xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ฮึ่มใส่ “วรชัย” ให้ “ระวังตัว” หลังท้าลาออกหาก รธน.ไม่ผ่าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ฮึ่มใส่คนท้าให้ลาออกหาก รธน. ไม่ผ่าน ลั่น “ระวังตัวไว้ด้วย” เตรียมใช้กฎหมายจัดการ เผย “ปฏิรูปตำรวจ” พยายามทำเต็มที่ แต่ต้องเห็นใจเพราะมีจำนวนมาก ถ้ารื้อเร็วไปงานเดินไม่ได้

เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อการร้ายที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า ในฐานะตัวแทนประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ขอประณามการก่อการร้ายครั้งนี้ รวมทั้งจะร่วมกันต่อต้านการกระทำดังกล่าวร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในโลกใบนี้ด้วย สำหรับในประเทศ รัฐบาลได้กำชับทุกส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วน ให้ใช้ความระมัดระวังในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยสถานที่และบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สำคัญที่มีชาวต่างประเทศและชาวไทยเป็นจำนวนมาก โดยขอให้ประชาชนทุกท่านได้ร่วมมือกันเฝ้าระวัง สังเกตหากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือพบบุคคลที่ต้องสงสัย ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อถึงภารกิจการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 1 และการประชุมโป๋วอ่าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 22 - 24 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่า โอกาสนี้ตนได้หารือแบบทวิภาคีกับ นาย หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้พูดคุยกันหลายเรื่อง ประเด็นสำคัญคือเราได้บรรลุถึงข้อตกลงหรือข้อยุติในหลักการเกี่ยวกับการดำเนินการสร้างรถไฟความร่วมมือ ไทย - จีน ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยไทยจะลงทุนดำเนินการเองทั้งหมดทุกขั้นตอน ไม่มีทั้งการให้สัมปทานหรือการร่วมทุนกับใครทั้งสิ้น เนื่องจากเราพิจารณาแล้วว่าเรามีศักยภาพสามารถทำได้ ซึ่งหลักการของทางประเทศจีนนั้นไม่สามารถร่วมลงทุนได้ในกรณีนี้ที่ไม่ใช่การสัมปทานได้

“เราลงทุนเองดีกว่า ผลประโยชน์ตกอยู่กับเราทั้งสิ้นและเราสามารถเริ่มเป็นโครงการแรก เป็นรถไฟความเร็วสูงเส้นแรก ระยะทางไม่ยาวมากนักคือเส้นทางกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ระยะทาง 250 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีจากจีน ในการก่อสร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งเรื่องก่อสร้าง การบริหารจัดการเดินรถ และคนไทยจะต้องดำเนินการให้ได้เองในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยใช้แรงงานและช่างเทนนิคคนไทยเป็นหลัก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯกล่าวยืนยันด้วยว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญของกับการมีรถไฟความเร็วสูง คือ เดิมคิดไว้ว่าจะทำรางไว้ก่อนแล้วนำรถไฟความเร็วปานกลางมาวิ่ง แต่สรุปแล้วว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์วันนี้ จึงปรับเป็นการลงทุนในประเทศดีกว่าเพื่อจะบริการประชาชนเป็นหลัก เรื่องเชื่อมโยงต่าง ๆ ก็ว่ากันในระยะต่อไป ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลพบว่า ภาคอีสานที่จำเป็นเกิดก่อน เพราะมีความพร้อมของศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน สำหรับภาคอื่นก็รอระยะหนึ่ง ไม่ใช่ว่าจะทำให้ภาคใดภาคหนึ่ง ต้องทำทุกภาคอยู่แล้ว แต่ตอนนี้รัฐบาลตั้งใจให้เป็นจุดเริ่มก่อน ให้ประชาชนได้เห็น ได้เข้าใจว่าการคมนาคมขนส่งของประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคตวันข้างหน้า เพราะฉะนั้นเราเริ่มภายในก่อนดีกว่า รวมไปถึงการที่รัฐบาลได้อนุมัติหลักการและจัดทำโครงการรถไฟทางคู่ตามเส้นทางเดิมเพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าและความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น

“ก็อยากให้เป็นรถไฟสู่อนาคต เป็นรถไฟความเร็วสูงเส้นประวัติศาสตร์ก่อนก็แล้วกัน วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมมือกันเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงให้ได้ เมื่อมีก้าวแรก ก้าวต่อ ๆ ไปก็จะตามมา ขอให้ทุกคนมั่นใจ ถ้าเราชักช้ากว่านี้ก็จะเสียงานเสียการ เราจะตามใครเขาไม่ทัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า คาดว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ ในเรื่องของเงินทุนก็คงจะใช้เงินกู้ด้วย ใช้ในการลงทุนเราเตรียมเงินไว้หลายอย่างด้วยกัน สิ่งที่ต้องเน้นคือ การบริหารจัดการพื้นที่สองข้างทาง โดยคนไทยเอง รัฐบาลจะหาวิธีการทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ร่วมกันอย่างสูงสุดกับคนไทยและภาคเอกชน ธุรกิจไทย อาจจะมีความร่วมมือในลักษณะ PPP ร่วมลงทุนทั้งหมดนั้นเราจะเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็วตามกำหนดเวลาที่มีอยู่ ตาม MOU ที่ลงนามกันไว้แล้วด้วย เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบเท่านั้นเอง ซึ่งทางจีนก็ยินดี

“วันนี้โชคดีที่หลายๆอย่าง ราคาค่อนข้างจะถูกลง แต่อย่าลืมว่าจำนวนวงเงินต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะด้วยเทคนิคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป อย่าเอาตัวเลขเดิมมาพิจารณาวันนี้ ตัวเลขเก่า ตัวเลขใหม่คนละอันกัน คนละสถานการณ์กัน” นายกฯกล่าว

หัวหน้า คสช. กล่าวต่อไปถึงความคืบหน้าในการปฏิรูป ระยะที่ 1 ว่า ที่มีปัญหากันขณะนี้ คือ เรื่องตำรวจ อะไรทำต่อต้องทำต่อ วันนี้ต้องให้สามารถดำเนินคดี จับกุมได้ ให้เหลือตำรวจน้ำดีอยู่เพื่อจะไม่ให้มีสิ่งไม่ดีในองค์กร ตนพยายามทำเต็มที่ แต่ต้องเห็นใจเพราะมีจำนวนมาก ถ้าเราไปรื้อเร็ว ๆ ทีเดียว งานก็เดินไม่ได้ วันนี้เราต้องเดินหน้าประเทศไปด้วย ขอความร่วมมือของผู้บังคับหน่วย ปลัดกระทรวง อธิบดี ดูตัวเองด้วยว่าทำงานได้ตรงตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งตนจะดูท่านอีกที

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการดำเนินนโยบายสำคัญของรัฐบาลด้วยว่า ในส่วนของโครงการบ้านประชารัฐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชนได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยของรัฐบาล คสช. 10 ปี (พ.ศ. 2559 - 2568) ซึ่งตั้งเป้าหมายให้ผู้มีรายได้น้อยกว่า 2.7 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ จาก 4.6 ล้านครัวเรือนตามยอดในปัจจุบันที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยได้มีที่อยู่อาศัย ร่วมกับโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของหน่วยงานอื่นด้วย

ขณะที่มาตรการกระตุ้นราคายางพาราในประเทศให้สูงขึ้น ปัจจุบันมีความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจในฐานะรัฐบาล แต่กลุ่มเกษตรกรอาจจะยังไม่พอใจมากนัก เพราะต้องการราคาที่สูงมากกว่านี้ จึงต้องขอเวลาอีกสักหน่อยเพื่อให้มาตรการต่าง ๆ เป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งในการไปเยือนประเทศจีนครั้งนี้ ทางการจีนได้รับปากว่า จะเร่งดำเนินการในเรื่องของการซื้อยางและข้าวจากไทยให้ได้โดยเร็วด้วย

ในส่วนของการร่างรัฐธรรมนูญ หัวหน้า คสช. กล่าวว่า นักการเมือง อะไรก็แล้วแต่ พูดแต่เรื่อง เลือกตั้ง ๆ ไม่เห็นมีใครพูดถึงอย่างอื่นเลยว่า จะทำการศึกษากันยังไง จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังไง ก็ดีแต่ติติงในส่วนที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำ ไปคิดใหม่ ทำใหม่ ยังมีโอกาสให้ท่านปรับปรุงตัว ตนไม่อยากใช้คำว่า ตนเก่งกว่าท่านหรือท่านเก่งกว่า แต่ถ้าไม่ได้มากล่าวอ้างให้ตนเสียหาย ก็ไม่เคยไปอยากตอบโต้อยู่แล้ว เสียเวลาการทำงาน

“หลายคนปากไม่ค่อยดี ก็คงลืมไปว่าวันนี้ผมอยู่ในตำแหน่งไหน ก็ระมัดระวังด้วยกฎหมาย เตือนไว้ก่อน มีบางคนบอกว่าผมต้องรับผิดชอบให้ผมลาออก ถ้าพูดอย่างนี้อันตราย ระวังตัวไว้ด้วยคนพูดอย่างนี้ บอกถ้าไม่เรียบร้อยไม่ผ่านผมจะต้องลาออก มันเรื่องอะไรของคุณ เดี๋ยวผมจะดำเนินการกับคุณทางกฎหมาย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อไปว่า อีกเรื่องที่ตนให้ความสำคัญสูงสุดในขณะนี้ แต่ก็ชักรำคาญแล้ว คือ เรื่องของการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ก็ได้หารือกับท่านรัฐมนตรีกับรองนายกรัฐมนตรีทุกท่านว่า จะดำเนินการอย่างจริงจังในกรณีที่มีการแอบอ้างว่ายังมีการทุจริตในเชิงโครงสร้างนโยบายอยู่ รัฐบาลมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย กำหนดมาตรการ กำหนดแผนงานโครงการ แล้วมีการตรวจสอบตลอดเวลา ถ้าเรื่องใดชัดเจน ก็ส่งให้หน่วยงานตรวจสอบทุจริตดำเนินการตามกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญคือ มีคนกล่าวอ้างว่า มีคนที่รู้จักกับผู้กำหนดนโยบายไม่ว่าจะตนหรือรองนายกฯหรือรัฐมนตรีหรือ คสช. คนเหล่านี้ใช้ไม่ได้ หากมีราชการหรือองค์การใดองค์กรหนึ่งก็ตาม เอาสิ่งที่รัฐบาล คสช. กำลังทำวันนี้ เจตนาที่ดีทุกอย่างไปแอบอ้างว่าได้สิทธิมาจาก คสช. ได้จากตน ได้จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯบ้าง ส่งเป็นเอกสารลับปิดซองเปิดผนึกมาได้เลย ตนจะตรวจสอบให้ทันที ไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น

“ผมเป็นนโยบาย ท่านว่าผมไม่ได้ เพราะผมไม่ได้มีเจตนาทุจริตอะไรเลย ไม่เคยต้องการผลประโยชน์ แต่ท่านกล่าวอ้างว่ามีการทุจริตเชิงนโยบาย ใครละที่ทุจริตเชิงนโยบาย วันนี้ไม่ว่าจะเพื่อนหรือใครก็แล้วแต่ ถ้าทุจริตผมไม่ละเว้น ผมจะรื้อทั้งหมด จำไว้อย่ามาอ้างใครอีก เด็กคนโน้นเด็กคนนี้อะไรต่าง ๆ ผมไม่ยอมทั้งสิ้น เพราะอำนาจผมคนเดียว ผมเป็นผู้รับผิดชอบ”

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ได้แนะนำให้คนไทยดูละครต่างประเทศเรื่องหนึ่งว่า หลายคนว่าตนไปเอาใจออกห่างละครไทย ซึ่งไม่ใช่ แค่ยกตัวอย่างเรื่องเดียวเท่านั้น ขณะที่ละครไทยมีแต่ความบันเทิงด่ากันไปมา ซึ่งต้องลดลงบ้าง หลายเรื่องเราดีอยู่แล้ว เช่น เรื่อง “ปดิวรัดา” ตนไม่ได้ดู แต่เห็นว่าดี เป็นการส่งเสริมอุดมการณ์ทำงานของราชการและธรรมะของผู้ครองเรือน อีกเรื่อง วัยแสบสาแหรกขาด ไม่ได้ดูเหมือนกัน เขาว่าดี กำลังฉายอยู่ ลองไปดูกัน มุ่งเน้นการดูแลปลูกฝังลูกหลาน ของเราในทางที่ถูก แก้ปัญหาเยาวชนในทางที่ถูก มีทั้งบ้านและโรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญ ร่วมมือกัน อีกเรื่องเป็นละครเวทีเรื่อง ผ้าห่มผืนสุดท้าย ซึ่งตนให้แต่งในวาระสำคัญ ของกองทัพบกตอนที่ยังรับราชการในกองทัพบกอยู่ คือ ธงไตรรงค์ที่ยามตายทุกคนทำหน้าที่ ถ้าตายก็มีผ้าห่มผืนสุดท้าย คือ ธงไตรรงค์ ที่ภาคภูมิใจให้กับครอบครอบครัว คือ ผืนเดียวเท่านั้น เป็นเรื่องราวของชีวิตที่เสียสละและรักครอบครัว ลองไปดูว่าสาระเป็นอย่างไร แสดงถึงวันที่ 3 เมษายนนี้ โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย ใครมีโอกาสมีความสามารถก็ไปติดตามและมาเล่าสู่กันฟัง

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 25 มีนาคม 2559


สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน สิ่งแรกที่ผมขอกล่าววันนี้ ในฐานะตัวแทนของประชาชนชาวไทย และประเทศไทยนะครับ ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการบาดเจ็บ และสูญเสียจากเหตุการณ์ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และขอประณามการก่อการร้ายครั้งนี้ รวมทั้งจะร่วมกันต่อตต้านการกระทำดังกล่าว ร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในโลกวันนี้ด้วยนะครับ

สำหรับประเทศเราเองนั้น ผมได้กำชับทุกส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วนให้ใช้ความระมัดระวังในเรื่องการรักษาความปลอดภัยสถานที่ และบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่สำคัญที่มีชาวต่างประเทศและชาวไทยจำนวนมาก เช่น ท่าอากาศยาน ท่าเรือ ท่ารถ สถานที่ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนทุกท่านร่วมมือกันเฝ้าระวังนะครับ สังเกต หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือพบบุคคลต้องสงสัยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็วนะครับ จะได้แก้สถานการณ์ได้ทันก่อนจะเกิดขึ้น

เรื่องต่อไป ผมขอแสดงความยินดีกับทีมฟุตบอลชาติไทย หรือทีมช้างศึกของเราที่ประสบความสำเร็จ ผ่านรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2 เป็นผู้นำกลุ่ม F เข้าไปสู่ฟุตบอลโลก 2018 พร้อมทั้งได้สิทธิแข่งขันเอเชี่ยนคัพ 2019 ด้วย ขอบคุณทุกคนนะครับ ขอบคุณโค้ช ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ทีมงาน และที่สำคัญนักเตะไทยทุกคนนะครับ ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ จนสามารถสร้างความสุขมาสู่คนไทยได้อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ นอกจากแสดงให้เห็นถึงความสามารถของทีม และความมุ่งมั่นแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่คนไทยทำไม่ได้นะครับ เราไม่เป็นรองชาติใดในโลกนี้ ถ้าเราพยายามช่วยกัน

วันนี้มีเรื่องดี ๆ เป็นเรื่องการร่วมมือของการทำงานร่วมกันในรูปแบบประชารัฐ อันได้แก่ การทำงานของมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิป่าทะเลเพื่อชีวิต สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และการเกษตร สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และบริษัท โคคา - โคล่า (ประเทศไทย) นะครับ โครงการรักษ์น้ำ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยจะใช้งบประมาณด้าน CSR คือ เรื่องประชาสัมพันธ์ของบริษัท ในการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชน ดำเนินโครงการในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฟื้นฟูแหล่งน้ำ ตามแนวทางพระราชดำริ เช่น การปลูกหญ้าแฝก ป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน การกำหนดแนวเขตป่าชุมชนให้คนอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล การบริการจัดการทรัพยากรน้ำ คือ การส่งเสริมให้มีการใช้วิวัฒนาการ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ร่วมกับฝ่ายชาวบ้านในการสร้างฝายชะลอน้ำ แก้มลิง แหล่งน้ำเล็ก ๆ ของชุมชนที่เก็บน้ำในไร่นา

นอกจากนั้น ยังมีการสร้างศูนย์การเรียนรู้ ระบบนิเวศวิทยา การสร้างเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการปรับปรุงกระบวนการผลิตของโรงงาน อุตสาหกรรม ให้ลดการใช้ต้นทุนน้ำลง 28% และเข้มงวดในการบำบัดน้ำทิ้ง ก่อนคืนกลับสู่ธรรมชาติให้อยู่ในระดับที่สะอาด ปลอดภัยต่อสัตว์น้ำนะครับ และสามารถใช้ในการเพาะปลูกได้อีกด้วย มีการตรวจสอบตลอดเวลา ผมเห็นว่าถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน มีน้ำใจต่อกัน ประเทศไทยเราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งครั้งนี้ได้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรักษ์น้ำตามแนวทางประชารักษ์นี้ เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยเฉพาะชุมชนเกษตรกรรมของไทย ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนมากที่สุดของประเทศให้เราสามารถยกระดับความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น ในกลุ่มเกษตรกรให้ดีขึ้น มีชีวิตใหม่ มีความหวัง ลดหนี้สิน โดยไม่ต้องเข้ามาเสี่ยงโชคในเมือง ทำงานขายแรงงาน ซึ่งไม่ค่อยเพียงพอ ครอบครัวมีโอกาสอยู่กันพร้อมหน้า ลูกหลานในอนาคตก็กลับไปพัฒนาถิ่นเกิดของตน รัฐบาลทำให้สอดคล้องทั้งหมด การศึกษาที่ต้องกลับไปพัฒนาตนเอง มีทุนการศึกษาให้ อย่างไรก็แล้วแต่ ต้องต่อยอดที่จบไปแล้วไม่มีงานทำ แต่ต้องมีกติกาชัดเจนว่าต้องกลับไปอยู่บ้านของตนเอง พัฒนาบ้านเกิดตนเองให้มั่นคงตลอดไป ทั้งหมดนี้ จะเกิดด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย เพราะประเทศไทยเป็นของคนไทยทั้งหมด ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ทั้ง 70 ล้านคนแล้ววันนี้

สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผมมีโอกาสลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อไปติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลที่ออกไปนะครับ อย่างยิ่งการสนับสนุนงบประมาณโครงการละ 1 ล้านบาท สร้างความเข้มแข็งและแก้ปัญหาภัยแล้ง ตามแนวประชารัฐ ก็มีตัวอย่าง หรือมีผลสำเร็จที่น่าชื่นชมนะครับ คือโครงการก่อสร้างประตูเปิด - ปิดน้ำ และคลองส่งน้ำหนองมัก ต.จอมศรี อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ที่เป็นการจัดการแหล่งน้ำทางการเกษตร ของชุมชนเอง ช่วยลดความเสี่ยงเกษตรกร 5 หมู่บ้าน 190 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์ 3,000 ไร่ สร้างรายได้แม้ในช่วงหน้าแล้ง ก็จะสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ ทำประมง ปลูกพืชผักสวนครัว พืชน้ำน้อยได้

นอกจากนั้น ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีคลองส่งน้ำเล็กๆ ลงสู่ไร่นาเกษตรกร ความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ที่จริงตื้นเขินแต่เราสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กักเก็บน้ำไว้ดื่มกินได้ นี่คือตัวอย่างระดับล่าง ที่ประชาชนมีความต้องการ กำหนดความต้องการขึ้นมาเอง และร่วมมือกันทำ และรัฐเข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือ

สำหรับประชารัฐระดับบน จะมีการประชุมคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.ส่วนจังหวัดนะครับ รัฐร่วมเอกชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน คือ จ.อุดรธานี เลย หนองคาย บึงกาฬ และหนองบัวลำภู ผมเป็นประธานการประชุมเอง เพื่อจะรับทราบการจัดการปัญหาภัยแล้ง จัดการน้ำที่มีอยู่ และติดตามความคืบหน้าการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็ก มีการรับฟังข้อเสนอของประชาชนหลายเรื่องด้วยกันนะครับ ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่ ในกลุ่มจังหวัดดังกล่าว รัฐบาลต้องการสร้างความร่วมมือ มีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน คือตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง สร้างความเชื่อมโยงทั้ง 18 กลุ่มจังหวัดให้สอดคล้องต้องกัน ชูจุดเด่นของแต่ละกลุ่มจังหวัด ของแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะวันนี้ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสินค้าที่จะต้องบ่งบอกต้นกำเนิด สินค้าใหญ่ ๆ ต้องระบุแหล่งที่มา เพื่อจะสร้างจุดสนใจให้กับสินค้าให้มากขึ้น และเป็นไปตามพันธสัญญา

สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ผมและคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการให้จัดทำงบประมาณเพิ่มเติมเรื่องนี้เร่งด่วน จำนวนเงินกว่า 300 ล้านบาท ตามที่ กรอ. กลุ่มจังหวัดเสนอมา เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ และสามารถจะเกิดได้ทันที ก็ยินดีนะครับที่ทุกคนช่วยกันคิดช่วยกันทำ อย่าให้รัฐต้องคิดเองทั้งหมด

อีกเรื่องคือ ระหว่างการเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 1 และการประชุม Boao Forum for Asia ระหว่างวันที่ 22 - 24 มีนาคม ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสพบหารือแบบทวิภาคีกับ พณฯท่าน หลี่ เค่อ เฉียง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเพื่อน เราเป็นมิตรกันอยู่แล้ว มีหลายประเด็นที่พูดคุยกันเรื่องการสร้างสรรค์ ทำยังไง ความสัมพันธ์ไทย - จีน จะพัฒนามากยิ่งขึ้นโดยเร็ว รวมทั้งการร่วมมือในการสนับสนุนประเทศอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะอาเซียนคือกัน ประเด็นสำคัญคือ เราบรรลุถึงข้อตกลง หรือข้อยุติในหลักการเกี่ยวกับเรื่องไทย ความร่วมมือไทย - จีน และ จีทูจี คือสรุปผมตัดสินใจแล้วว่า เราจะลงทุนทั้งหมด ทุกขั้นตอน ในลักษณะจีทูจี ไม่มีการให้สัมปทาน ร่วมทุนกับใครทั้งสิ้น เนื่องจากเราพิจารณาแล้วว่า เรามีศักยภาพ สามารถทำได้

ส่วนหลักการของจีนนั้น เขาไม่สามารถร่วมลงทุนได้ในกรณีนี้ หากไม่ได้เป็นเรื่องสัมปทาน เราคงให้เขาไม่ได้อยู่แล้ว เราลงทุนเองดีกว่า ผลประโยชน์ตกกับเราทั้งสิ้น และเราสามารถเริ่มเป็นโครงการแรก ด้วยรถไฟความเร็วสูงเส้นแรก เส้นทางไม่ยาวมากนัก กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ระยะทาง 250 กิโลเมตร เราจำเป็นต้องใช้จากจีนเบื้องต้นในการก่อสร้าง และมีการถ่ายทอดความรู้ การก่อสร้าง เรื่องการบริหารจัดการเดินรถ และคนไทยต้องดำเนินการให้ได้เองในระยะเวลารวดเร็ว

ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นความสำคัญกับการมีรถไฟความเร็วสูง คือเดิมคิดว่าจะทำรางไว้ก่อน สรุปแล้วมันไม่เหมาะกับสถานการณ์วันนี้ เราไปไม่ทัน และการลงทุน เราลงทุนในประเทศดีกว่า บริการประชาชนเป็นหลักแล้วกัน เชื่อมโยงต่างๆ ค่อยว่าระยะต่อไป เราสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น อยากให้ถือว่าเป็นรถไฟสู่อนาคต รถไฟความเร็วสูงเส้นประวัติศาสตร์ ก่อนแล้วกัน เพื่อประโยชน์ความสัมพันธ์ไทย-จีนด้วย เพื่อการพัฒนาปฏิรูปประเทศไทย เพราะจากการสำรวจข้อมูลแล้วพบว่า ภาคอีสานที่จำเป็นเกิดก่อน เพราะมีความพร้อม มีศักยภาพหลายด้าน จากที่ไปเยี่ยมเยียนมา เรื่องการค้า การลงทุนต่างๆ มีการขยับขยายดีมากขึ้น ภาคอื่นก็รอนิดหนึ่งนะครับ ไม่ใช่ว่าจะทำให้ภาคใดภาคหนึ่ง เราต้องทำทุกภาคอยู่แล้ว นี่รัฐบาลตั้งใจให้เป็นจุดเริ่มต้นก่อน ให้เอกชนได้เห็น ได้เข้าใจว่าการคมนาคมขนส่งของประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต ในวันข้างหน้าจำเป็นต้องมีหมดแหละ เพื่อใช้ในการบริการประชาชนเป็นหลัก การสัญจรไป-มาด้วยความรวดเร็ว การเคลื่อนย้ายแรงงาน การเคลื่อนย้ายคนที่จะไปสู่ต่างจังหวัด ไปทำงานต่างจังหวัด และต่างจังหวัดไปทำงานในกรุงเทพฯ ให้เร็วขึ้น เช้าไปเย็นกลับก็ได้ เพราะฉะนั้น เราเริ่มภายในก่อนดีกว่า ไม่ใช่เฉพาะเรื่องรถไฟความเร็วสูงอย่างเดียว ที่เราคิดอยู่ขณะนี้ นโยบายรัฐบาลที่ได้มีการอนุมัติหลักการ และจัดทำโครงการรถไฟทางคู่ตามเส้นทางเดิมให้สามารถสวนกันได้ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า และเดินทางที่ไม่รีบร้อน และอยู่ในศักยภาพที่ประชาชนทุกคนสามารถใช้ได้ไปพร้อมๆ กันอีกด้วยเป็นทางเลือก หากเราเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เราผลิตคนขึ้นมาใหม่ๆ ให้มีความชำนาญในเรื่องการบริหารจัดการ เรื่องเทคนิค เทคโนโลยีการควบคุมการบริหารการเดินรถเหล่านี้ เราก็สามารถที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ สิ่งที่ผมเน้นคือ การบริหารจัดการพื้นที่สองข้างทาง โดยคนไทยเอง โดยประเทศไทย รัฐบาลจะหาวิธีการทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ร่วมกันอย่างสูงสุดกับคนไทยและภาคเอกชน ธุรกิจไทย อาจจะมีความร่วมมือในลักษณะ PPP ร่วมลงทุนได้ ทั้งหมดนั้นเราจะเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็วตามกำหนดเวลาที่มีอยู่ตาม MOU ที่ลงนามกันไว้แล้วด้วย เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบเท่านั้นเอง ซึ่งทางจีนก็ยินดี

ทางนายกรัฐมนตรีจีนเขาฝากมาว่า ขอให้คนไทยเชื่อมั่นจีนกับไทยนั้นเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ขอให้เชื่อมั่นว่าทางจีนก็มีความปรารถนาดีกับไทย ผมก็ตอบเขาไปว่า เช่นเดียวกันไทยก็มีความปรารถนาเดียวกับจีน เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับประชาชนในประเทศ ซึ่งท่านก็รับปากว่าโอเค ต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนขึ้น ไม่ได้มุ่งหวังแต่เรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว ในการใช้แรงงานคงใช้แรงงานไทยเป็นหลัก ช่างเทคนิคไทยให้มากที่สุด เพียงแต่ว่าต้องเอาวิศวกร เพราะเราใช้เทคโนโลยีของเขามาแนะนำมาควบคุมการก่อสร้างอะไรต่างๆ ผมก็บอกไปแล้วว่า วัสดุบางอย่างนั้นที่ไทยสามารถผลิตเองก็ต้องใช้ของเรา อะไรผลิตไม่ได้จำเป็นต้องซื้อก็ต้องซื้อ วันนี้โชคดีที่หลายๆ อย่างก็ราคาค่อนข้างจะถูกลง แต่อย่าลืมว่าจำนวนวงเงินต่าง ๆ มันมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะด้วยเทคนิค และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป คืออย่าเอาตัวเลขเดิมมาพิจารณาวันนี้ ตัวเลขเก่า ตัวเลขใหม่คนละอันกัน คนละสถานการณ์กัน ดูว่าคุ้มค่าหรือเปล่า และเราได้ประโยชน์หรือไม่ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่าไปบิดเบือนกันจนเสียหายไปหมด ทุกอย่างไม่ได้กำหนดด้วยราคาเพียงอย่างเดียว มันต้องกำหนดด้วยประสิทธิภาพ ประสิทธิผลด้วย ผมอยากให้ประชาชนทั้งประเทศเกิดความมั่นใจ

ถ้าทุกคนตระหนักถึงความสำคัญร่วมกันของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนี้แล้ว จะสามารถขยับขยายไปยังภูมิภาค เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก อาจจะมี 3 - 4 เส้นอีกก็ได้ลักษณะเดียวกันนี้ไป เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ถ้าเรามีศักยภาพที่เพียงพอ และมีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น หรือมีการร่วมลงทุนกับคนไทยภายในประเทศให้มากขึ้น ผมคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ แล้วแต่ต่อไปเราก็จะเชื่อมเส้นแรกนี้อย่างเช่น ตะวันออกเฉียงเหนือไปโคราช ระยะแรกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไปยังแหล่งท่องเที่ยว เขตเศรษฐกิจ เมืองท่า เมืองสำคัญด้วยการใช้รถยนต์ รถไฟฟ้า โมโนเรล หรือทางเรือก็ได้ ให้มันเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน

สำหรับการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านการค้าขายไปสู่ทวีปอื่น ๆ นั้น ก็เป็นอนาคต เราจะได้ผสมผสานเป็นระบบการขนส่งทางรางของภูมิภาคและเอเซียต่อไป วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมมือกันเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงให้ได้ เมื่อมันมีก้าวแรก ก้าวต่อไปก็จะตามมาขอให้ทุกคนมั่นใจ เชื่อใจ ถ้าเราชักช้ากว่านี้ก็จะเสียการเสียงาน เราจะตามใครเขาไม่ทัน เพราะการประชุมทุกประเทศเขาพัฒนาหมด ขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือ ใครที่เดือดร้อนเราก็จะเยียวยาให้ มันต้องมีคนเดือดร้อนอยู่บ้าง แต่ประโยชน์ได้มากกว่าคนเดือดร้อนเราก็จะต้องดูให้มีความสุข หาที่อยู่ที่กินให้กรณีที่อยู่ในเส้นทางดังกล่าว อย่าต่อต้านคัดค้านกันเลย มันทำให้ประโยชน์ของชาติเสียหายไปเยอะ แต่ของตัวเองรัฐบาลก็จะดูแลให้ ขอให้เคารพใน กติกา ในกฎหมาย ผมจะพยายามรักษาผลประโยชน์ของชาติให้ได้มากที่สุด โดยจะกำกับดูแลอย่างละเอียด ทั้งตัวผมเองทั้ง คสช. และ ครม. อย่างรอบคอบ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติของชาติ มาจากภาษีของพวกเราทั้งสิ้น และเพื่อเป็นอนาคตของลูกหลาน คาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ ในเรื่องของเงินทุนก็คงจะใช้เงินกู้ด้วย ใช้ในการลงทุนเราเตรียมเงินไว้หลายอย่างด้วยกัน ในเรื่องของการลงทุนภาครัฐแต่ใช้ไม่ได้ เพราะว่าติดโน่นติดนี่เยอะแยะ ผมจำเป็นต้องตัดสินใจ ไม่อย่างนั้นก็ไม่เกิดงาน ไม่เกิดการจ้างงาน ไม่เกิดอะไรใหม่ๆ เลย และก็บอกว่ารัฐบาลเราบริหารเศรษฐกิจไม่ได้

เพราะฉะนั้นผมจึงอยากขอร้องว่าอะไรที่จะเกิดประโยชน์ขอให้ช่วยกัน อย่าคัดค้านกันเลย มีปัญหาอะไรอยากให้รัฐแก้ปัญหาให้ เราก็แก้ปัญหาให้ แต่ต้องเดินหน้าให้ได้ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงการคลัง ซึ่งควบคุมในเรื่องค่าใช้จ่าย เงินงบประมาณภาครัฐ ก็ดูแลในภาพรวมอยู่แล้ว กระทรวงคมนาคมก็ต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดคุ้มค่ากับเม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์ จะต้องมีการดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส ถ้าใครเห็นว่าไม่โปร่งใสก็ร้องเรียนมาเลย ผมตรวจสอบให้ทันที และจะต้องให้เกิดประสิทธิภาพโดยเร็ว

สำหรับภาคเอกชนของไทยก็ขอเชิญชวน ไม่ใช่เฉพาะเส้นทางเส้นนี้ มีอีกหลายอย่างที่อยากจะให้ร่วมมือนะครับ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นทางมอเตอร์เวย์ อะไรก็แล้วแต่ เราก็มีนักธุรกิจขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากพอสมควร ถ้าเรามาร่วมลงทุนกันในส่วนตรงนี้ได้ ผลประโยชน์ก็จะอยู่ในประเทศเราเอง ในเรื่องที่จะแบ่งปันกันอย่างไรก็ว่ากันมาให้เกิดความเป็นธรรม แต่ข้อสำคัญคือ ขอร้องให้ทุกคน ทุกบริษัทที่มีสตางค์ ช่วยประเทศชาติในช่วงนี้แล้วกันนะครับ ไม่อย่างนั้นไปไม่ได้แน่นอน วันหน้าก็เกิดไม่ได้อีกจะทำอย่างไร ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในหลักการ ในข้อเท็จจริง และก็ฟังข้อมูลของรัฐบาลที่ถูกต้องด้วย มันจะได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งใดๆ แน่นอนว่าทำอะไรก็ตามต้องมีความขัดแย้ง สำคัญคือข้อมูลถูกต้องหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นประเทศของเราติดกับดักของตัวเองอยู่แบบนี้ ขอให้มองอนาคตของประเทศไว้เป็นสำคัญ

ในเรื่องของความคืบหน้าในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลและ คสช. ในการแก้ปัญหาที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ซึ่งเราต้องปฏิรูปไปด้วย แต่คำว่าปฏิรูป คือปฏิรูประยะที่ 1 ของเรา ซึ่งมันไม่ได้ง่ายนัก เพราะฉะนั้นแผนปฏิรูปทั้งหมดที่เขียนมากันเยอะแยะไปหมด มันทำไม่เสร็จ ยังไงก็ไม่เสร็จ เพราะฉะนั้นทุกกิจกรรมต้องเอาระยะที่ 1 มาทำก่อน อะไรที่ทำไม่ได้ติดไว้ก่อน ทำที่ทำได้ก่อนเลย ทันที เรียกว่าปฏิรูปทันที ที่มีปัญหากันขณะนี้ คือเรื่องตำรวจ ต่าง ๆ มันต้องมีทันทีบ้าง อะไรทำต่อต้องทำต่อ

วันนี้ต้องให้สามารถดำเนินคดี จับกุมได้ ให้เหลือตำรวจน้ำดีอยู่เพื่อจะไม่ให้มีตำรวจที่ไม่ดีในองค์กร มีทุกองค์กร ข้าราชการก็มี ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ผมพยายามทำแต่ที่ แต่ต้องเห็นใจเพราะมีจำนวนมาก ถ้าเราไปรื้อเร็ว ๆ รื้อทีเดียว งานมันก็เดินไม่ได้อีก วันนี้มันต้องเดินหน้าประเทศไปด้วย ถ้าไม่มีความขัดแย้ง ไม่ต้องปฏิรูป ไม่ต้องเดินหน้าประเทศ ผมรื้อทันทีทุกวัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ขอความร่วมมือของผู้บังคับหน่วย ปลัดกระทรวง อธิบดี ดูตัวเองด้วยนะครับ ว่าทำงานได้ตรงตามนโยบายของรัฐบาลหรือยัง ตามวิสัยทัศน์ที่รัฐบาลกำหนดหรือยัง และผมจะดูท่านอีกที อันนี้่ก็ขอให้ความสำคัญกับโครงการที่สำคัญ ในเรื่องการสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ ที่สำคัญ เช่น โครงการบ้านประชารัฐ อันนี้เรามีความมุ่งหวัง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน ที่มีรายได้น้อยและปานกลาง ข้าราชการด้วย ก็ถือว่ารายน้อย รายได้ไม่แน่นอน ก็มีอีกพวกหนึ่ง พวกอิสระ ประกอบอาชีพค้าขาย ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง มันใช่เลย คืออาชีพอิสระ ต้องดูคนทุกพวก ข้าราชการต้องเห็นใจเขาถึงทุกคนบอกว่าเขาจะต้องมีเงินเดือนแต่เขาต้องเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ว่าจะขึ้นเงินเดือนเท่าไรก็ตาม พอขึ้นเงินเดือนเสร็จ มันเป็นไปตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สิทธิของเขา ต้องขึ้นปีไหนขึ้นได้ ปีไหนขึ้นไม่ได้ ก็ต้องคอยก่อน แต่บางครั้งจำเป็นต้องขึ้น ไม่ใช่เอาเงินไปให้เขา ถ้าเพิ่มให้เขาไป ภาษีจะกลับมา อันที่ 1 อันที่ 2 ก็มีแรงจับจ่ายใช้สอยในข้างล่าง ผมไม่ได้มุ่งหวังว่าต้องซื้อของมากขึ้น ผมมุ่งหวังให้มีการผลิต ถ้าไม่มีใครซื้อเลย ประชาชนซื้อไม่ไหว รายได้น้อย ยังไปไม่ถึงตรงนั้น ก็ต้องเอาข้าราชการไปนำร่องก่อน วงจรผลิตต่างๆ จะได้ไม่เลิกผลิต ไม่อย่างนั้นโรงงานประกอบการต่อไปได้ไม่หมด อยากให้คิดให้เป็นระบบแบบนี้ อะไรที่เราเริ่มได้ก็เริ่มก่อน

เพราะฉะนั้นในส่วนของที่อยู่อาศัย อยากให้ดูนะครับว่าเราคิดเป็นระบบระยะยาว เราจะทำให้คนที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อนเลยให้สามารถมีบ้านเป็นของตนเอง และก็จะมีสถานที่ค้าขายประกอบการแถวๆ นั้น จะได้ไม่ลำบาก เชื่อมโยงกับระบบคมนาคมขนส่งอีกเป็นภาพรวม

ระยะแรกในมูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อหน่วย โดยมีหลายอย่างด้วยกัน ก็คือจัดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยมีธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสินจัดทำโครงการวงเงิน 40,000 ล้านบาท มีระยะเวลาเงินกู้ไม่เกิน 30 ปี อีกอันหนึ่งก็คือ สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อประมาณ 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ระยะเวลาเงินกู้ไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนสินเชื่อให้เอกชนผู้ประกอบธุรกิจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการเคหะแห่งชาติ ได้เข้าร่วมพัฒนาโครงการฯ จะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในเรื่องการก่อสร้าง ในเรื่องของการจ้างแรงงานต่างๆ ด้วย เป็นภาพรวมของประเทศ

อีกประการคือ การสนับสนุนให้เอกชนผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าร่วมพัฒนาโครงการฯ นี้ รับภาระค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ร้อยละ 2 ของราคาที่อยู่อาศัย และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองร้อยละ 1 ของมูลค่าจำนองเป็นระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนกลางในปีที่ 1 เป็นต้น โดยเริ่มโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยของรัฐบาล คสช. 10 ปี พ.ศ. 2559 ถึง พ.ศ. 2568 ก็ตั้งเป้าหมายให้ผู้มีรายได้น้อยกว่า 2.7 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ จาก 4.6 ล้านครัวเรือนตามยอดในปัจจุบันที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย เคยเห็นไหมว่ามี 4.6 ล้าน เราทำ 10 ปี ได้แค่ 2.7 ล้าน มันก็ต้องหาความร่วมมือให้มากขึ้น ถ้าเราอยากให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สังคมก็จะได้ปลอดภัย เราจะต้องสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการของรัฐ และธำรงความเป็นธรรมในสังคม

ในปี พ.ศ. 2559 นั้น ได้ข้อสรุปมาแล้วนะครับ จากการเคหะแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ มีโครงการที่พร้อมขับเคลื่อน ได้แก่ 1. โครงการต่อเนื่องพร้อมขายและส่งมอบ จำนวน 182 โครงการ 10,000 หน่วย 2. คือ โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย จำนวน 61 โครงการ 15,000 หน่วย 3. โครงการบ้านพักสวัสดิการข้าราชการ ประมาณ 5,000 หน่วย 4. โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง เป้าหมาย 20,000 กว่าหน่วย

เราจะเริ่มประมาณเดือนมิถุนายนนี้ ในส่วนของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน มีโครงการที่พร้อมขับเคลื่อนปีนี้ ได้แก่ 1. โครงการบ้านมั่นคง พร้อมส่งมอบบ้านเกือบ 3,000 ครัวเรือน 2. โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร จำนวน 26 ชุมชน เกือบ 4,000 ครัวเรือน โดยจะส่งมอบพื้นที่ให้กรุงเทพมหานครบริหารจัดการต่อในกลางปีนี้ 3. โครงการที่อยู่อาศัยกลุ่มคนไร้บ้าน ที่จังหวัดเชียงใหม่และขอนแก่น รวม 151 ครัวเรือน และ 4. โครงการปทุมธานีโมเดล เป้าหมาย 1,000 กว่าครัวเรือน

อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวเรียนไปแล้ว ต้องทำต่อเนื่อง ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนก็ตาม น่าจะต้องทำต่อให้สำเร็จ เพราะในระหว่างที่เรากำลังทำอยู่ ก็ไม่ครบ 4.6 ล้าน และระหว่าง 10 ปี 20 ปี วันข้างหน้า จำนวน 4.6 ล้านมากขึ้นไปตามลำดับ เพราะคนมันโตขึ้น มีครอบครัวมากขึ้น อะไรก็แล้วแต่ คนต้องการตลอดเวลา ก็ขอให้เป็นยุทธศาสตร์ระยะยาว

เรื่องต่อไปคือ เรื่องมาตรการกระตุ้นราคายางพาราในประเทศให้สูงขึ้น วันนี้เราเริ่มรับซื้อยางในตลาดไปแล้ว แล้วก็จัดโครงการจับคู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาง อันนี้สำคัญที่สุด และมีการส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางและยางพาราธรรมชาติ และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยหันมาแปรรูปยางพาราให้มีมูลค่าสูงขึ้น ตลอดจนมีการหารือกับ 3 ประเทศใหญ่ในเอเชียที่จะร่วมกันรักษาเสถียรภาพราคายางของพวกเรากันเอง ที่เราเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกด้วย ทุกอย่างมีความก้าวหน้าตามลำดับ เราจะต้องแก้ปัญหาราคายางในประเทศอย่างยั่งยืน สำคัญที่สุดคือการผลิต ผลการดำเนินงานในปัจจุบันมีความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจในฐานะรัฐบาล แต่แน่นอนบรรดากลุ่มเกษตรกรอาจจะยังไม่พอใจมากนัก เพราะต้องการราคาที่สูงมากกว่านี้ ขอเวลาสักหน่อย เถอะครับ มันยังต้องพัฒนาไปสู่การผลิต สร้างนวัตกรรมให้มีมูลค่าสูงขึ้น ใช้ในประเทศให้มากขึ้น มันต้องใช้เวลา

ทั้งนี้ ต้องมีการเตรียม Rubber City ในเรื่องของการสร้างโรงงานผลิตยาง ยางรถยนต์ สนามทดสอบยาง มันต้องใช้เวลาเพราะที่ผ่านมาไม่ได้ วันนี้ผมต้องเข้ามา กว่าจะทำอะไรได้สักอย่างติดไปหมด เพราะปัญหาเก่ามีอยู่ วันนี้ต้องมาแก้ ต้องใช้อำนาจบางอย่างที่ผมมีอยู่ในการที่ทำให้เกิดขึ้น วันนี้ที่น่าพอใจ เห็นราคาและจำนวนที่มียอดสั่งซื้อ และมูลค่าการซื้อขายเป็นจำนวนมาก จากผู้ซื้อต่างประเทศกว่า 40 ประเทศ มีคำสั่งซื้อสินค้ายางและผลิตภัณฑ์รวมมูลค่ามากกว่า 5 หมื่นล้านบาท นี้คือสิ่งที่รัฐบาลแก้ รัฐบาลนี้แก้อย่างยั่งยืน สามารถช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ยางภายในประเทศ ทั้งยางแท่งยางแผ่นรมควัน น้ำยางข้นรวมเกือบ 8 แสนตัน นอกจากนั้น ยังมียอดสั่งซื้อไม้ยางพารา กว่า 2 หมื่นตู้คอนเทนเนอร์

โดยล่าสุดมีผู้ซื้อจากต่างประเทศให้ความสนใจเพิ่มเติม ทั้งจากกลุ่มประเทศอาเซียนจีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สหรัฐฯ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU ว่าจะซื้อขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง จำนวน 8 ฉบับ มูลค่ากว่า 17,500 ล้านบาท และ MOU การซื้อขายผลิตภัณฑ์ยางและยางพาราธรรมชาติอื่น ๆ อีก ที่มีกำหนดส่งมอบภายใน 1 ปี มีมูลค่า 2,160 ล้านบาทเป็นผลที่รัฐบาลได้จัดคณะรัฐมนตรีไปเดินการตลาด เรื่องการค้าขายผลิตผล ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาง ข้าว มีตลาดใหม่มากมาย

สำหรับการไปเยือนจีนครั้งนี้ ได้พูดคุยกับท่านรัฐมนตรีจีน ท่านรับปากว่าจะเร่งดำเนินการในเรื่องของการซื้อยางและข้าวจากไทยให้ได้โดยเร็ว หลาย ๆ อย่างดีขึ้น หลายประเทศมีความเชื่อมั่นเรามากขึ้น วันนี้เราต้องเชื่อมั่นกัน ถ้าไม่เชื่อมั่นกันเอง ต่างประเทศไม่เชื่อมั่น เพราะฉะนั้นกรุณาฟังนิดหนึ่งว่าผมทำอะไรอยู่

ในส่วนการเร่งรัดให้กระทรวงต่าง ๆ ส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ อันนี้ขอสั่งการโดยตรงอีกครั้งหนึ่งให้เร่งดำเนินการสู่การผลิตให้ได้โดยเร็ว เพราะว่าทุกกระทรวงรออยู่ เพื่อจะได้ไปกำหนด TOR ไปกำหนดพื้นที่ในการสร้าง เช่น สนามกีฬา หรือว่ายางปูพื้น อะไรเหล่านี้ หรือแม้กระทั่งใช้เป็นยางรถยนต์ สำหรับยางยนต์ทางทหาร ยานยนต์หนักอะไรเหล่านี้ คือถ้าเราไม่ทำตรงนี้ เริ่มต้นไว้ก่อน มันไปไม่ได้หรอกครับ ในระหว่างที่เรารอบริษัทใหม่ๆ เกิดขึ้น เราก็เอาบริษัทเก่าๆ ที่มีอยู่แล้วเดิม ที่เขามีอยู่แล้ว ให้มาขอร้องขอความร่วมมือประชารัฐได้ไหม ส่วนหนึ่งมาเอายางกับเราไปผลิตออกมา และมาขายส่วนราชการตามระเบียบต่างๆ ที่เราได้เขียนขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้ใคร ต้องมีการแข่งขันกัน มีการให้ความร่วมมือระหว่างกัน และใช้มาตรการทางการเงินการคลังดูแลท่าน มีทั้งลานกีฬา สนามเด็กเล่นอะไรเหล่านี้ ถึงแม้ว่าราคายางในปัจจุบันจะดีขึ้น แต่ผมยังไม่สบายใจมากนักจนกว่าจะคงที่ เพราะว่าวันนี้มันเกี่ยวโยงกับปัญหาน้ำมันด้วยไง น้ำมันมีส่วนในการผลิตยางเทียมได้ถูกกว่า

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติดีกว่า ทนกว่า แข็งแรงกว่า แต่ราคามันสูง แต่ทำอย่างไรทั้งสองอย่างมันจะไปด้วยกันให้ได้ รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน วันนี้จะรอดูผลจากการดำเนินงานของแต่ละกระทรวงมาประเมินผลด้วยว่าท่านไปถึงไหนแล้ว ในเรื่องของการใช้ยางเหล่านี้ แต่ผมต้องกำชับหน่วยงานตรงกลาง กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรฯ BOI อะไรเหล่านี้ต้องเร่งดำเนินการ ผมได้สั่งไปหลายครั้งให้รีบผลิตออกมาให้มันจับต้องได้สักที มันจะทำอะไรออกมา ขนาดเท่าไร กว้างยาวแค่ไหน ใช้ทำอย่างไรได้บ้าง เขาเสนอไปแล้วไงว่า เขาต้องการอะไร เขาเตรียมเงินเพื่อจะทำอยู่แล้ว แต่ยังผลิตไม่ได้ เพราะว่ายังหาบริษัทใหม่ๆ มาทำไม่ได้ ใหม่ไม่มีเอาอันเก่า แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น ขอเป็นความร่วมมือประชารัฐ

เรื่องที่ 3 คือเรื่องการยกระดับคุณภาพวิชาชีพกำลังคนของอาชีวศึกษา ผมได้ออกคำสั่งโดยการบูรณาการระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้แทนภาคเอกชน ในการที่จะรวบรวมข้อมูลความต้องการกำลังคนอาชีวะ เพื่อจะนำมาวางแผนผลิตคน ขณะเดียวกันต้องหาตำแหน่งจ้างงานรอไว้ด้วย ไม่ใช่ผลิตมามากแล้วไม่มีคนรับทำงาน อันนี้คือประเด็น หรือออกไปทำงานไม่ได้

เพราะฉะนั้นผมอยากให้ใช้เวลาที่ผมบอกว่า ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลาเรียนรู้ เอาเวลาเรียนรู้มาสอนวิธีการทำงานของเราด้วย จบไปจะได้ทำงานได้เลย และมีการศึกษาทวิภาคีอยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้นให้ช่วยกระทรวงศึกษาฯ ด้วย อย่าคิดว่าศึกษาคือกระทรวงศึกษาฯ ไม่ใช่ ผมบอกแล้วทุกกระทรวงเกี่ยวข้องหมด มหาดไทยก็เกี่ยว แรงงานก็เกี่ยว อุตสาหกรรมก็เกี่ยว เพราะมันเป็นที่คนต้องใช้คนไง ถ้ากระทรวงศึกษาฯ ผลิตไม่ตรงก็ไร้ประโยชน์ ไม่ต้องมีกระทรวงศึกษาฯ ก็ได้

เพราะฉะนั้นเราได้กำหนดเรื่องนี้ต้องผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของภาคเอกชน ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ หารือร่วมกัน มีคณะกรรมการร่วมกันอยู่แล้วในขณะนี้ ใช้ระยะเวลา 5 ปี 58 - 62 สรุปผลเบื้องต้นที่เขารายงานผมมาดังนี้นะครับ 1. หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ต้องการแรงงานสายวิชาชีพกว่า 3.5 ล้านคน ไม่ใช่น้อยนะครับ

2. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีความต้องการ ราว 1.2 ล้านคน 3. สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีความต้องการ ประมาณ 6.5 แสนคน นี่เป็นเพียงประมาณการเบื้องต้น ไม่เคยมีใครทำมาก่อนหรอกผมดูแล้ว ผมให้ไปไล่มา มันจะได้รู้ว่าผลิตใครออกมา ประชาชนก็รู้ว่ามันจะมีงานตรงไหน ไม่ใช่เรียนอะไรก็ได้ จบมาไม่มีงานทำ มีปริญญาแต่ไม่มีงานทำ หรือทำงานไม่เป็น ไม่ได้ เราต้องเร่งในการจัดทำแผนผลิตกำลังคน แรงงานฝีมือของประเทศ วันนี้ต้องวิศวกรรถไฟ วิศวกรบริหารการเดินรถ วิศวกรราง อะไรเยอะแยะไปหมด ในเมื่อเราจะพัฒนาประเทศเราไปสู่ความทันสมัย คนเหล่านี้เรามีหรือยัง ถ้ายังไม่มีเราต้องเอาคนข้างนอกมาทำ และวันหน้าคนของเรายิ่งไม่มีงานทำเข้าไปอีก คิดแบบนี้ รัฐบาลใครก็แล้วแต่ คิดให้มันเป็นแบบนี้ อย่าไปใช้การบริหาร การแก้ปัญหาในเชิงเร่งด่วนอย่างเดียว เร่งด่วนก็คือให้ทุกคนพอใจแล้วจบๆ กันไป แล้วความยั่งยืนมันไม่เกิดไง ไอ้ที่ผมทำยั่งยืน แต่อาจจะไม่ทันใจ ก็คิดดูแล้วกันว่าจะเลือกแบบไหน

สำหรับกระทรวงศึกษาธิการนั้น เราจะต้องกำหนดทิศทางความต้องการในอนาคตนั้น เพื่อจะนำเป็นข้อเสนอต่อคณะทำงานประชารัฐ ซึ่งเรามีอยู่หลายกลุ่มด้วยกันขณะนี้ เพื่อจะยกระดับคุณภาพวิชาชีพ คือภาคเอกชนต้องช่วยด้วย ในเรื่องของทุนการศึกษา ในเรื่องของการวิจัยและพัฒนา ในเรื่องของการเรียนรู้ในระบบทวิภาคี และการเตรียมงานสำหรับบุคคลกลุ่มนี้ และยกระดับเขาเป็นหัวหน้างาน เหล่านี้เป็นเรื่องความเชื่อมโยงทั้งหมดที่ทุกคนต้องคิดให้ครบ ทุกกระทรวงต้องคิดแบบนี้ ถ้าคิดกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งมันก็ไปไม่ได้เหมือนเดิม

เพราะฉะนั้นผมอยากพิจารณาเร่งด่วนในปีนี้ ก่อนยอดเมื่อกี้ที่ว่าเรามีความต้องการกำลังคนปี 59 ประมาณ 1 ล้านคน ในแต่ละสาขาอาชีพที่หน่วยงานเขาเสนอมา ในขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผลิตได้เพียง 4 แสนกว่าคนเท่านั้น ดูสิครับมันขาดเท่าไร ขาดไป 6 แสนกว่า เพราะฉะนั้นแสดงว่าแรงงานอาชีวะยังไม่เพียงพอป้อนตลาดแรงงานอีกกว่า 5 แสนคน มันเป็นโอกาสแล้ว ลูกหลานทุกคนมาเรียนอาชีวะก่อนแล้วปริญญาค่อยอีกที หรือเรียนไปพร้อมๆ กันก็ได้ ทำงานไปด้วยได้เงิน เลิกซะทีตีกัน ทะเลาะกัน พอแล้ว ไม่ได้เงินด้วย ติดคุกอีกต่างหาก

เพราะฉะนั้นมาเรียนอาชีวะ และมีงานทำ อยากให้ทุกคนอยู่ในกลุ่มคนทั้งหมดประมาณเท่าไรล่ะ 1 ล้านคน ที่จะต้องหางานทำในปี 59 เพราะเราขาดตั้งหลายล้าน รัฐบาลทำเต็มที่แล้วทั้งในสาขาวิชาเดิม และการเปิดสาขาวิชาใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของสถานประกอบการ ขอร้องสถาบันต่างๆ อุดมศึกษาด้วย ไม่ใช่เฉพาะอาชีวะ กรุณาไปทบทวนดูสิว่า สาขาที่สอนกันออกมามีงานทำกันเท่าไร ถ้าไม่มีจะทำยังไง จะปรับแก้กันได้ไหม จะปรับส่วนหนึ่งมาเป็นด้านวิชาชีพ ในลักษณะที่เป็นช่างเทคนิคบ้างได้ไหม วิศวกรบ้างได้ไหม ถ้าผลิตมาด้านเดียวด้านบริการ ท่องเที่ยว มัคคุเทศก์อย่างเดียว อีกหน่อยจะล้น ผมว่ามันจะล้น

เพราะฉะนั้นลองทำให้มันสมดุลกัน แล้วเอาตัวเลขเหล่านี้ไป อยากให้ไม่ว่าจะเป็นสถาบันราชภัฏ ราชมงคล แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยของรัฐ เอาข้อมูลเหล่านี้ไปศึกษา และท่านนำไปสู่การขับเคลื่อนของท่านว่า ท่านจะผลิตคนอย่างไร ถ้าเรามุ่งเน้นแต่เพียงว่า คนมาเรียนมาก ๆ ได้ค่าเล่าเรียนอะไรเหล่านี้ เพื่อเป็นรายได้ให้ครู มหาวิทยาลัย ผมว่าประเทศมันไปไม่ได้ มันต้องไปสองอย่าง เพราะท่านลงทุน ท่านต้องมีเงินต้องได้กำไร แต่ขณะเดียวกันท่านต้องสร้างกำไรให้ประเทศชาติด้วย ท่านอย่าลืมประเทศชาติ ประเทศชาติสำคัญไปด้วยพร้อมๆ กัน การทำงานที่เกี่ยวกับเรื่องคนจบปริญญาตรีสำคัญที่สุด หลายอย่างหลายสาขาทำงานไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาที่ไม่ชัดเจน สาขาที่รวบรวมหลายๆ อย่างมาเรียนแล้วแบ่งเล็กแบ่งน้อย บางทีเขาไม่รับ เพราะว่ามันไม่มีความชำนาญเฉพาะทาง

เพราะฉะนั้นผมอยากให้เน้นในเรื่องของเฉพาะทาง และในปริญญาตรีก่อนได้ไหม ผมไม่ใช่นักการศึกษา แต่ผมเชิงปฏิบัติ ถ้าสมมุติเราผลิตปริญญาตรีออกมา ในขณะที่เฉพาะทาง เก่งอย่างใดอย่างหนึ่งซักอย่างสองอย่าง แล้วมีงานทำเลย ขณะเดียวกันจะไปต่อปริญญาโท หรือจะเป็นหลักสูตรเสริม หลักสูตรพิเศษ อันนี้ค่อยไปเรียนบริหารจัดการที่มันรู้ทุกเรื่องได้ไหม เพราะต้องโตเป็นหัวหน้างานต่อไปไง คราวนี้เราไปเรียนในเรื่องของบริหารจัดการ พร้อมจะเป็นหัวหน้างาน เป็นข้างล่างยังไม่ได้ทำเลย แล้วมันจะไปบริหารใคร ไปไม่ถึงตรงนั้น ลองคิดแบบผมดู ผมไม่ได้คิดแบบนักวิชาการ ผมคิดแบบทหารคิดนี่แหละ เหมือนกับเราฝึกทหาร เราก็ต้องฝึกจากพลทหารเป็นผู้หมู่ เป็นผู้หมวด เป็นผู้กอง ไม่ใช่ฝึกคนมาแล้วเป็นผู้กองได้เลย ไม่ใช่ มันต้องผ่านการเป็นผู้หมู่ ผู้หมวดมาก่อน เหมือนกันลองเอาไปเปรียบเทียบดูแล้วกัน ผมไม่อาจจะกล่าวอ้างได้ดีหรือไม่ดี แต่ผมทำของผมแบบนี้ มันถึงจะเข้มแข็ง มีงานทำ มีสมรรถภาพ มีประสิทธิภาพ เราต้องรีบระดม ขอให้บุคลากรของกระทรวงศึกษา และของทุกหน่วยงาน รัฐวิสาหกิจอะไรก็แล้วแต่ บริษัท ห้าง ร้าน ภาคเอกชน ครู นักวิชาการ กรุณาให้ความร่วมมือด้วย และเวลาที่ท่านเสนอข่าวอะไรกันออกมา วิเคราะห์ วิจารณ์อะไรกันออกมาเรื่องการศึกษาระมัดระวังหน่อย บางทีมันไม่ตรง ผมไม่ได้ว่าท่าน ท่านมีสิทธิจะวิพากษ์วิจารณ์แต่การวิพากษ์วิจารณ์โดยข้อมูลไม่ครบ มันมีปัญหา เศรษฐกิจก็เหมือนกัน เศรษฐกิจก็มีปัญหา ทั้ง ๆ ที่มันมีบางอันเชื่อมโยงกันอยู่ ท่านไม่พูดถึงตรงนี้ ท่านพูดถึงแต่ปัญหาอย่างเดียว ปัญหาภายในของท่านน่ะ เป็นหลัก ไม่พอใจตรงโน้นตรงนี้ แต่ ท่านไม่ได้พูดถึงเลยว่าปัญหาของภาพใหญ่มันอยู่ตรงไหน แล้วใครจะต้องช่วยกันตรงไหน ท่านไม่พูดตรงนี้กัน เหมือนกับวันนี้ รัฐธรรมนูญ นักการเมือง อะไรก็แล้วแต่ พูดกันแต่เรื่องเลือกตั้งๆ ผมไม่เห็นมีใครพูดถึงอย่างอื่นเลยว่าจะทำการศึกษากันยังไง จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจกันยังไง ก็ดีแต่เอาเรื่องของผมไปติติง ในส่วนที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำด้วย ไปคิดใหม่ ทำใหม่ ยังมีโอกาสนะ มีโอกาสให้ท่านปรับปรุงตัวนะ ผมไม่อยากใช้คำว่าผมเก่งกว่าท่าน หรือท่านเก่งกว่าผม แต่ถ้าท่านไม่ได้มากล่าวอ้างอะไรให้ผมเสียหาย ผมก็ไม่เคยไปอยากตอบโต้ท่านอยู่แล้ว เสียเวลาการทำงานของผม หลายคนปากไม่ค่อยดี ก็คงลืมไปว่าวันนี้ผมอยู่ในตำแหน่งไหน ก็ระมัดระวังหน่อย กฎหมาย เตือนไว้ก่อน

เพราะฉะนั้นถ้าหากมีปัญหาอะไรทำได้ คือปัญหาน้อย ทำได้ก็ทำเลย ปีนี้ ปีหน้า ถ้าทำไม่ได้ก็ไปทำต่อระยะที่ 2 แต่มันต้องเนื่องกับระยะที่ 1 ไม่ใช้ทำ 1 กับ 2, 3, 4, 5 แล้วก็ทำให้เสร็จภายในปีเดียว ไม่มีอะไรเสร็จหรอกครับ เพราะความขัดแย้งสูง มันปล่อยให้เป็นแบบนี้เป็นเวลานานจนเกินไป ถ้าวันนี้นะ ถ้าวันก่อนทำถึงอย่างที่ผมว่าไว้ บางอย่างทำไปแล้ว บางอย่างกำลังทำอยู่ บางอย่างยังไม่ได้ทำ ใช้เวลา 2 ปีก็เสร็จแล้ว วันนี้ปล่อยกันมาเท่าไร เป็นสิบ ๆ ปี ยังไม่พร้อมหมด แล้วก็ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ด้วย การบริหารงานการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล เป็นผู้บังคับบัญชา ผู้มีอำนาจ คิดให้มันเป็นแบบนี้ คิดให้มันเป็นเชิงโครงสร้าง คิดให้เป็นเชิงคิดวิเคราะห์ กระบวนการเหล่านี้ คิดเป็นชิ้นๆๆๆๆ คิดแบบนี้ไม่ต้องมาเป็น ใครก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นอย่าได้มากล่าวอ้างทางโซเชียลมีเดียมากมายโจมตีกันทุกวันที่กำลังทำอยู่ในสิ่งที่ท่านไม่ได้ทำ

อีกเรื่องที่ผมให้ความสำคัญสูงสุดในขณะนี้ ผมชักรำคาญแล้ว คือ เรื่องของการทุจริต ไม่ทุจริตเหล่านี้ ผมได้หารือกับท่านรัฐมนตรี กับรองนายกรัฐมนตรีทุกท่าน ผมจะดำเนินการอย่างจริงจังในกรณีที่มีการแอบอ้างว่ายังมีการทุจริตในเชิงนโยบายอยู่ ก็ผมเป็นนโยบาย ท่านว่าผมไม่ได้ เพราะผมไม่ได้มีเจตนาทุจริตอะไรเลย ไม่เคยต้องการผลประโยชน์ แต่ท่านกล่าวอ้างว่ามีการทุจริตเชิงนโยบาย ใครล่ะทุจริตเชิงนโยบาย เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย กำหนดมาตรการ กำหนดแผนงานโครงการ แล้วมีการตรวจสอบตลอดเวลา มีคณะกรรมการ มี คตร. มีอะไรตรวจสอบตลอด ถ้าเรื่องใดมันชัดเจน ก็ส่งให้หน่วยงานตรวจสอบทุจริตเขาดำเนินการตามกฎหมาย ผมก็ทำอย่างนี้ตลอด เพราะฉะนั้นอย่ามาว่าผมไม่ดูแล

แต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือมีคนกล่าวอ้างว่า มีคนที่รู้จักกับผู้กำหนดนโยบาย ไม่ว่าจะผม หรือรองนายกฯ หรือรัฐมนตรี หรือ คสช. บางคน ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร ผมถือว่าใช้ไม่ได้ คนเหล่านี้ใช้ไม่ได้ เพราะผมถือว่าวันนี้ผมทำให้ทุกคน ไม่ได้ทำให้ทหาร ไม่ได้ทำให้ตำรวจ ไม่ได้ทำให้ข้าราชการ ผมทำให้ประชาชน 70 ล้าน เพราะฉะนั้นหากมีราชการหรือองค์การใดองค์กรหนึ่งก็ตาม เอาสิ่งที่รัฐบาล คสช. กำลังทำวันนี้ เจตนาที่ดีทุกอย่าง พยายามทำทุกอย่าง อธิบายทุกอย่าง ไปแอบอ้างว่าได้สิทธิมาจาก คสช. ได้จากผม ได้จากรองรัฐมนตรี รองฯ ประวิตรบ้าง รองอะไรก็แล้วแต่ ผมคุยกับท่านแล้ว เอาสักทีเถอะ เพราะว่ามีกลุ่มคนบางคน บางกลุ่มนำไปกล่าวอ้างว่าได้รับอนุมัติมาแล้วจากที่ผมกล่าวมาแล้ว นรม. รัฐมนตรี หรือ คสช. มาเลย มาถามผมได้เลย ส่งเอกสารมาก็ได้ ส่งเป็นเอกสารลับปิดซองเปิดผนึกมา ผมจะปิดรับให้ แล้วผมจะตรวจสอบให้ทันที ถ้ามันจริงนะ ไม่จริงก็ต้องยอมรับว่าไม่จริง ผมก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบทางลับก่อน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ หรือจะเป็นรัฐวิสาหกิจอะไรก็แล้วแต่ หรือการผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรเหล่านี้ ผมไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น

ท่านรองนายกรัฐมนตรีก็บอกแล้ว เราต้องทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น ไม่เช่นนั้นก็ถูกกล่าวอ้างทุกวัน ๆ อ้างกันไปกันมา คำพูดคนโน้นคนนี้ มันไม่มีผลหรอก อย่างน้อยก็เพียงแค่สร้างความรำคาญ เพราะหงุดหงิด ทำงานอย่างอื่นไม่ได้ ติดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็เอาหลักฐานมา ใส่ซองมา ผมตรวจให้ทันที พรุ่งนี้เอามาเลย ทุกที่ ใครอ้างใคร เรื่องอะไร ผมประโยชน์อยู่ที่ไหน เอามาผมสอบให้ ผมไม่ต้องการให้มีคนเลวเหล่านี้อยู่ เราต้องเร่งกำจัดออกไป ต้องสร้างน้ำดี ไล่น้ำเสียออกไป เพราะหลายคนท่านอาจจะไม่เข้าใจว่าทุกคนก็มีเพื่อน มีญาติสนิทมิตรสหายเยอะแยะไปหมด ก็เคยพบปะพูดคุยกันมาตลอดเวลาในช่วงที่ผ่านมาก่อน 22 พฤษภาคม เป็นเพื่อนกัน เป็นมิตรสหายกัน ก็มีความจริงใจให้กัน ตอนนั้น คสช.ยังไม่ได้มีอำนาจอะไร ยังไม่ได้มาบริหาร เราต้องคำนึงถึงแต่ความเป็นเพื่อน รู้จักกันมาแต่เก่าแก่ ธรรมดาทุกคนก็มีเพื่อนหมดและ เราอ้างจะไม่รู้ก็ได้ว่าเขาเป็นยังไงทั้งจริง ๆ แล้ว เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วเขาจะเป็นยังไง เวลาหรือสถานการณ์มันทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ คนเราเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ด้วย ทางธรรมะเขาก็บอกไว้ว่า คนเราจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยอำนาจและผลประโยชน์ แต่ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง แล้วผมก็คิดว่า รองฯ ประวิตรหรือว่ารัฐมนตรีผมก็ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะว่าเราเสียสละเข้ามา เสียสละเข้ามา คือเสียสละให้ผมไง ผมบังคับเขาบ้างอะไรมาบ้างให้มาช่วยกันทำงาน เขาก็เสี่ยงเหมือนกัน แต่ทั้งนี้มันก็ไปทั้งขบวน คือข้าราชการทุกกระทรวงก็ต้องร่วมมือกัน คืออย่าไปฉลาดน้อย ให้เขามาอ้างว่าวันนี้นายกสั่งมาเป็นนโยบาย ถามผมก่อน ได้ทุกวัน ถ้าใครอ้างแบบนี้ผมมา ผมจะเล่นงานให้ ไอ้พวกอ้าง ๆ นี่ตัวดีนัก

วันนี้ไม่ว่าจะเพื่อน ไม่ว่าจะใครก็แล้วแต่ ถ้าทุจริตผมไม่ละเว้น เพราะพวกผมไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะว่าปัญหามากมาย งานหลัก งานใหญ่ของชาติเยอะแยะ ถ้าผมมาเห็นผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ ผมอย่าเข้ามาดีกว่า ทุกคนไม่อยากเข้ามาหรอก ไม่อยากเข้ามาอยู่แล้ว แต่ต้องเข้ามา เมื่อเข้ามาก็ต้องอยู่ ทำให้สำเร็จ ไม่มีท้อแท้ แล้วผมก็จะหนักขึ้นเรื่อย ๆ การใช้อำนาจของผม จำไว้แล้วกัน วันนี้ต่างชาติก็เข้าใจผมมากขึ้น

เพราะฉะนั้นการที่เราจะทำสิ่งดี ๆ ให้กับประเทศของเรา ไม่ต้องกลัวอะไรหรอก ผมคิดว่าทำความดีต้องปลอดภัย ก็ขอร้องเลิกสักที อย่าไปเขียน เขียนจดหมายมาหาผมเลย เรื่องบอร์ด เรื่อง CEO เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เดี๋ยวผมจะรื้อทั้งหมด จำไว้ อย่ามาอ้างใครอีกว่าเด็กคนโน้นเด็กคนนี้อะไรต่าง ๆ ผมไม่ยอมทั้งสิ้น เพราะอำนาจผมคนเดียว ผมเป็นผู้รับผิดชอบ แล้วผมก็จะปรึกษาทุกท่าน รองนายกฯ รัฐมนตรีทุกคน เอาคนดีมาทำงาน ไม่ดีเอาออกไป กำจัดทิ้งไป วันนี้ประเทศชาติสำคัญที่สุด

สุดท้ายนี้ อยากให้พี่น้องประชาชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีกิจกรรม กระชับความสัมพันธ์ เดินทางท่องเที่ยว ใช้เงินไม่ต้องมากนักก็ได้ เมื่อวานผมไปที่จีน เห็นคนเที่ยวเต็มไปหมดเลย แล้วก็ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวก็ค่อนข้างสูง เขาถึงชอบมาประเทศไทย เพราะค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก ทุกคนรักประเทศไทยหมดล่ะ เว้นคนไทยบางคนไม่ค่อยรักประเทศตัวเอง เพราะฉะนั้นก็อยากให้เสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน เรียกว่าการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน สมาชิกในครอบครัว เพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสรรค์ไง รวมกันเพื่อสร้างสรรค์ ไม่ใช้รวมกันเพื่อขัดแย้งๆๆ รวมกันเป็นกลุ่มแล้วขัดแย้ง ผมว่าไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย

ที่ผ่านมา ก็เป็นตัวอย่างอยู่แล้ว เป็นบทเรียนอยู่แล้ว จะดูหนังดูละครต่าง ๆ ก็เชิญ ผมไม่ได้ต่อต้าน จะหาว่าผมไม่ให้คนดูละครไม่ให้ดูหนัง เด็กๆ ผมก็ชอบดู ชอบอ่านนิยายอะไรเหมือนกัน พอโตขึ้นมาก็ไม่ค่อยมีเวลา ทำงานเยอะก็เลยไม่มีเวลา บางทีก็เลยเครียดไปหน่อย บางทีถ้าดูละครอาจอารมณ์ดีกว่า เดินก็ได้ ขอเวลาบ้าง ถ้าลดขัดแย้งมาก ๆ ผมก็จะอารมณ์ดี สนุกสนานเหมือนกับท่าน อยากเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกัน

อยากให้แยกแยะเรื่องจริงกับละครด้วย เด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็ก ๆ เมืองนอกเขากำหนดอายุ ของเรากำหนดแต่ก็ไม่ได้ทำ ใครอยากดูก็ดู พ่อแม่ก็ต้องดูแลจะได้ไม่สับสน ดูบ้านเมืองเขา ดูประเทศเรา ดูความแตกต่าง ดูความพร้อม ดูสังคมเรา สังคมเขา ดูการศึกษาเรา ดูการศึกษาเขา ดูความเป็นอยู่เขากับเรา รายได้เขากับเรา ดูความแตกต่างดูความพร้อม ดูสังคมเราสังคมเขา ดูการศึกษาเราการศึกษาเขา ดูความเป็นอยู่เขา เขากับเรา เมื่อเทียบกันออกมาแล้ว เราควรจะอยู่ตรงไหน แล้วเราควรจะพัฒนาอย่างไรเพื่อให้เท่าเทียมเขา ไม่ใช่เอาแต่สิ่งที่ดีเขามาแล้วเราต้องเป็นให้ได้แบบเขา เป็นไม่ได้หรอกครับ ถ้าเราไม่พร้อมเรื่องคน ทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

วันนี้ผมถูกต่อว่า หลายคนว่าผมไปเอาใจออกห่างละครไทย ไม่ใช่ ผมยกตัวอย่างอันเดียวเอง หลายประเทศเขาก็ทำหมด เรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ เรื่องประวัติศาสตร์มากมายไป แต่เขาทำได้สนุก แล้วมีคำสอน มีคำคม มีคติพจน์มากมาย มากกว่าด่ากันไปด่ากันมา ผมว่าต้องลดลงบ้าง แล้วก็หาคติพจน์ ผมเคยถามแล้วว่า เราสร้างเรื่องนี้มาเพื่ออะไร อ๋อ เพื่อความบันเทิงครับ แล้วได้อะไรมาอีก ก็สอนให้คนคิดครับ แล้วคิดยังไง แล้วแต่คนจะคิดครับ แล้วคนของเราคิดได้หรือไม่ โดยเฉพาะเด็ก ๆ คิดได้อย่างไร พูดมาแล้วให้เขาคิดหาคำตอบเอง ไม่ได้หรอก บางอย่าง ต้องชี้แนะ ต้องนำทางให้เขา ต้องคำนึงถึงวัยที่แตกต่าง ผู้ใหญ่ แยกแยะออก แต่เด็กเขาแยกแยะไม่ออก จะให้เด็กคิดเหรอว่าที่ด่ากันว่าดีหรือไม่ดี วันหน้าเขาเอาตัวอย่างเสีย ๆ หาย ๆ วันนี้เห็นอยู่แล้ว เด็กพูดจาไม่ไพเราะ พูดจากับผู้ใหญ่ไม่มีสัมมาคารวะ นั่นล่ะคือสิ่งที่เราต้องแก้ไข เราต้องส่งเสริม หลายเรื่องเราดีอยู่แล้ว เช่น เรื่องปดิวรัดา ผมไม่ได้ดูนะ แต่เห็นเขาว่าดี เป็นการส่งเสริมอุดมการณ์ทำงานของราชการและธรรมมะของผู้ครองเรือน อีกเรื่อง วันแสบสาแหรกขาด ไม่ได้ดูเหมือนกัน เขาว่าดี กำลังฉายอยู่ ลองไปดูกัน มุ่งเน้นการดูแลปลูกฝังลูกหลาน ของเราในทางที่ถูก แก้ปัญหาเยาวชนในทางที่ถูก มีทั้งบ้านและโรงเรียนเป็นส่วนสำคัญ ร่วมมือกัน

อีกอันเป็นละครเวทีเรื่อง ผ้าห่มผืนสุดท้าย ผมให้แต่งในวาระสำคัญของกองทัพบกตอนผมอยู่ คือ ธงไตรรงค์ ยามตาย ทุกคนทำหน้าที่ ถ้าตายก็มีผ้าห่มผืนสุดท้ายคือ ธงไตรรงค์ ที่ภาคภูมิใจให้กับครอบครอบครัวคือ ผืนเดียวเท่านั้นเอง เป็นเรื่องราวของชีวิตที่เสียสละและรักครอบครัว ลองไปดูว่าสาระเป็นอย่างไร ทำไมเราถึงจะต้องพร้อม นี่ผมพูดถึงทหาร ถ้าตายก็มีธงไตรรงค์ เท่านั้นเอง เอาอะไรไปไม่ได้ ลูกหลานลำบากอีก ก็ไม่รู้อีก เพราะหนี้สินก็เยอะเหมือนกัน ทำอย่างไรให้เขามีขวัญกำลังใจ สู้รบได้ ลูกเมียเขาไม่ลำบาก ก็ไปสู่ที่ผมไปทำวันนี้ เรื่องการดูแลที่อยู่อาศัย เรื่องที่อยู่ที่เป็นของเขาเอง ข้าราชการ พลเรือน ทหาร ทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด มันยังระยะที่ 1 ไปถามรัฐบาลหน้าจะทำอย่างไรต่อไป อยากให้ถามเขาบ้าง ตอนนี้ท่านถามผมอยู่ข้างเดียว ทั้งประชาชนก็ถามผม ฝ่ายต่อต้านก็ถามผม แล้วทำไมไม่ไปถามคนที่จะบริหารต่อไปด้วยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป เอาคำถามที่ถามผมไม่ถามเขา สื่อฝากด้วย

การแสดงละครเวทีเมื่อกี้ อาจจะไม่สะดวกมากนัก เพราะน่าจะเอาเป็นเทปหรือซีดีออกมาให้ดู แสดงถึงวันที่ 3 เมษายน โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย ใครมีโอกาส ใครมีความสามารถ ก็ไปติดตาม ก็มาเล่าสู่กันฟัง ทุกอย่างคนไทยจะได้ไม่เครียด วันนี้เครียดเหลือเกิน ผมเครียดมาก ทั้งบริหารประเทศ ทั้งแก้ปัญหา ทั้งรัฐธรรมนูญ ทั้งปฏิรูป คสช.เดี๋ยวเลือกตั้งอีก มีบางคนบอกว่าผมต้องรับผิดชอบ ให้ผมลาออก เอ๊ะ ถ้าพูดอย่างนี้อันตราย ระวังตัวไว้ ด้วยคนพูดอย่างนี้ บอกถ้าไม่เรียบร้อยไม่ผ่านผมจะต้องลาออก มันเรื่องอะไรของคุณล่ะ เดี๋ยวผมจะดำเนินการกับคุณทางกฎหมาย

อีกเรื่องหนึ่ง ช่วงนี้ฤดูร้อนแล้ว เป็นช่วงปิดเทอม ผู้ปกครองก็ทำงานทุกวัน หาเงินเลี้ยงลูก ก็ขอให้เด็กๆ ที่บ้านระมัดระวังตัวเองด้วย อย่าเล่นกับไฟ อย่าเล่นอะไรที่เป็นอันตราย ฝากลุง ป้า ปู่ ย่า ตา ยาย ดูแลด้วย การเล่นน้ำแก้ร้อนก็ระมัดระวังจมน้ำ เด็กจมน้ำหลายที่อันตรายมาก อย่าปล่อยให้เกิดขึ้น การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ อย่าให้ไฟดูด การเล่นกลางแจ้งก็ต้องดูแลตัวเอง อย่าให้เป็นไข้ ไม่สบาย มีคนคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถ้ามีภัยมีเหตุฉุกเฉินก็ช่วยกันนะครับ

สำคัญที่สุดตอนนี้ คือ ช่วยกันประหยัดไฟ ประหยัดน้ำ ผมอยากใช้คำว่า ไม่มีใครที่ไหนจะเข้าใจเรา ช่วยเรา มากกว่าพวกเราซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันเอง เรื่องอะไรที่ขัดแย้ง ยังทำไม่ได้ ค่อย ๆ แก้กันไป แสวงหาความเหมือนในความแตกต่างมาทำให้ได้ก่อนในช่วงนี้ เอาประเทศชาติและอนาคตมาก่อน อย่าเพิ่งไปฟังอะไรที่มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง หรือไปขยายความให้เขา พวกผู้ไม่หวังดีมีอยู่มาก ขอบคุณครับ ขอให้มีความสุขในวันเสาร์-อาทิตย์ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น