“นิพิฏฐ์” ชี้ “วัฒนา” ให้โลกล้อมประเทศได้ผล จี้ออกกฎให้ชัดกันสบช่องเคลื่อนไหว

รองหัวหน้า ปชป.มอง “วัฒนา” เคลื่อนไหวแบบไฟสุมขอน ให้โลกล้อมประเทศได้ผล ชี้ได้มากกว่าเสีย เพราะประชามติตามหลักสากลควรให้มีการแสดงความเห็น ย้ำต้องออกกฎให้ชัด กันสบช่องเคลื่อนไหว

วันนี้ (21 เม.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ต่อประเด็นร่างรัฐธรรมนูญว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวลักษณะไฟสุมขอนที่ใช้วิธีโลกล้อมประเทศที่ได้ผล เห็นได้จากการที่ทูตของประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญในการรับหนังสือร้องเรียนจาก น.ส.วีรดา เมืองสุข บุตรสาวนายวัฒนา ยิ่งมีองค์การนิรโทษกรรมสากลออกมาร่วมด้วยเกรงว่าหากฝ่ายคัดค้านมองว่าวิธีการนี้ใช้ได้ผล หากกลุ่มนักศึกษาที่คัดค้านเอาอย่างอดข้าวประท้วงจะยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ ประเมินแล้วว่าได้มากกว่าเสีย คือ จุดประเด็นให้สังคมโลกสนใจ งานของเขาประสบความสำเร็จ เป็นขั้นตอนที่เลือกช่วงเวลาเหมาะสม คือช่วงก่อนการทำประชามติ เพราะมีน้ำหนักในการเคลื่อนไหวมากกว่าช่วงอื่น เนื่องจากการทำประชามติตามหลักสากลควรให้มีการแสดงความเห็นว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในระดับหนึ่ง ถือว่ามีเหตุผลในการเคลื่อนไหว ที่ผ่านมาตนเคยเตือนรัฐบาลว่า ควรให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในกรณีประชามติ คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตำรวจ ดีเอสไอ และฝ่ายความมั่นคงหรือทหาร หารือเพื่อกำหนดออกกฎ กติกา ระเบียบ โดยต้องระบุให้ชัดว่าสิ่งใดทำได้ หรือทำไม่ได้ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ระบุห้ามรณรงค์ว่ารับหรือไม่รับนั้นก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่าหากใส่เสื้อสกรีนโหวตโนจะได้หรือไม่

“มี 2 เรื่องที่สังคมไม่ทำกัน คือ 1. การทดลองยาในมนุษย์ 2. ไม่ทดลองกฎหมายกับสังคมมนุษย์ ฉะนั้น หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจึงต้องรีบออกกฎ กติกา และระเบียบให้ชัดเจน เพราะเมื่อไม่ชัดเจน มันก็สบช่อง เปิดทางให้ฝ่ายคัดค้านได้เคลื่อนไหว โดยเฉพาะ การทำประชามติไม่ว่าเรื่องใดในสังคมโลก เขาไม่จับกุมคุมขังกัน เว้นแต่ จะเป็นความเคลื่อนไหวที่ทำผิดกฎหมาย แต่ถามว่าวันนี้ กกต.ออกกฎระเบียบใดๆ มาหรือยังว่าอะไรทำได้หรืออะไรทำไม่ได้ ก็ยังไม่ชัดเจน” นายนิพิฏฐ์กล่าว