หนุ่มระยองแบกโลงศพพ่อขึ้นกระบะ ร้อง “ประยุทธ์” รอบที่ 3 เหตุโกงที่ดิน เผยยังได้ที่ดินไม่ครบ เซ็นยินยอมเพราะถูกเจ้าหน้าที่กดดัน
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมชมการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีภายในทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่า นายประกิจ ประทุมชาติ ชาว จ.ระยอง ได้นำรถกระบะที่บรรทุกโลงศพบิดามาจอดบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กรณีถูกฉ้อโกงที่ดิน ซึ่งเมื่อวันที่ 1 มี.ค.เคยมาร้องเรียนแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยนายประกิจกล่าวว่า หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือที่ศูนย์บริการประชาชน ตนได้ไปไกล่เกลี่ยหนี้กับคู่กรณี ซึ่งความจริงที่ดินของตนมี 5 แปลง แต่ทางคู่กรณีขายคืนมาให้เพียงแค่ 2 แปลง รวมเป็นเงิน 3 ล้าน 5 แสนบาท โดยตนได้เซ็นยินยอมไปเนื่องจากถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ จึงมาขอเรียกร้องนายกฯ เพราะยังได้ที่ดินไม่ครบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชนได้เข้ามาเจรจา โดยนายยศพงษ์ งามรัตนไพบูลย์ นิติกรประจำศูนย์บริการประชาชน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้เซ็นยินยอมไปแล้ว การมาร้องเรียนนั้นจะเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมเริ่มใหม่หมดไม่ได้ จากนั้นจึงเชิญไปพูดคุยกันที่ศูนย์บริการประชาชนฯ ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาลต่อไป
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมชมการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีภายในทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่า นายประกิจ ประทุมชาติ ชาว จ.ระยอง ได้นำรถกระบะที่บรรทุกโลงศพบิดามาจอดบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กรณีถูกฉ้อโกงที่ดิน ซึ่งเมื่อวันที่ 1 มี.ค.เคยมาร้องเรียนแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยนายประกิจกล่าวว่า หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือที่ศูนย์บริการประชาชน ตนได้ไปไกล่เกลี่ยหนี้กับคู่กรณี ซึ่งความจริงที่ดินของตนมี 5 แปลง แต่ทางคู่กรณีขายคืนมาให้เพียงแค่ 2 แปลง รวมเป็นเงิน 3 ล้าน 5 แสนบาท โดยตนได้เซ็นยินยอมไปเนื่องจากถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ จึงมาขอเรียกร้องนายกฯ เพราะยังได้ที่ดินไม่ครบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชนได้เข้ามาเจรจา โดยนายยศพงษ์ งามรัตนไพบูลย์ นิติกรประจำศูนย์บริการประชาชน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้เซ็นยินยอมไปแล้ว การมาร้องเรียนนั้นจะเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมเริ่มใหม่หมดไม่ได้ จากนั้นจึงเชิญไปพูดคุยกันที่ศูนย์บริการประชาชนฯ ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาลต่อไป