้ว พระท่านให้ผมมาตลอด ผมเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธ ก็ถือเป็นที่พึ่งทางใจ ก็อยากให้พวกเราทุกคนถือเป็นเพียงที่พึ่งทางใจสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ เพราะทุกศาสนาอย่างน้อยก็ทำคนให้คนเป็นคนดี อะไรที่พระท่านให้มาก็ถือเป็นกำลังใจก็เก็บๆ ไว้ ผมก็เห็นทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธห้อยพระกัน แต่ถ้าห้อยไม่ไหวก็ให้นำไปไว้บนหิ้งพระ เพราะหากห้อยทั้งหมดบางครั้งก็เจ็บคอเพราะหนัก”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่านเจ้าคุณธงชัยเคยดูดวงให้รัฐบาล และ คสช.บ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ต้องหรอก แต่ถ้าถามว่าดูดวงหรือไม่ ท่านก็พูดถึงในทางที่ดี และเคยฝากบอกมาให้กำลังใจทำงานต่อไปอย่างดีที่สุด ดวงเขามีไว้ให้ระวังตัวเท่านั้นเอง ถือเป็นเรื่องในเชิงสถิติ ถ้าทำดีก็ได้ดี แต่ถ้าทำไม่ดีดวงดีก็ไม่สำเร็จอยู่ดี
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่างถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย หลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมพวกอีก 4 คนในคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย โดยให้เหตุผลว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ว่าเรื่องนี้คงต้องไปถามทางซาอุดีอาระเบียด้วย เพราะในส่วนของเราตนเองก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะเราต้องเคารพในกระบวนการยุติธรรมของเรา ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักฐานที่พิสูจน์ทราบได้ตามสำนวน การที่จะตัดสินว่าผิดหรือถูกก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งศาล เรามีหน้าที่ทำความเข้าใจกับทางซาอุดีอาระเบียอีกครั้งหนึ่ง