“บิ๊กป้อม” ระบุ ก.พ.เสนอให้ข้าราชการเกษียณอายุ 65 ปี ต้องดูรายละเอียด ดำเนินการเลยคงไม่ได้เพราะมีผลกระทบเยอะ ส่วนร่าง รธน.ไม่ติดใจ แม้มีทั้งประเด็นที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่โดยภาพรวมน่าจะเดินไปข้างหน้าได้ ที่สุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในการทำประชามติ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยืดอายุข้าราชการเกษียณเป็นอายุ 65 ปี ว่าเรื่องดังกล่าวตนยังไม่เห็น แต่จะมาใช้เลยคงเป็นไปไม่ได้ และคนที่อายุ 59 ปีในปีนี้จะทำอย่างไร จะต้องไล่เป็นขั้นตอนไป จะให้ขยับจาก 60 เป็น 65 เลยคงไม่ได้ เพราะผลกระทบมีเยอะ คนที่มีอายุ 60, 61 และ 62 ปี จะต้องมีการแก้ไขตัวบทกฎหมายต่างๆ อีกหลายเรื่อง ไม่ใช่ว่าเสนอมาแล้วทำได้เลยเพราะต้องศึกษาในรายละเอียดต่อไป
พล.อ.ประวิตรยังกล่างถึงการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในบทเฉพาะกาลของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่าตนไม่ได้ติดใจอะไร เพราะสิ่งที่คิดได้พูดไปหมดแล้ว ตอนนี้ต้องอยู่ที่ กรธ.เป็นผู้ตัดสินใจ อะไรที่ดีที่จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ก็ทำไป ส่วนอะไรที่ไม่ดีและจะทำให้ประเทศชาติเสียหายก็อย่าไปทำ ถ้าสิ่งใดที่ทำให้เกิดการปรองดองก็ดำเนินการได้เลย ส่วนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่ คสช.เสนอไป ตนชี้แจง พร้อมทั้งมีการนำเสนอจากสื่อมวลชนไปหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อ กรธ.สรุปร่างรัฐธรรมนูญแล้วจะส่งให้รัฐบาล และ คสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะส่งก็ส่งมา ตนจะดูเท่านั้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง กรธ.คงดำเนินการจบแล้ว และไม่มีใครกล้าไปแตะ แต่จะต้องส่งให้ คสช.รับทราบด้วย
ส่วนที่หลายภาคส่วนวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญจะทำให้รัฐธรรมนูญสามารถเดินไปข้างหน้าได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในการลงประชามติ ตนไม่สามารถตัดสินใจได้ ทั้งนี้ ก่อนจะมีการร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาล และ คสช.ได้ส่งข้อมูลไปทั้งหมดแล้วว่าคิดเห็นอย่างไร ส่วนจะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องของประชาชน
ต่อข้อถามว่า พอใจกับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ในฐานะที่ผมเป็นประชาชน อะไรที่รับได้ก็รับ อะไรที่ปรับไม่ได้ก็เก็บไว้ในใจ เป็นธรรมดาที่ต้องมีทั้งเรื่องเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนภาพรวมคิดว่าน่าจะเดินต่อไปข้างหน้าได้”
รมว.กลาโหมกล่าวด้วยว่า ในการประชุมสภากลาโหม วันนี้ (28 มี.ค.) ไม่มีวาระอะไรพิเศษ เป็นเพียงการพูดคุยว่าที่ผ่านมาดำเนินการอะไรคืบหน้าไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะการปฏิรูปกองทัพ ตนได้มีการวางแผนไว้แล้ว 20 ปี พร้อมทั้งมีหน่วยงานที่จะเข้ามาชี้แจงว่ามีความคืบหน้าไปมากแค่ไหน
“กองทัพก็ต้องมีการปฏิรูป ทั้งการทำงาน สวัสดิการ ทุกเรื่องที่จะทำให้กองทัพมีความกะทัดรัด เพื่อให้การปฏิบัติงาน และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ซึ่งกองทัพ และกระทรวงกลาโหม ต้องใช้เงิน ไม่ใช่หน่วยงานที่หาเงิน และเราจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ก็มาจากภาษีประชาชนให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด”