แกนนำ นปช.เชื่อรัฐบาลจับคนเห็นต่างตามแผน เตือนต้องแลกกับต้นทุนการเมืองมหาศาล โวจับคนทำเพจล้อนายกฯ ปลุกคนตั้งคำถามมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ไม่เข้าใจทำไมสร้างซีรีส์เกาหลีเหนือให้คนไทยดู ป้องคนทำไม่ใช่อาชญากร จี้สั่งช่วยให้ประกันตัว หยันอ้าง “พานทองแท้” เอี่ยวจ้างแต่ไร้หลักฐาน ใช้เป็นจำเลยการเมือง
วันนี้ (1 พ.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งการจับกุมคุมขังและใช้อำนาจกับผู้เห็นต่าง เป็นการเดินตามแผนของรัฐบาลที่เลือกใช้วิธีนี้ในช่วงการทำประชามติ เพียงแต่วิธีการแบบนี้ต้องแลกกับต้นทุนทางการเมืองมหาศาล และไม่แน่ใจว่าปัจจุบันรัฐบาลมีต้นทุนพอที่จะใช้อำนาจแบบนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการชี้พฤติกรรมทำเพจล้อเลียนนายกฯ ว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงมาตรา 116 แม้จะนำไปสู่การจำขังหยุดความเคลื่อนไหวนักกิจกรรมในโซเชียลมีเดีย 8 คน แต่ได้ปลุกคนจำนวนมากให้ตื่นจากภวังค์แล้วตั้งคำถามว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทั้งนี้ทั่วโลกรับรู้ว่าผู้นำประเทศกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือล้อเลียนเป็นของคู่กัน มีบางประเทศเท่านั้นที่ทำไม่ได้ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเวลานายกฯ แนะนำให้ดูละครก็พูดถึงซีรีส์ของเกาหลีใต้ แต่พอชีวิตจริงกลับสร้างซีรีส์เกาหลีเหนือให้คนไทยดู คนเหล่านี้เป็นเพียงหนุ่มสาวที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจ อาจมีความคึกคะนองบ้างแต่ก็ไม่ใช่อาชญากรที่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทุกขั้นตอนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพิจารณาคำร้องขอประกันตัวของศาลทหาร ซึ่งทนายความจะไปยื่นในวันที่ 2 พ.ค.นี้
ส่วนการระบุชื่อบุคคลต่างๆ ในผังที่เป็นข่าวนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เป็นการเอามาเกี่ยวไว้ลอยๆ โดยเฉพาะนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้จ่ายเงินค่าจ้าง ก็ไม่มีการแสดงหลักฐาน และไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่เอามาเป็นจำเลยทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ตนเห็นนายกฯ ไปพูดที่ไหนก็มักมีลูกเล่นให้คนฮา และดูเหมือนทีมการเมืองของรัฐบาลจะถือเป็นตัวชี้วัดความนิยมด้วย คือถ้างานไหนฮามากแสดงว่าคนชื่นชอบมาก ไม่นึกว่าจู่ๆ จะไปไล่จับเด็กที่ไปทำเพจล้อเลียนได้