โฆษกกระทรวงกลาโหม เผย “ประวิตร” ถกรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน หวังญวนสานต่อความมั่นคงทางทะเลและประมง ขยายความร่วมมือกับลาวด้วยความเกรงใจ รุกการข่าว ปัญหายาเสพติด การค้าผิดกฎหมาย ร่วมพม่าแก้ปมโรฮีนจา พร้อมฝึกร่วมจัดการก่อการร้ายกับสิงคโปร์
วันนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในโอกาสเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม ได้หารือทวิภาคีกับ รมว.กลาโหมประเทศต่างๆ ประกอบด้วย รมว.กลาโหมเวียดนาม รมว.กลาโหมพม่า รมว.กลาโหมลาว และ รมว.กลาโหมสิงคโปร์ เพื่อเสริมสร้างและสานต่อความร่วมมือด้านความมั่นคงและทางทหารกับประเทศต่างๆ ให้กระชับและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มีสรุปดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมได้พบปะและหารือทวิภาคีกับ พล.อ.โง ซวน หลิก (Ngo Xuan Lich) รมว.กลาโหมเวียดนาม และคณะ โดย พล.อ.ประวิตรได้กล่าวแสดงความยินดีกับการรับตำแหน่งใหม่ของรมว.กลาโหมเวียดนาม โดยหวังว่าในโอกาสครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามในปี 60 ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมกันสานต่อพัฒนาการความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นในทุกเรื่อง โดยเฉพาะความมั่นคงทางทะเลและการทำประมงที่ถูกกฎหมายร่วมกัน ซึ่งจะต้องสนับสนุนพูดคุยและปฏิบัติร่วมกันด้วยหลัก กฎหมายและหลักมนุษยธรรม สำหรับความร่วมมือทางทหาร กองทัพไทยมีความพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนการเยือน การฝึกและศึกษากับเวียดนามในทุกระดับของทุกเหล่าทัพ ซึ่ง รมว.กลาโหมเวียดนามได้กล่าวแสดงความขอบคุณ ที่ไทยให้การสนับสนุนด้วยดีอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา พร้อมทั้งเห็นด้วยและยินดีให้การสนับสนุนในทุกเรื่องที่เสนอ พร้อมกับกล่าวเชื่อมั่นและไว้วางใจไทยในการดำเนินงานร่วมกันมาตลอด ขอให้คำมั่นว่าจะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ สู่สันติภาพ เสรีภาพที่ยั่งยืนของอาเซียนร่วมกัน ทั้งนี้จะได้เร่งรัดจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับไทย เพื่อสานต่อความร่วมมือกันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นต่อไป
รองนายกฯ และรมว.กลาโหมได้พบปะและหารือทวิภาคีกับ พล.ท.จันสะหมอน จันยาลาด รมว.กลาโหมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและคณะ โดย พล.อ.ประวิตรได้กล่าวแสดงความยินดีกับการรับตำแหน่งใหม่ของ รมว.กลาโหม สปป.ลาว และกล่าวถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ไทย-สปป.ลาว ที่นับวันจะมีความผูกพันใกล้ชิดมากขึ้นจากการเสด็จพระราชดำเนินเยือน สปป.ลาวของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในหลายโอกาส รมว.กลาโหมสปป.ลาวกล่าวถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของทั้งสองประเทศว่า ประชาชนทั้งสองประเทศใช้ภาษาเดียวกัน เสมือนบ้านพี่เมืองน้องที่มีเชื้อชาติเดียวกันและเคยดำรงชีวิตร่วมกันมาก่อนในอดีต เพียงแต่แบ่งเขตกันอยู่และนับถือกันตามกรอบกฎหมายสากลปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันด้วยความเกรงใจกัน บนพื้นฐานความจริงใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทุกเรื่อง โดยเฉพาะการประสานความร่วมมือด้านความมั่นคงให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งด้านข่าวสาร ปัญหายาเสพติด การค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดน สำหรับความร่วมมือทางทหาร ไทยพร้อมให้การสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือนและการฝึกศึกษาดูงานร่วมกันในทุกระดับและทุกเหล่าทัพ ซึ่งสปป.ลาวรับจะพิจารณาเร่งด่วน เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทางทหารร่วมกันในทุกมิติให้แน่นแฟ้นขึ้นต่อไป
รองนายกฯ และรมว.กลาโหมได้พบปะและหารือทวิภาคีกับ พล.ท.เส่ง วิน รมว.กลาโหมสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า และคณะ พล.ท.เส่ง วิน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณไทยที่ให้การสนับสนุนในทุกเรื่องที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า กองทัพพม่ายังคงดูแลกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงป้องกันชายแดน และยังคงนโยบายสันติภาพและความสงบสุขร่วมกันโดยไม่ปรับเปลี่ยน และจะพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันถึงแนวทางความร่วมมือกันแก้ปัญหาต่างๆ ประกอบด้วย ปัญหายาเสพติด ปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน ปัญหาการอพยพหลบหนีเข้าเมืองของชาวโรฮีนจา ซึ่งมีความจำเป็นต้องประสานงานและร่วมกันแก้ปัญหาให้มีความใกล้ชิดมากขึ้น โดยคำนึงถึงกรอบกฎหมายของแต่ละประเทศและกรอบกฎหมายสากลที่กำหนดบนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชนรวมทั้งความร่วมมือระหว่างประเทศร่วมกัน สำหรับความร่วมมือทางทหารนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันที่จะพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันให้กว้างขวางและใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การแลกเปลี่ยนการเยือน การฝึกศึกษาร่วมกันในทุกระดับของทุกเหล่าทัพ ทั้งนี้ รมว.กลาโหมพม่า ยินดีให้การสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกันและพร้อมให้การสนับสนุนไทยในทุกเรื่อง เพื่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ โดย พล.อ.ประวิตรได้กล่าวแสดงความขอบคุณพร้อมกับขอเชิญ รมว.กลาโหมพม่า เยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป
รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมได้พบปะและหารือทวิภาคีกับ ดร.เอิง เอ็ง เฮน รมว.กลาโหมสาธารณรัฐสิงคโปร์ และคณะ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกัน ถึงความร่วมมือในการสนับสนุนด้านการฝึกศึกษาระหว่างกันและความร่วมมือกันด้านการต่อต้านการก่อการร้าย โดยสิงคโปร์ให้ความสนใจและมีความกังวลต่อการขยายตัวของสถานการณ์การก่อการร้ายในภูมิภาคที่มีแนวโน้มเชื่อมโยงกับกลุ่มต่างๆของภูมิภาคมากขึ้น โดยมีประชาชนประเทศสมาชิกอาเซียนบางส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะจัดกำลังเข้าร่วมการฝึกร่วมของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายกับคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางทะเล ที่สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพจัดร่วมกับ บรูไน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในต้น พ.ค. 2559 ขณะที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับรัสเซีย ญี่ปุ่นและลาว ในการทดสอบศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน ร่วมกับการฝึกการให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ ใน ก.ย. 2559