“นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย” โพสต์จวกเปลี่ยนอธิบดีประมง 10 ครั้ง ปัญหาทะเลไทยก็ยังอยู่ต่อไป ชี้ตราบใดยังไม่เปลี่ยนวิธีบริหารจัดการทรัพยากรทะเล เหตุปล่อยให้มีประมงแบบทำลายล้าง ใช้ทรัพยากรในทะเลเป็นแค่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ด้าน “บิ๊กฉัตร” ยันเป็นเรื่องปกติ เผยอดีตอธิบดีประมงเก่งวิชาการไม่เก่งบริหาร ต้นเหตุปัญหาไอยูยูล่าช้า ย้ำคนใหม่ผลงานไม่เข้าตาโดนอีก
วันนี้ (20 เม.ย.) มีรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งที่ 17/2559 เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำแหน่ง โดยให้นายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม เพื่อย้ายหรือโอนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และให้นายอดิศร พร้อมเทพ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมประมง มาดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมประมงแทนนั้น
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวยอมรับว่าถือเป็นเรื่องปกติของการบริหารงานที่จะมีการโยกย้ายผู้บริหารภายในกระทรวง ซึ่งเมื่อ 2-3 วันก่อนก็จะเห็นได้ว่าในหลายกระทรวงก็มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารภายในเช่นกัน ในส่วนของอธิบดีกรมประมงที่โยกย้ายไปนั้นต้องยอมรับว่ามีบุคลิกที่ค่อนข้างเป็นนักวิชาการ ไม่เก่งงานด้านบริหาร ทำให้การทำงานที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความล่าช้า หลายงานยังไม่เกิดความก้าวหน้าตามที่เป้าหมายที่วางไว้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยน เชื่อว่าอธิบดีคนใหม่นี้จะสามารถเร่งรัดการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ได้ดีขึ้น
นอกจากนั้น ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาไอยูยู เนื่องจากจะครบระยะเวลา 1 ปีที่ได้รับใบเหลืองไอยูยูจากสหภาพยุโรป (อียู) ผมจึงอยากเห็นกรมประมงมีการปรับเปลี่ยนการทำงาน มีการทำงานอย่างกระฉับกระเฉงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องตัดสินใจปรับเปลี่ยนอธิบดีกรมประมงขึ้น ซึ่งหากอธิบดีกรมประมงคนใหม่นี้ ทำงานไม่เป็นที่น่าพอใจอีก ก็พร้อมที่จะมีการปรับเปลี่ยนได้ทันที โดยผมก็พยายามหาคนที่ทำงานได้และมั่นใจในการทำงานมากขึ้น เท่าที่ผ่านมาอธิบดีคนก่อนก็ทำงานได้ แต่ด้วยโครงสร้างของกรมประมงที่มีการปรับเปลี่ยนการทำงาน มีขนาดองค์กรที่ใหญ่ขึ้น และหลายเรื่องของกรมประมงก็จำเป็นจะต้องเร่งรัดการทำงานมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนอธิบดีคนใหม่ขึ้น
ด้านเพจเฟซบุ๊กของนายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย โพสต์ข้อความประกาศราชกิจจานุเบกษา พร้อมภาพส่วนหนึ่งมีใจความว่า
“เปลี่ยนอธิบดีกรมประมงอีกสัก 10 ครั้ง ตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยนวิธีบริหารจัดการทรัพยากรในทะเล ยังปล่อยให้มีการทำประมงแบบทำลายล้าง ยังปล่อยให้มีการนำทรัพยากรในทะเลเป็นเพียงแหล่งวัตถุดิบให้กับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์...ฯลฯ ปัญหาทะเลไทยที่เผชิญอยู่ก็จะยังดำรงอยู่ต่อไป”