โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เผย เลขาฯ คสช.ห่วงวาตภัยภาคเหนือและอีสาน สั่งแจ้งเตือนชาวบ้านรับมือ จัดทหารพร้อมคลี่คลายสถานการณ์ทันที ประสานจังหวัดใกล้ชิด ด้าน โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ยันยังไม่มีข่าวก่อการร้าย แต่ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา ส่วน 3 อุยกูร์เข้าไทยเป็นข้อมูลเก่า
วันนี้ (20 เม.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช. ) กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ธีรชัย นาคานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ลธ.คสช.) ห่วงวาตภัยทำประชาชนเดือดร้อน สั่งหน่วยทหารเข้าดูแลทุกครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบทันที จากการตรวจสอบสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 19 – 21 เมษายน 2559 จะมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบริเวณภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ซึ่ง ลธ.คสช. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์วาตภัยที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในภาคเหนือและภาคอีสาน ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่แจ้งเตือนและเตรียมเข้าช่วยประชาชนรับมือกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมเร่งบรรเทาความเดือดร้อนทันที
สำหรับ การขนย้ายสิ่งของ ซากปรักหักพัง การซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย การรักษาพยาบาล การมอบเครื่องอุปโภคบริโภค หรือการจัดหาที่อยู่อาศัยขั้นต้น โดยให้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในทุกพื้นที่เพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนขั้นต้นโดยด่วน ขณะที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ก็ได้ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งให้หน่วยทหารในพื้นที่ได้เตรียมพร้อมกำลังพลเพื่อเข้าคลี่คลายสถานการณ์ในทันทีหากเกิดเหตุวาตภัยขึ้น
ทั้งนี้ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดวาตภัยในเกิดหลายพื้นที่ของภาคเหนือและภาคอีสาน โดยทางหน่วยทหารของกองทัพบกได้เข้าสำรวจความเสียหายและเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายในเบื้องต้นแล้วในหลายพื้นที่เช่น มณฑลทหารทหารบกที่ 37 เช้าช่วยเหลือที่ อ.เมือง อ.พาน อ.แม่สวยจ.เชียงราย, มณฑลทหารทหารบกที่ 32 อ.เกาะคา จ.ลำปาง, ส่วนที่ อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี มณฑลทหารทหารบกที่ 22 เข้าช่วยซ่อมแซมบ้าน ,กรมทหารพรานที่ 23 และ กรมทหารราบที่16 เข้าช่วยดูแลผู้ประสบวาตภัยใน อ.กัณทรลักษณ์ และ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ, ส่วนที่อ.อรัญประเทศ และ อ.เมือง จ.สระแก้ว มณฑลทหารบกที่ 19 ก็ได้เข้าดูแลประชาชนแล้วเช่นกัน
พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า การสั่งการให้หน่วย คือ 1. จัดเตรียมความพร้อมของกำลังพลและเครื่องมือ ตลอดจนตรวจสอบแผนปฏิบัติการอย่างรัดกุม พร้อมทั้ง ติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังพื้นที่ที่หน่วยรับผิดชอบ โดยให้เพ่งเล็งที่ที่มีแนวโน้มอาจเกิดภัยพิบัติอย่างใกล้ชิด 2. ประสานการปฏิบัติกับจังหวัดอย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากส่วนกลาง ให้แจ้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เพื่อขอรับการสนับสนุนต่อไป
ด้านพ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์ด้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติว่า จากการติดตามและเฝ้าระวังของเครือข่ายหน่วยงานความมั่นคงในปัจจุบันยังไม่ปรากฏแนวโน้มการก่อเหตุร้ายที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชนและสถานที่สำคัญ ทั้งนี้พล.อ.ธีรชัย ในฐานะรอง ผอ.รมน. ได้เน้นย้ำงานด้านการข่าวโดยให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังการกระทำและพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงแรม บริษัทท่องเที่ยว และพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแส รวมถึงการสอดส่องพฤติกรรมของผู้ที่มีลักษณะต้องสงสัยที่อาจจะปะปนอยู่กับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะย่านที่พักอาศัย หรือสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมคุณภาพและสันติสุข
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าพบ 3 ชาวอุยกูร์หัวรุนแรงในประเทศไทย พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวยืนยันว่า เป็นข้อมูลเก่า เพราะทางด้านการข่าวของหน่วยงานความมั่นคงติดตามเรื่องนี้มาตลอด อีกทั้งจากการตรวจสอบไม่พบข้อมูลรายชื่อ 3 ชาวอุยกูร์หัวรุนแรง คาดว่าไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มด้านก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติในไทย