โพลสวนดุสิตสำรวจเรื่องภัยแล้งต่อประเพณีสงกรานต์ ส่วนใหญ่มองคนไปเล่นน้ำน้อยลง กังวลน้ำกิน-น้ำใช้อาจวิกฤต ชี้หันมาเล่นแป้งแทน แต่เชื่อสงกรานต์ไม่หายไปแม้ขาดแคลนน้ำทุกปี แนะช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติ
วันนี้ (17 เม.ย.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องบทเรียนจาก “ภัยแล้ง” ที่มีต่อ “ประเพณีสงกรานต์” ซึ่งสถานการณ์ภัยแล้งของประเทศไทยปีนี้นับว่ารุนแรงและน่าเป็นห่วงอย่างมาก ทางภาครัฐจึงมีมาตรการประหยัดน้ำและขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนให้ช่วยกัน ในขณะที่เทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของไทยก็ได้มีการรณรงค์ในเรื่องของการเล่นน้ำแบบสืบสานประเพณีไทย เน้นการประหยัดน้ำเนื่องจากอยู่ในภาวะภัยแล้ง เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน โดยผลสำรวจจำนวนทั้งสิ้น 1,029 คน สำรวจระหว่างวันที่ 13-16 เมษายน 2559 สรุปผลได้ ดังนี้
เมื่อถามว่าประชาชนคิดอย่างไรต่อสถานการณ์ภัยแล้ง ณ วันนี้ อันดับ 1 รู้สึกเป็นห่วง กังวลเรื่องน้ำกิน-น้ำใช้ ที่อาจถึงขั้นวิกฤต สงสารและเห็นใจชาวนา 87.10% อันดับ 2 ถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกันประหยัดน้ำ ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า 84.09% อันดับ 3 ภาครัฐควรหาแนวทางป้องกันในระยะยาว แก้ไขอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม 79.48% อันดับ 4 ภาครัฐต้องออกมากระตุ้น รณรงค์ให้คนไทยตระหนักและรับรู้สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง 73.22%
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่า สถานการณ์ภัยแล้ง มีผลต่อเทศกาลสงกรานต์อย่างไร อันดับ 1คนออกไปเล่นน้ำน้อยลง น้ำมีน้อย ต้องใช้อย่างประหยัด 76.63% อันดับ 2 อากาศร้อนจัด มีผลต่ออารมณ์และสุขภาพร่างกาย 68.19% อันดับ 3 ภาครัฐออกมาควบคุมดูแลการเล่นน้ำ กำหนดเวลาและพื้นที่ในการเล่นน้ำ 61.56% อันดับ 4 พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของช่วงสงกรานต์มีรายได้ลดลง ส่งผลกระทบต่อยอดขาย 57.15%
เมื่อถามว่าจากสถานการณ์ภัยแล้ง ประชาชนได้มีการปรับวิธีการเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์อย่างไร อันดับ 1 ใช้การประพรม ประแป้ง แทนการสาดน้ำ 75.92% อันดับ 2 ใช้อุปกรณ์เล่นน้ำแบบประหยัด เช่น ปืนฉีดน้ำกระบอกเล็ก ฟ็อกกี้ ขันใบเล็ก 74.34% อันดับ 3 สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่แทนการเล่นสาดน้ำ 62.27% อันดับ 4 ไม่ออกไปไหน อยู่บ้าน หรือหากิจกรรมอย่างอื่นทำแทนการเล่นน้ำ 59.51%
เมื่อถามว่า “ถ้าขาดแคลนน้ำอย่างนี้ทุกปี” ประชาชนคิดว่าการเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์จะหายไปหรือไม่ อย่างไร อันดับ 1 ไม่หายไป 49.61% เพราะเป็นวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของไทยที่มีมานาน เป็นเทศกาลรื่นเริงของคนไทย บรรยากาศสนุกสนาน ส่งเสริมภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของไทย ฯลฯ อันดับ 2ไม่น่าจะหายไป 31.00% เพราะเชื่อว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งได้ สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นน้ำแบบประหยัด ทุกคนจะต้องช่วยกันอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย ฯลฯ อันดับ 3หายไปแน่นอน 10.08% เพราะไม่มีน้ำให้เล่น อาจเป็นเพียงแค่วันหยุดยาวที่ประชาชนได้หยุดพักผ่อน ไปเที่ยว หรือกลับภูมิลำเนา ฯลฯ อันดับ 4 ไม่แน่ใจ 9.31% เพราะขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาของภาครัฐว่าจะได้ผลหรือไม่ได้ผล สภาพภูมิอากาศในแต่ละปีอาจไม่แน่นอน ฯลฯ
เมื่อถามว่าประชาชนได้รับบทเรียนอะไรบ้างจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นและมีผลต่อประเพณีสงกรานต์ในปีนี้ อันดับ 1 ควรช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ลดโลกร้อน 85.03% อันดับ 2 ทุกคนต้องตระหนัก ช่วยกันประหยัดน้ำ ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า 83.47% อันดับ 3 ต้องรู้จักปรับตัว รับมือ เมื่อประเทศไทยไม่มีน้ำใช้หรือน้ำขาดแคลน 76.25% อันดับ 4 ภาครัฐควรมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสม วางแผนการใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค 67.16%