“วิษณุ” หารือฝ่ายเกี่ยวข้อง ปม AIS ขอจัดสรรคลื่นแทนแจสโมบาย ก่อนเคาะประมูลคลื่นใช้วิธีปกติ แต่ลดขั้นตอนให้เร็วขึ้น คาดเร็วสุด พ.ค. ให้สิทธิ์ทุกราย ยกเว้นแจสโมบายเริ่มที่ราคาเดิม นายกฯ ย้ำอย่าให้เกิดซิมดับ แม้ศาลไม่รับคุ้มครองชั่วคราวกรณีเอไอเอสฟ้อง กทค. และราคาห้ามต่ำกว่านี้ แจงห้ามทรูร่วมมติยังไม่ถึงที่สุด
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย หารือร่วมกับนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และตัวแทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรณีที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ทำหนังสือขอรับการจัดสรรคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่ราคา 75,654 ล้านบาท แทนบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด โดยภายหลังหารือเสร็จสิ้นนายวิษณุได้ขึ้นไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทันที เพื่อรายงานผลการหารือให้ทราบเป็นเวลา 30 นาที
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายวิษณุกล่าวภายหลังเข้าพบนายกฯว่า ทาง กสทช.ได้เสนอทางเลือก 3 ทางให้ที่ประชุมพิจารณา คือ 1. ใช้วิธีเปิดประมูลตามปกติ 2. การจัดสรรคลื่นความถี่ให้เอไอเอสตามที่มีการเสนอมา โดยต้องไม่ผ่านการประมูล และ 3. ใช้วิธีประมูลปกติ แต่ทำให้ขั้นตอนและระยะเวลารวดเร็วขึ้น โดยที่ประชุมได้พิจารณาข้อดี-ข้อเสียแล้วเห็นว่า วิธีที่ 2 ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้เพราะจะเป็นการตัดโอกาสของคนอื่น และทำให้เกิดการครหาได้ จึงเห็นว่า ควรจะใช้วิธีที่ 3 โดยให้มีการเปิดประมูลปกติ ให้ทุกรายที่เข้าประมูลครั้งที่แล้วหรือไม่ได้เข้าประมูลครั้งที่แล้วสามารถเข้าร่วมประมูลครั้งใหม่ได้ทั้งหมด ยกเว้นแจส โดยใช้ราคา 75,654 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาสุดท้ายและสูงสุดที่แจสเคยเสนอไว้มาเป็นฐานในการเริ่มต้น และจัดให้มีการประมูลโดยรวดเร็ว ซึ่งได้ให้ กสทช.ไปดูว่าร่นระยะเวลาอย่างไรได้บ้างในกฎหมายปกติ แต่ถ้าใช้กฎหมายปกติไม่ได้ให้เสนอมาเพื่อที่ คสช.จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ปัญหาให้ โดยวิธีนี้จะมีแค่ 3 ขั้นตอน แตกต่างจากวิธีที่ 1 ที่มี 7 ขั้นตอน ทำให้เร็วกว่าประมาณ 45-60 วัน คาดว่าเร็วที่สุดจะสามารถเคาะราคาได้ประมาณกลางเดือน พ.ค.นี้
รองนายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม อยากให้ความมั่นใจต่อประชาชนผู้ใช้โทรศัพท์ทั้งหลายว่า การคุ้มครองชั่วคราวที่เอไอเอสยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอกำหนดมาตรการเยียวยาคลื่น 900 เอาไว้นั้นจะมีจนถึงวันที่ 14 เม.ย. และทางเอไอเอสจะยื่นขอให้มีการคุ้มครองชั่วคราวออกไปอีก ไม่ทราบว่าศาลจะให้การคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ แต่ที่กังวลกันว่าวันที่ 15 เม.ย.จะเกิดปัญหาซิมดับหากศาลไม่คุ้มครองชั่วคราวนั้น รัฐบาลและ คสช.ขอยืนยันว่าจะหามาตรการช่วยเหลือ คุ้มครอง เยียวยาแก่ผู้บริโภคทั้งหลายเพื่อให้สามารถใช้โทรศัพท์ต่อไปได้โดยไม่เกิดปัญหาซิมดับขึ้นในประเทศแน่นอน ทั้งนี้ ขั้นต่อจากนี้ไปจะให้ กสทช.ไปคิดว่าจะใช้มาตรการปกติหรือจะขอให้ใช้มาตรการพิเศษ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม อยู่บนพื้นฐานของการให้โอกาสแก่ทุกฝ่าย และคุ้มครองประชาชน โดยทั้งหมดได้นำเรียนให้นายกฯ ทราบแล้วซึ่งนายกฯ ย้ำว่าอย่าให้เกิดปัญหาเรื่องซิมดับ อย่าให้เดือดร้อนแก่ผู้บริโภค และอย่าให้ต่ำกว่าที่ราคาได้ตั้งไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการหารือกันถึงกรณีที่ กสทช.มีมติไม่ให้ทรูเข้าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ นายวิษณุกล่าวว่า มติของ กสทช.ที่ไม่ให้ทรูเข้าประมูลถือว่ายังไม่เป็นมติถึงที่สุด เพราะเขาได้เอาเข้าไปสู่กระบวนการรับฟังความเห็นซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. แต่ในแนวทางใหม่นั้นให้ไปออกมาตรการมา คือ เปิดแก่ทุกรายที่จะเข้าประมูลเพื่อจะได้รักษาระดับราคา เมื่อถามถึงการป้องกันกรณีเกิดการผูกขาด นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่เกิดจึงไม่อยากตอบตรงนี้ แต่รัฐบาลคิดเอาไว้แล้ว