xs
xsm
sm
md
lg

กลาโหม สรุป “บิ๊กป้อม” ไปนราธิวาส ถก คปต.เยี่ยม รพ.เจาะไอร้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
โฆษกกลาโหม เผย “ประวิตร” ไปนราธิวาส ชูผู้เห็นต่างร่วมโครงการพาคนกลับกว่า 2 พัน ชาวมุสลิมเบื่อความรุนแรง รับไม่ได้ยึดโรงพยาบาลสู้รัฐ สั่งดูแลกฎหมาย อาชีพ คุณภาพชีวิต มีส่วนร่วมแก้ปัญหา ก่อนประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เยือนโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ชมเจ้าหน้าที่อดทน

วันนี้ (6 เม.ย.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 07.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อประชุมและติดตามการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเมื่อเดินทางถึง จ.นราธิวาส ได้พบปะพูดคุยและต้อนรับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ จำนวนกว่า 650 คน ในโครงการ “พาคนกลับ” ซึ่งมีความคืบหน้ามาโดยลำดับ มีผู้เห็นต่างจากรัฐ เข้าแสดงตนเพื่อร่วมโครงการแล้วเกือบ 2,000 คน พี่น้องมุสลิมดังกล่าวเริ่มเบื่อหน่ายต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และไม่เฉพาะประชาชนเท่านั้นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงเองบางส่วน ได้เกิดความเบื่อหน่ายเช่นเดียวกัน เนื่องจากแนวทางการต่อสู้ของขบวนการยืดเยื้อและไม่ชัดเจน จนสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงบางส่วนหันหลังให้กับขบวนการ ต้องการสันติสุขทยอยกลับมาอยู่กับครอบครัว โดยเฉพาะการกระทำล่าสุดซึ่งไร้มนุษยธรรมยิ่งของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถยอมรับได้ จากการใช้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้บริสุทธิ์ ผู้ป่วยในโรงพยาบาลเป็นฐานยิงและโล่กำบัง โจมตีฐานปฏิบัติการทหาร จนเป็นที่ประณามขององค์กรระหว่างประเทศทั่วโลก

ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ กอ.รมน.ภาค 4 ดูแลพี่น้องมุสลิม ตามขั้นตอน ทั้งเรื่องพันธะทางกฎหมาย การส่งเสริมอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งให้มีส่วนร่วมแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามโครงการประชารัฐร่วมใจสร้างอำเภอสันติสุข โดยพยายามยุติความขัดแย้ง ความรุนแรงด้วยแนวทางสันติวิธีโดยการไม่ใช้กำลัง และขอให้เจ้าหน้าที่ใช้ความอดทน เพื่อร่วมกันสร้างพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด มุ่งไปสู่สร้างสันติสุขชายแดนใต้ตามโรดแมปที่รัฐบาลได้วางไว้

หลังจากนั้น ประธาน คปต. ได้ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1/59 ณ ห้องประชุม บก.ฉก.นราธิวาส โดยรับทราบสถานการณ์ในพื้นที่ และความคืบหน้าของการดำเนินงานตามแผนงาน ปี 59 รวมทั้งร่วมกันทบทวนขอบเขตการปฏิบัติงานและแนวทางการดำเนินงาน ปี 60 ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ทุกส่วนราชการบูรณาการแผนงานและงบประมาณร่วมกันในรูปแบบประชารัฐ โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น และปรับเป้าหมายให้ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยทั่วถึงในทุกพื้นที่ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนและเปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่างได้เข้ามาร่วมพูดคุยและแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งด้านการศึกษา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องร่วมกันเข้าไปดูแลและทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ใกล้ชิดมากขึ้น พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันและการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มากขึ้น โดยตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพื่อร่วมกันดูแลพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้มีความปลอดภัยและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขที่ยั่งยืน

ต่อจากนั้น ได้นำคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ณ โรงพยาบาลเจาะไอร้อง และกองร้อยทหารพรานที่ 4816 ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง โดยได้กล่าวแสดงความเสียใจกับข้าราชการและครอบครัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละในการดูแลคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด พร้อมกับกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สะเทือนจิตใจคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งทุกคนไม่คาดคิดว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะใช้กำลังบุกยึดโรงพยาบาล และใช้บุคลากรทางการแพทย์เป็นเกราะกำบังในการโจมตีฐานปฏิบัติการทางทหารอย่างไร้มนุษยธธรรมยิ่ง

ในนามรัฐบาล ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกคน ที่อดทนและปฏิบัติหน้าที่อย่างเด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง และกล้าหาญมาโดยตลอด ประชาชนคนไทยทุกคนมีความห่วงใย และขอเป็นกำลังใจให้กับการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีได้ฝากแสดงความห่วงใยและขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในการทำงาน พร้อมกับกล่าวในตอนท้ายว่า เราจะร่วมกันสร้างสันติสุขของการอยู่ร่วมกันในพื้นที่ จชต. ให้เกิดขึ้นจงได้ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขที่ยั่งยืนของคนไทยทั้งชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น