xs
xsm
sm
md
lg

กห.ตั้งกรมทหารพรานนาวิกโยธินดู จชต. สั่งดูแลทหารเกณฑ์เสมือนลูกหลาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
โฆษก กห.เผยที่ประชุม กห.เห็นชอบ ขรก.ลาออกก่อนเกษียณ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ตั้งกรมทหารพรานนาวิกโยธินดูแล จชต.ใช้กำลังประจำถิ่น เตรียมเข้า ครม.สัปดาห์หน้าแบ่งงบ 2 ระยะ กำชับดูแลทหารเกณฑ์เสมือนลูกหลาน ห้ามทำร้าย สั่งเข้มอาวุธสงครามตามชายแดน พร้อมช่วย ปชช.ช่วงฤดูร้อน

วันนี้ (18 เม.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยได้มีการพิจารณาเห็นชอบในการขยายเวลาการให้ข้าราชการลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ เป็นเวลา 3 ปี โดยในปีนี้จะให้ข้าราชการทุกชั้นยศตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไปเข้าร่วมโครงการ ที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ชั้นยศนายพล กำลังพลอายุ 50 ปีขึ้นไปของหน่วยกำลังรบ จนถึงปัจจุบันมีข้าราชการเข้าโครงการแล้วกว่า 25,000 นาย

พล.ต.คงชีพกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบตั้งกรมทหารพรานนาวิกโยธินกองทัพเรือที่จะลงพื้นที่ดูแล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามนโยบายของรัฐบาลและกล่องในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรโดยจะใช้กำลังประจำถิ่นเขาดูแลแทนกำลังหลักที่จะนำกลับเข้าพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและตราด เพื่อปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดนซึ่งกำลังพลชุดใหม่นี้จะประกอบด้วย 1 กรม 16 กองร้อย และ 1 หมวดทหารพรานหญิง ที่จะประจำการที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และเตรียมเข้าคณะรัฐมนตรีได้คาดว่าในสัปดาห์หน้าโดยจะแบ่งงบประมาณออกเป็น 2 ระยะ คือ งบประมาณประจำปี 2559 และงบประมาณประจำปี 2560

โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังมอบนโยบายในที่ประชุมในเรื่องการดูแลและปกครองทหารเกณท์ที่จะเข้ารับการฝึกในวันที่ 1 พ.ค. นี้โดยกำชับไม่ให้มีการทำร้ายหรือทำให้เกิดการสูญเสีย นอกจากนี้ ให้ดูแลทหารเกณฑ์อย่างใกล้ชิดเปรียบเสมือนน้องและลูกหลานดูแลด้วยความเมตตาทำมีการลงโทษได้แต่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่มีอยู่ไม่ให้มีการทำร้ายทหารเกณฑ์ภาพรวมที่ผ่านมาในการตรวจเลือดทหารกองเกินเข้าประจำการหรือทหารเกณฑ์ในปี 2559 นี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเน้นเรื่องการฝึกเบื้องต้นเป็นตามคำแนะนำของแพทย์อย่าเคร่งครัด

สำหรับนโยบายเกี่ยวกับความมั่นคง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม กำชับ ติดตามข่าวการ การมีหรือใช้อาวุธสงครามไว้ในครอบครองตามแนวชายแดน อย่างเข้มงวดและขยายเครือข่ายร่วมกับประชาชนเพื่อมีให้นำอาวุธสงครามมาข่มขู่และละเมิดสิทธิมนุษยชนและความมีเสรีภาพตามกฎหมายซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการลงประชามติ ที่ไม่ต้องการให้ประชาชนอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนที่กระทำตัวเหนือกฎหมายอีกทั้งเป็นการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและการใช้ความรุนแรง

“นอกจากนี้ ทาง รมว.กลาโหมยังกำชับให้เราช่วยเหลือประชาชนในช่วงฤดูร้อนตรวจตราระวังภัยในจุดเสี่ยงพื้นที่ต่างๆ ให้แก่ประชาชน เช่น ไฟไหม้ป่า หมอกควัน ไฟไหม้ชุมชน โดยร่วมงานกับหน่วยราชการอื่นอื่น” พล.ต.คงชีพกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น