“กรุงเทพโพลล์” เผยประชาชนหนุนรณรงค์เล่นน้ำสงกรานต์อย่างประหยัด หวังรูปแบบประเพณีเก่าแก่รดน้ำดำหัวจะหวนกลับมา โดยส่วนใหญ่จะเปลี่ยนมาใช้วิธีประพรม คาดลดวันเล่นสงกราต์กระทบบรรยากาศการท้องเที่ยว เชื่อเรื่องการปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไปได้ยาก
กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนกรุงกับเทศกาลสงกรานต์ ท่ามกลางวิกฤตภัยแล้ง” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนในกรุงเทพฯ จำนวน 1,219 คน ผลสำรวจพบว่า ประชนชนร้อยละ 45.4 ระบุกิจกรรมที่ตั้งใจจะทำในวันสงกรานต์ปีนี้ คือ ไปทำบุญสรงน้ำพระตามวัดต่างๆ รองลงมาร้อยละ 38.7 จะรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และร้อยละ 31.8 ระบุว่าจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน
ทั้งนี้ ความเห็นต่อการรณรงค์ให้เล่นน้ำอย่างประหยัดในช่วงสงกรานต์เพื่อเป็นการช่วยลดปัญหาภัยแล้งของรัฐบาล ส่วนใหญ่ร้อยละ 84.2 ระบุว่าเห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 15.8 ระบุว่าไม่เห็นด้วย
สำหรับความเห็นต่อการลดจำนวนวันเล่นน้ำสงกรานต์ว่าจะส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวสงกรานต์ของไทยในปีนี้นั้น ร้อยละ 54.6 ระบุว่าน่าจะกระทบต่อบรรยากาศในการท่องเที่ยว ขณะที่ร้อยละ 45.4 ระบุว่าไม่น่าจะกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว
เมื่อถามว่าจากภาวะภัยแล้งในปีนี้จะเป็นโอกาสให้การเล่นน้ำสงกรานต์รูปแบบประเพณีเก่าแก่ที่สวยงามให้หวนคืนกลับมาได้หรือไม่ ร้อยละ 52.5 คิดว่าได้ รองลงมาร้อยละ 26.4 คิดว่าไม่ได้ และร้อยละ 21.1 ไม่แน่ใจ
สำหรับความตั้งใจของประชาชนในการเล่นสงกรานต์ช่วงภัยแล้งในปีนี้ พบว่า ส่วนใหญ่โดยร้อยละ 82.7 ตั้งใจจะเล่นน้ำสงกรานต์อย่างประหยัดในปีนี้ ด้วยการเล่นสงกรานต์ด้วยวิธี ประพรม (ร้อยละ 31.3) จะลดจำนวนวันในการเล่นน้ำสงกรานต์ (ร้อยละ 21.3) และจะงดการเล่นน้ำสงกรานต์ในปีนี้ (ร้อยละ 17.5) ขณะที่ร้อยละ 17.3 ระบุว่าจะเล่นน้ำสงกรานต์ตามปกติ
ส่วนเรื่องที่กังวลมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ร้อยละ 66.8 กังวลเรื่องการเมาสุราและการทะเลาะวิวาท รองลงมาร้อยละ 64.9 กังวลเรื่องอุบัติเหตุทางจราจรการเดินทาง และร้อยละ 40.4 กังวลเรื่องการเล่นสงกรานต์แบบรุนแรงเกินขอบเขต
สำหรับความเห็นการรณรงค์สงกรานต์ 5 ป. ของกรุงเทพมหานคร พบว่า เรื่องที่ประชาชนเห็นว่าทำได้ยากที่สุด คือ “ป. ปลอดแอลกอฮอล์” (ร้อยละ 75.6) รองลงมา คือ “ป. ประหยัดน้ำ” (ร้อยละ 35.6) และ “ป. ว่าปลอดโป๊” (ร้อยละ 33.6)